“พาณิชย์-DITP”แนะผู้ส่งออกบุกตลาดเครื่องดื่มในจีน ชี้เป้าขายน้ำกระเจี๊ยบ ใบบัวบก

“พาณิชย์-DITP”แนะผู้ส่งออกบุกตลาดเครื่องดื่มในจีน ชี้เป้าขายน้ำกระเจี๊ยบ ใบบัวบก

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) สำรวจตลาดเครื่องดื่มในจีน พบเติบโตต่อเนื่อง มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเพียบ แถมใส่นวัตกรรมแบบจัดเต็ม ทั้งลดเครียด เสริมความงาม ดูแลสุขภาพ รักษ์สิ่งแวดล้อม บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลได้ แนะผู้ส่งออกไทย ขายเครื่องดื่มจากพืช น้ำกระเจี้ยบ น้ำใบบัวบก บวกฟังก์ชันไร้ไขมัน ไร้น้ำตาล ส่วนการเจาะตลาด เน้นทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ ใช้อินฟลูเอนเซอร์ช่วยโปรโมตร่วมมือคู่ค้าทำ Co-Brand
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า
กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆทำการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ ให้รายงานผลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสาวบูชิตา อินทรทัศน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้า
ในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงการเติบโตของตลาดเครื่องดื่มในจีน ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มใหม่ๆ
ที่กำลังขยายตัว และโอกาสในการส่งออกสินค้าเครื่องดื่มของไทยเข้าสู่ตลาดจีน
โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานว่า อุตสาหกรรมครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ของจีน เป็นตลาดที่กำลังเฟื่องฟู เนื่องจาก
การฟื้นตัวของกิจกรรมทางสังคม ผลิตภัณฑ์มีความหลากหลาย และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง อยู่เสมอ อุตสาหกรรมนี้ จึงมอบโอกาสมากมายให้กับผู้เล่นในและต่างประเทศ โดยในปี 2566 ขนาดตลาด สูงถึง 1.7395 ล้านล้านหยวน (8.6975 ล้านล้านบาท) โดยธุรกิจเครื่องดื่มซอฟต์ดริ๊ง ครองส่วนแบ่งในตลาด ร้อยละ 68.36 เติบโตร้อยละ 4.1 และร้านเครื่องดื่ม ครองส่วนแบ่งในตลาดร้อยละ 19.30 เติบโตร้อยละ 21.5 แต่ผล การสำรวจในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคร้อยละ 87.4 มีความถี่ในการบริโภคในร้านเครื่องดื่มประเภทชารูปแบบใหม่เพิ่มขึ้น มีความถี่ในการบริโภคเครื่องดื่มรวมถึงน้ำบรรจุขวดลดลง
ทั้งนี้ เครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศจีน ได้แก่ น้ำดื่มบรรจุกล่อง เครื่องดื่มอัดลม ผลิตภัณฑ์นม และน้ำอัดลม โดยมีอัตราการบริโภค 63%, 55%, 54% และ 42% ตามลำดับ ส่วนแนวโน้มการพัฒนาเครื่องดื่มชนิดใหม่ๆ จะให้ความสำคัญกับคุณสมบัติพิเศษ อาทิ ลดความเครียด เสริมความงาม ดูแลสุขภาพ รักษ์สิ่งแวดล้อม บรรจุภัณฑ์สามารถนำมารีไซเคิลได้ หรือเบียร์หรือไวน์แบบไม่มีแอลกอฮอล์ เป็นต้น
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ตลาดและมีความแปลกใหม่ อาทิ แบรนด์หวางเหล่าจี๋ เปิดตัวชาสมุนไพร รสผักคาวทอง ที่มาพร้อมกับความซ่าไร้น้ำตาล แคลอรี่และไขมัน 0% จากก่อนหน้านี้ เปิดตัวชาสมุนไพรรสองุ่น+ฮวาเจียว
รสทุเรียน รสคามิเลีย แบรนด์ IF ได้ผสมผสานความหอมจากชาและน้ำมะพร้าวออกมาได้อย่างลงตัว แถมยังไม่ใส่ กรดเบนโซอิก เกลือโซเดียม กรดซอร์บิกและเกลือโพแทสเซียม บรรจุภัณฑ์ยังปรับสีให้เข้ากับสีชา Nestle นำเสนอ น้ำมะพร้าวนำเข้าจากเวียดนามและอินโดนีเซีย มีน้ำกะทิมากกว่า 13% น้ำมะพร้าวมากกว่า 20% มีใยอาหาร 1.2 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร ไม่มีไขมันทรานส์ และยังมีแบรนด์อื่น ๆ เช่น โค้กรสขิงสดของโคคาโคล่า น้ำผักชีของแบรนด์ Huiyuan โค้กรสพิมเสนของการ co-branding ระหว่างบริษัท Taiji Group และ Tianfu Kele น้ำอัดลมรสขิงของ WATSON น้ำอัดลม รสไก่ย่างของ YUYUAN ชาผลไม้รสยำตีนไก่จากแบรนด์ Meco กาแฟกระเทียมของแบรนด์ MOSHUISHI และน้ำอัดลมน้ำมันดอกคำฝอยของแบรนด์ ASIA เป็นต้น
นายภูสิตกล่าวว่า ตลาดเครื่องดื่มเป็นตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีการแข่งขันที่รุนแรง ในทุกปีจึงมีแบรนด์จำนวนมากออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มานำเสนอผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรสชาติ รสนิยม และการสร้างประสบการณ์ที่ดี ต่างเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญ ตลาดเครื่องดื่มนับเป็นอีกตลาดที่มีโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะเข้ามาทำการตลาด โดยสามารถพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ การนำเสนอรสชาติที่แปลกใหม่สำหรับชาวจีนจากพืชของไทย ที่มีคุณสมบัติดีต่อสุขภาพเป็นธรรมชาติ แก้กระหายดับร้อนในช่วงหน้าร้อนนี้ อย่างน้ำกระเจี้ยบ และน้ำใบบัวบก ที่ชาวไทยคุ้นเคยกันดี การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และเพิ่มประสิทธิภาพ โดยเพิ่มฟังก์ชั่นตามกระแสดื่มเพื่อสุขภาพ เช่น 0% แคล 0% ไขมัน 0% น้ำตาล
การจัดการห่วงโซ่อุปทานให้สามารถกระจายสินค้าได้ทั่วถึง การปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาด จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย กระตุ้นความสนใจจากผู้บริโภค การกระจายรูปแบบธุรกิจให้ครอบคลุมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ การสร้าง ความต่างให้กับผลิตภัณฑ์ อาจสร้างเรื่องราวหรือออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีลูกเล่น หาความร่วมมือกับคู่ค้าท้องถิ่น ในการ Co-Brand ร่วมมือกับผู้มีชื่อเสียงท้องถิ่นในการประชาสัมพันธ์สินค้าให้เป็นที่รู้จักทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มอย่างลึกซึ้ง เพื่อวางตำแหน่งทางการตลาดให้ชัดเจน จะทำให้สินค้าไทยเป็นที่ต้องการและเจาะเข้าสู่ตลาดจีนได้เพิ่มขึ้น
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169
****************************************
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
… กรกฎาคม 2567

thThai