ดูไบเตรียมพัฒนาศูนย์โลจิสติกส์กระจายอาหารสดที่ใหญ่ที่สุดในโลก

รัฐดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออีประกาศแผนการจัดตั้งศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และ  โซ่อุปทานอาหารสดและผลิตภัณฑ์อาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก นับเป็นก้าวสำคัญในการกระจายเศรษฐกิจและเพิ่มโอกาส   ในการลงทุน ศูนย์โลจิสติกส์ที่วางแผนว้นั้นจะสอดรับกับวาระเศรษฐกิจ Dubai Economic Agenda D33 ของรัฐบาลยูเออีที่มีเป้าหมายเพิ่มเศรษฐกิจของเมืองเป็น 2 เท่า หรือให้เป็นมูลค่า  8.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2573

เทศบาลรัฐดูไบ (Dubai Municipality) และ บริษัท Dubai Port World หรือ DP World ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อขยายตลาดผักและผลไม้ในปัจจุบันให้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า และเป็นกลไกหลักสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายดังกล่าว

สํานักข่าวดูไบระบุว่าการพัฒนาและการจัดการโครงการนี้ รับผิดชอบโดย DP World ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์การขนส่งสินค้า การบริหารจัดการท่าเรือ เขตการค้าเสรีและการขนส่งสินค้าทางทะเลร่วมกับเทศบาลรัฐดูไบ หน่วยงานกำกับดูแลการนำเข้าอาหาร อนุญาตการนำเข้า และตรวจสอบการนำเข้าอาหาร ณ ด่านอาหารที่ท่าเรือและสนามบิน อย่างไรก็ตาม รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวยังไม่ได้รับการเปิดเผย

Sheikh Mohammed bin Rashid รองประธานาธิบดีและเจ้าผู้ครองนครดูไบ ซึ่งเข้าร่วมในการลงนามกล่าวว่า การขยายตัวและเพิ่มพื้นที่เมื่อสร้างเสร็จ จะมีขนาดใหญ่กว่าตลาดค้าผักผลไม้ปัจจุบันถึง 2 เท่า จะช่วยสนับสนุนวาระทางเศรษฐกิจของดูไบที่วางไว้ อีกทั้งจะสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนให้ขยายใหญ่ขึ้น และเน้นถึงสถานที่ตั้งทางยุทธศาสตร์และโครงสร้างพื้นฐานขั้นสูงของดูไบ ที่ดึงดูดบริษัทขนาดใหญ่อยู่แล้ว อีกทั้งความพยายามของดูไบในการสร้างโอกาสในการลงทุนสำหรับบริษัทและเยาวชนระดับโลก โดยบูรณาการเข้ากับโครงการพัฒนา

การเติบโตของการค้าอาหาร

 นาย Sultan Ahmed bin Sulayem เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ DP World กล่าวว่าทำเลยุทธศาสตร์ของดูไบตอกย้ำจุดยืนการเป็นตลาดการค้าอาหารโลก โดยเฉพาะผักและผลไม้ อุตสาหกรรมนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดท้องถิ่นและการส่งออก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าดูไบสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสอันยิ่งใหญ่      ผ่านโครงการเชิงกลยุทธ์ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และตลาดอาหารผักและผลไม้จะถูกสร้างขึ้นใหญ่เป็นสองเท่าของตลาดของดูไบปัจจุบันโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความน่าดึงดูดใจของดูไบในฐานะศูนย์กลางการค้า ทั้งนี้จากรายงานการจดทะเบียนธุรกิจและใบอนุญาตของดูไบ( Business Registration & Licensing : BRL) ปี 2563  แสดงจํานวนบริษัทที่ประกอบธุรกิจผักและผลไม้มี 2,495 ราย บริษัทค้าผักและผลไม้แห้ง 557 บริษัท ดูไบมีโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยและบริการโลจิสติกส์ที่ช่วยให้ธุรกิจประสบความสําเร็จ บางบริษัทก่อตั้งมานานกว่า 60 ปี

ธุรกิจค้าผักผลไม้สดมีการจ้างงาน 8,799 คน ซึ่งตามรายงานระบุการออกใบอนุญาตค้าผักผลไม้ในเขตต่าง ๆ ของดูไบ ได้แก่ เขต Bur Dubai ซึ่งมีส่วนแบ่งสูงสุด ( 1522 แห่ง ) ตามด้วยเขต Deira ( 961 แห่ง) และเมือง Hatta ( 12 แห่ง) พื้นที่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมผักผลไม้ที่สำคัญ คือ Ras Al Khor Industrial Area 3 ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดค้าส่งผักผลไม้สด เขต Ras Al KhorและAl Garhoud และ Port Saïd เป็นพื้นที่ตั้งของบริษัทค้าอาหาร โกดังเก็บอาหารที่นำเข้า

ยูเออีนำเข้าอาหาร

ยูเออีมีความสามารถในการเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรต่ำ  ต้องพึ่งพาการนำเข้าอาหารและเครื่องดื่มจากต่างประเทศเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ด้วย สภาพภูมิอากาศที่แห้งแล้ง ขาดแคลนแหล่งน้ำใต้ดิน ประกอบกับพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับทำการเกษตรที่มีอยู่น้อยมาก ส่งผลให้ต้องมีการนำเข้าอาหารมากถึงร้อยละ 80 ของความต้องการบริโภคทั้งหมดภายในประเทศ การค้าอาหารแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ อาหารสดและอาหารสำเร็จรูป (Packaged food) มูลค่าการนำเข้าอาหารในปี 2566 ประมาณ 15,627 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กลุ่มอาหารนำเข้าที่สำคัญ 10 อันดับแรก ได้แก่ เนื้อสัตว์ ถั่ว เครื่องดื่ม ธัญญพืช ผลิตภัณฑ์นมเนย อาหารแปรรูป (ไอศกรีม ซุป) ชากาแฟ ผัก และธัญญพืชแปรรูป ประเทศที่นำเข้าหลัก คือ กลุ่ม EU อินเดีย บราซิล ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา ซาอุดิอาระเบีย และอื่น ๆ

การส่งออกอาหารของไทย

ปัจจุบันยูเออีเป็นตลาดส่งออกอาหารของไทยมูลค่ามากเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคตะวันออกกลางมูลค่าและอัตราการขยายตัวที่ส่งออกไปยูเออีในช่วง 3 ปี พอสรุปได้ดังนี้

ปี 2565 มูลค่า 359.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  (+34.3%)

ปี 2566 มูลค่า 326.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  (-9.1%)

ปี 2567 (มค.-พค.) มูลค่า 181.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+28.0%)

สินค้าอาหารที่ส่งออก 10 อันดับแรก ได้แก่ ปลากระป๋อง  ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูป ผลไม้กระป๋อง เครื่องดื่ม ผลไม้สด ปลาสดแช่แข็ง ข้าว ซอสและเครื่องปรุงรส ผักสด และสินค้าเกษตรอื่น ๆ

รัฐดูไบมีการจัดงานแสดงสินค้าอาหารขึ้นทุกปี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในช่องทางทางการตลาด ที่ทำให้ผู้ประกอบการสามารถโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าอาหารและเครื่องดื่มได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อย่างมากต่อการเจรจาการค้ากับคู่ค้าทางธุรกิจกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในยูเออีและตะวันออกกลาง โดยมีงานแสดงสินค้าอาหารที่น่าสนใจ คือ Gulfood ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงต้นปี และ Organics and Natural Products   จัดขึ้นในช่วงปลายปีของทุกปี

—————————————————————————

 

ที่มา :  Gulfnews

 

 

thThai