NielsenIQ เผยพฤติกรรมผู้บริโภคในยูเออี ช็อปของดี เน้นความคุ้มค่า

จากผลสำรวจของ NielsenIQ หรือ NIQ  บริษัทวิจัยตลาดชั้นนำ  เผยผลสำรวจพฤติกรรมการช็อปปิ้งของผู้บริโภคในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)   ที่ซื้อสินค้าสินค้าอุปโภคบริโภคที่ถูกซื้อมาและขายไปอย่างรวดเร็ว มีต้นทุนค่อนข้างต่ำ และเข้าถึงผู้บริโภคไดhในวงกว้าง (Fast-Moving Consumer Goods: FMCG) ในรายงาน “Retail Spend Barometer” เพื่อให้ได้ความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับแนวโน้มของผู้ชื้อและประเภทสินค้า โดยได้พบว่าผู้บริโภคในยูเออีใช้จ่ายกับสินค้า FMCG และสินค้าเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 มูลค่า 3.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 การเพิ่มขึ้นนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ท้าทาย สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ที่ยืดหยุ่นต่อผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นและสร้างสรรค์

ผู้บริโภคในยูเออีให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายกับสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันและเทคโนโลยี ด้วยเศรษฐกิจในปี 2567 ที่ซบเซา ทำให้พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคเปลี่ยนไป จากต้นทุนด้านสาธารณูปโภค และค่าอาหารเป็นข้อกังวลอันดับต้นๆ ของผู้บริโภค แต่สำหรับการจับจ่ายสินค้า FMCG มูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมาก การใช้จ่ายสำหรับอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า การเพิ่มขึ้นนี้มาจากราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ความต้องการผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมที่เพิ่มขึ้น

ผู้บริโภค ประหยัด ฉลาด และพร้อมลองของใหม่

สินค้าเทคโนโลยี มีการใช้จ่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน แล็ปท็อป และสื่อบันเทิงภายในบ้าน (Home Entertainment) เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 การเติบโตนี้ขับเคลื่อนโดยการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล มีผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นที่ลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงไลฟ์สไตล์และการทำงานจากที่บ้าน ความต้องการอุปกรณ์ใหม่ล่าสุดที่เพิ่มขึ้นนั้นสะท้อนถึงแนวโน้มของการผสานเทคโนโลยีเข้ากับชีวิตประจำวัน ซึ่งยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่ผู้บริโภคหลายคนมองว่าเป็นวิกฤติ ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น เศรษฐกิจของยูเออีเองต้องเผชิญกับความท้าทาย เช่น ราคาน้ำมันที่ผันผวน ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ความคาดหวังต่อเศรษฐกิจลดลง อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมผู้บริโภคสินค้า FMCG และสินค้าเทคโนโลยีชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างจากแนวโน้ม

เศรษฐกิจโดยรวมเหล่านี้ ซึ่งการรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ผู้ซื้อได้ปรับรูปแบบการใช้จ่าย ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและคุ้มค่าในระยะยาว ผู้บริโภค จะเลือกของดีมีคุณภาพก่อน บางครั้งหันมาใช้งานสินค้าแบรนด์ใหม่ๆ มากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจขาดลูกค้าที่ซื่อสัตย์ต่อแบรนด์

การใช้จ่ายในกลุ่ม FMCG ที่เพิ่มขึ้น เห็นได้ชัดในหมวดหมู่ ผลิตภัณฑ์ที่เสริมสร้างสุขภาพและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภค  ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงด้านการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ต้องคำนึงถึงเรื่องสุขภาพผู้บริโภค  จึงเต็มใจที่จะจัดสรรงบประมาณก้อนใหญ่สำหรับค่าใช้จ่ายอาหารเพื่อสุขภาพและอาหารเสริม การเปลี่ยนแปลงนี้เห็นได้ชัดจากส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกและอาหารเสริม ซึ่งมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ส่วนการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีได้รับแรงหนุนจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อยู่เสมอ ความก้าวหน้าในการนำเครื่องมือเทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆ มาใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพสินค้า และสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ รวมถึงตลาดยูเออีเช่นกันได้นำนวัตกรรมใหม่ เช่น อุปกรณ์ที่รองรับ 5G เทคโนโลยี smart home ที่ได้รับความนิยม อย่างเช่น ระบบรักษาความปลอดภัย Smart Door Lock ระบบความคุมระแสงสว่าง เครื่องปรับอากาศ ม่าน ภายในบ้าน  ซึ่งกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของ  การใช้ชีวิตสมัยใหม่   เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายมากขึ้น

ในทางกลับกัน กลุ่มสินค้าที่ไม่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคหหรือไม่จำเป็น มีการเติบโตที่ช้าลง เช่น สินค้าหรูหราฟุ่มเฟือย และบริการที่ไม่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวทางที่ระมัดระวังมากขึ้นในหมู่ผู้บริโภค โดยส่วนใหญ่จะเลือกซื้อสินค้าที่จำเป็น บางส่วนซื้อในปริมาณที่ลดลง และสิ่งที่น่าสนใจคือ มักจะซื้อสินค้าในช่วงลดราคา และช่วงที่มีการจัดโปรโมชันพิเศษเพื่อช่วยลดการใช้จ่าย

FMCG   ต้องปรับตัวอย่างไรให้รอดในเศรษฐกิจแบบนี้

ผู้ค้าปลีกในยูเออีกำลังปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ โดยปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดของบริษัท มีหลายบริษัทเน้นไปที่การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่มีความต้องการสูง และใช้ประโยชน์จากช่องทางดิจิทัลเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมส่งเสริมการขายและส่วนลดที่มุ่งเป้าไปที่การกระตุ้นผู้บริโภคให้เกิดการใช้จ่ายให้เพิ่มมากขึ้น

ข้อมูลจาก NielsenIQ ยังแสดงให้เห็นภาพรวมของผู้บริโภคในยูเออีที่เปลี่ยนแปลงไป อาทิ มีกลุ่ม  ผู้ซื้อที่มีฐานะดีกำลังซื้อสูงมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลุ่มนี้ไม่มีความอ่อนไหวต่อความผันผวนทางเศรษฐกิจเท่าใดนัก ในขณะที่มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายกับสินค้าฟุ่มเฟือยมากขึ้น กลุ่มประชากรนี้มีอิทธิพลต่อแนวโน้มตลาดโดยรวม ส่งผลให้มีการให้ความสำคัญกับสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าเทคโนโลยีมากขึ้น

———————————————————————