ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงระดับพรีเมียม ซึ่งเป็นอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีราคาสูงกำลังขยายตัว อาหารสัตว์เลี้ยงได้เปลี่ยนจาก “อาหาร” มาเป็น “มื้ออาหาร” ความต้องการของผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้เปลี่ยนจากการเลือกซื้อแบบแพ็คขนาดใหญ่ที่คุ้มค่า ไปเป็นอาหารสัตว์เลี้ยงประเภทพรีเมียมที่เน้นคุณสมบัติด้านสุขภาพและใช้วัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดี

การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเริ่มได้รับความสนใจตั้งแต่ช่วงปี 2493 หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ในขณะนั้น การเลี้ยงสุนัขเพื่อเป็นสุนัขเฝ้าบ้านนอกอาคารเป็นหลัก แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความต้องการของผู้เลี้ยงสัตว์ ที่มองว่าสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกครอบครัวที่มีความสำคัญ ที่อยู่ร่วมกันในชีวิตของพวกเขากลายเป็นสิ่งที่ทำให้มีความสุขขึ้นในสังคม ต่อมามีการผลิตและวางจำหน่ายสินค้ามากมายเพื่อตอบสนองต่อปัญหาด้านสุขภาพของสัตว์เลี้ยง เช่น อาหารที่ไม่มีธัญพืชที่ใช้เนื้อสัตว์ ปลา และผักเป็นวัตถุดิบหลัก อาหารที่ไม่ใช้สารแต่งสีสังเคราะห์หรือสารกันเสียสังเคราะห์ รวมถึงอาหารที่มีลักษณะเหมือน “Handmade” หรือ อาหารที่ไม่ได้ใช้เครื่องจักรในการผลิต ซึ่งมีคุณภาพสูงกว่าเนื่องจากความละเอียดอ่อนและความใส่ใจในรายละเอียดซึ่งตอบสนองความต้องการของผู้เลี้ยงสัตว์ ที่ต้องการให้สัตว์เลี้ยงได้รับผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ
คาดว่ามูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในปี 2566 จะอยู่ที่ 8.9 แสนล้านเยน และคาดว่าจะเติบโตเป็น 9.65 แสนล้านเยนในปี 2568 ซึ่งเพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับปี 2566 แม้ว่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงทั้งหมดจะเติบโตในแง่ของมูลค่า แต่ก็ยังมีความกังวลอยู่ เช่น การลดลงของจำนวนสุนัขที่เลี้ยงและความนิยมของสุนัขขนาดเล็กซึ่งส่งผลให้ปริมาณการบริโภคอาหารสุนัขลดลงและตลาดอาหารสุนัขยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่อง
จำนวนสุนัขที่เลี้ยงลดลงจากจุดสูงสุดที่ 6.88 ล้านตัวในปี 2552 เป็น 6.10 ล้านตัวในปี 2565 ตามการสำรวจของสมาคมอาหารสัตว์เลี้ยง ปัจจัยที่ขัดขวางการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงคือการที่มีจำนวนคนที่อาศัยอยู่ในอาคารชุดที่ห้ามเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น และการลดลงของจำนวนคนในครัวเรือนทำให้การดูแลสัตว์เลี้ยงยากขึ้น นอกจากนี้ ราคาของอาหารสัตว์เลี้ยงยังมีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากต้นทุนการผลิตและการขนส่งที่สูงขึ้น สภาพเศรษฐกิจที่แย่ลงของผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยง อาทิ รายได้ที่ไม่เพิ่มขึ้นก็ส่งผลกระทบในทางลบต่อตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงระดับพรีเมียมเช่นกัน
สำหรับผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ที่รักสัตว์เลี้ยงเหมือนลูกของตนเอง มักจะยินดีจ่ายเงินอย่างไม่ลังเลหากผลิตภัณฑ์มีคุณภาพเป็นที่พอใจ ในหลายกรณีที่ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่พบว่าผู้บริโภค“มูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงระดับพรีเมี่ยมญี่ปุ่น พุ่ง 9.65 แสนล้านเยน”“มูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงระดับพรีเมี่ยมญี่ปุ่น พุ่ง 9.65 แสนล้านเยน”ขาดความพึงพอใจด้านคุณภาพก็จะมากขึ้น เช่น มีการขยายไลน์อัพผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงที่ใช้เนื้อสัตว์ ปลา และผักคุณภาพสูงที่มีความหรูหรา บริษัท K9 Natural Japan เป็นร้านอาหารสัตว์เลี้ยงระดับพรีเมียมที่ขายผลิตภัณฑ์ที่ใช้เนื้อแกะซึ่งมีปริมาณ L-Carnitine สูง ซึ่งช่วยในการเผาผลาญไขมัน บริษัท Acana Family Japan เป็นบริษัทญี่ปุ่นที่นำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยงระดับพรีเมียมจากแคนาดา ผลิตภัณฑ์ของพวกเขามีปริมาณโปรตีนจากสัตว์สูงและผสมผสานผลไม้ ผัก และสมุนไพรอย่างลงตัว ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีราคามากกว่า 2,500 เยนต่อกิโลกรัม
ในอนาคต คาดว่าผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพที่รองรับราคาสูงเท่านั้นที่จะสามารถอยู่รอดในตลาดได้ ขณะที่ผลิตภัณฑ์ที่มีราคาสูงแต่คุณภาพต่ำจะถูกคัดออกจากตลาด ดังนั้นการออกแบบผลิตภัณฑ์และการสร้างแบรนด์ที่คำนึงถึงสุขภาพและความสุขของสัตว์เลี้ยงเป็นหลัก ตลาดยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อไป

บทวิเคราะห์ (ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย)
ญี่ปุ่นพึ่งพาการนำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยงเป็นหลัก และไทยเป็นแหล่งน้ำเข้าสินค้ารายใหญ่ที่สุด ตามสถิติการค้าในปี 2566 พบว่า 66.2% ของการนำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยงของญี่ปุ่นมาจากไทย โดยมีมูลค่าสูงถึง 350,000 ล้านเยน หรือประมาณ 82,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดีจากแนวโน้มที่มีการหดตัวของตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงราคาถูกแบบดั้งเดิม และการเติบโตของตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงระดับพรีเมียมดังกล่าว ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงของไทย จำเป็นต้องมีการปรับตัวโดยพิจารณาการผลิตสินค้าระดับพรีเมียมเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดในอนาคต


ข่าวเด่นประจำสัปดาห์ฉบับที่ 48 วันที่ 24 – 30 สิงหาคม 2567
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
อ้างอิงจาก
หนังสือพิมพ์ Nikkei MJ ฉบับวันที่ 26 สิงหาคม 2567

thThai