ที่มา : สำนักข่าว Utusan Malaysia
รัฐบาลมาเลเซียแสดงความมุ่งมั่นในการพัฒนาทักษะด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศสู่ยุคดิจิทัล โดยกระทรวงการลงทุน การค้า และอุตสาหกรรม (MITI) ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา (KPT) กำลังเตรียมเสนอแนวทางพัฒนาทักษะด้าน AIในงบประมาณปี 2025
Tengku Datuk Seri Zafrul Abdul Aziz รัฐมนตรีว่าการกระทรวง MITI เปิดเผยระหว่างการประชุม AI 2024 ที่ Menara BAC ว่า “การเตรียมความพร้อมในด้านทักษะ AI สำหรับอุตสาหกรรมนี้เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เราต้องการให้บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยและการฝึกอบรมเทคนิคและอาชีวศึกษา (TVET) สามารถปรับตัวและพร้อมที่จะทำงานในบริษัทต่างๆ ที่กำลังนำ AI มาใช้”
ข้อเสนอนี้จะถูกส่งให้กระทรวงการคลัง (MOF) พิจารณา โดยทั้งสองกระทรวงจะร่วมแบ่งปันแนวคิดเพื่อให้แน่ใจว่าประเทศมีการวางแผนทักษะที่เพียงพอในการสนับสนุนอุตสาหกรรม AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ Tengku Zafrul ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างระบบนิเวศ AI ที่แข็งแกร่ง
โดยกล่าวว่า “เราต้องการให้รัฐบาล นักวิชาการ และอุตสาหกรรมสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างระบบนิเวศ AI ที่เจริญรุ่งเรืองและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยเฉพาะชุมชนที่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนเพียงพอ”
ภายใต้แผนแม่บทอุตสาหกรรมใหม่ปี 2030 (NIMP 2030) มาเลเซียตั้งเป้าสร้างโรงงานอัจฉริยะ 3,000 แห่ง เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ผลิตจะมีการเตรียมพร้อมที่ดีสำหรับการนำ AI และเทคโนโลยีดิจิทัลมาบูรณาการในการดำเนินงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความทะเยอทะยานในด้าน AI ของประเทศ
การประชุม AI 2024 ภายใต้หัวข้อ ‘AI ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ: โอกาสและความท้าทาย’ จัดขึ้นโดย Electrical and Electronics Productivity Nexus (EEPN) และ Digital Productivity Nexus (DPN) ของ Malaysian Productivity Corporation (MPC) เพื่อรวบรวมผู้นำอุตสาหกรรม ข้าราชการ และผู้เชี่ยวชาญ ด้าน AI มาหารือเกี่ยวกับผลกระทบของปัญญาประดิษฐ์ที่มีต่อเศรษฐกิจและประสิทธิภาพการทำงานของมาเลเซีย
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของมาเลเซียในการเตรียมพร้อมแรงงานและอุตสาหกรรมของประเทศให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว โดยมุ่งหวังที่จะยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลกผ่านการพัฒนาทักษะด้าน AI และการสร้างระบบนิเวศทางเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง
บทวิเคราะห์ผลกระทบ
รัฐบาลมาเลเซียได้ประกาศความมุ่งมั่นในการพัฒนาทักษะด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและสร้างความสามารถในการแข่งขันในระดับภูมิภาค ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนให้ประเทศไทยเร่งพัฒนาทักษะด้าน AI ของตนเอง ไม่เช่นนั้นอาจเสี่ยงต่อการสูญเสียความได้เปรียบในตลาดโลก นักลงทุนและผู้ประกอบการไทยจึงควรมองหาโอกาสในการร่วมมือกับมาเลเซียในด้านเทคโนโลยีและการพัฒนาบุคลากร ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันและเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการขยายธุรกิจไปยังตลาดที่กำลังเติบโต
ในขณะเดียวกัน ภาคการศึกษาในประเทศไทยจำเป็นต้องปรับปรุงหลักสูตรให้สอดคล้องกับ
ความต้องการของตลาดแรงงานในยุคดิจิทัล การพัฒนาทักษะ AI และเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้กับนักศึกษาเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้พวกเขาพร้อมสำหรับการทำงานในอนาคต การเตรียมความพร้อมในด้านนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างแรงงานที่มีคุณภาพสูงเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในระดับภูมิภาค ซึ่งกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น สคต.
การที่มาเลเซียเร่งพัฒนาทักษะด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นก้าวสำคัญที่ส่งผลต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยรวม ประเทศไทยในฐานะเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด ควรจับตามองและวิเคราะห์ถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการพัฒนานี้ มาเลเซียไม่เพียงแค่สร้างความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้มีการเตรียมความพร้อมของบุคลากรในด้าน AI และเทคโนโลยีซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล การเคลื่อนไหวนี้เป็นการกระตุ้นให้ประเทศไทยเร่งพัฒนาทักษะ
ในด้าน AI เพื่อไม่ให้สูญเสียความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก
สคต. มีความเห็นว่า การสร้างความร่วมมือกับมาเลเซียในด้านการพัฒนาทักษะและเทคโนโลยีอาจเป็นโอกาสสำคัญในการยกระดับศักยภาพของไทย การร่วมมือกันในด้านนี้สามารถเปิดประตูสู่การขยายธุรกิจและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาดภูมิภาคและตลาดโลก อีกทั้งภาคการศึกษาในไทยควรพิจารณาปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัย เพื่อเตรียมนักศึกษาให้พร้อมสำหรับการทำงานในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับ AI ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างฐานกำลังคนที่มีทักษะสูงและเป็นการสร้างอนาคตที่มั่นคงสำหรับประเทศไทยในยุคดิจิทัลนี้
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์