อุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศของบังกลาเทศ: การเติบโตสูงสุดหลังการระบาดของ COVID-19
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศของบังกลาเทศได้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่น่าทึ่ง หลังจากผ่านช่วงวิกฤตการระบาดของ COVID-19 อุตสาหกรรมนี้กำลังกลับมาอยู่ในระดับสูงสุด โดยมีการขนส่งสินค้าทางอากาศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและการค้าในประเทศ
การฟื้นตัวหลังการระบาด
การระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมการขนส่งทั่วโลก โดยเฉพาะการขนส่งทางอากาศ แต่ในขณะนี้ บังกลาเทศได้เริ่มฟื้นตัวจากผลกระทบดังกล่าว ด้วยการเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าและการขยายตัวของเส้นทางการบิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการส่งออกที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีการขนส่งสินค้าทางอากาศเพื่อการส่งออกถึง 36 เมตริกตันต่อเดือน แม้ว่าจะมีความต้องการสูง แต่ความจุในการขนส่งสินค้าทางอากาศยังไม่เพียงพอ ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างอุปสงค์และอุปทานถึง 40% ซึ่งเป็นเหตุผลที่ผู้เล่นในตลาดทุกคนวางแผนที่จะเช่าเครื่องบินขนส่งสินค้า อัตราค่าขนส่งสินค้าปัจจุบันสูงกว่าปกติถึงสามเท่า และมีการสะสมสินค้าค้างที่สนามบินธากา
การฟื้นตัวนี้ได้รับการสนับสนุนจากความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นในตลาดต่างประเทศ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของอีคอมเมิร์ซที่ทำให้การขนส่งทางอากาศกลายเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ค้าขายสินค้า
การขยายตัวของตลาด
อุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศในบังกลาเทศได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงที่มีการส่งออกสินค้า เช่น เสื้อผ้าและสิ่งทอ ซึ่งเป็นสินค้าหลักที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ การขนส่งทางอากาศช่วยให้สินค้าถึงมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานการขนส่ง เช่น สนามบินและเทคโนโลยีการจัดการการขนส่ง ก็มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตนี้ โดยทำให้กระบวนการขนส่งมีความรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น
ความท้าทายที่ยังคงอยู่
แม้ว่าอุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศของบังกลาเทศจะอยู่ในช่วงการเติบโต แต่ก็ยังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น ปัญหาความแออัดในสนามบินและการขาดแคลนทรัพยากรด้านมนุษย์ที่มีทักษะ และค่าใช้จ่ายในการขนส่งที่สูงขึ้นก็อาจเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตในอนาคต นอกจากนี้ การขนส่งสินค้าผ่านประเทศอื่นกลายเป็นทางออกที่นิยมสำหรับผู้ส่งและผู้ซื้อ ซึ่งส่งผลให้รายได้จากการส่งออกของบังกลาเทศลดลงและเป็นประโยชน์ต่อประเทศอื่น ๆ เช่น อินเดีย มัลดีฟส์ ศรีลังกา ไทย และมาเลเซีย เพื่อแก้ไขปัญหานี้ สายการบินที่ดำเนินการในบังกลาเทศจำเป็นต้องเพิ่มความจุในการขนส่งสินค้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องควบคุมการขนส่งสินค้าผ่านประเทศอื่น
ในด้านบวก สนามบินธากาจะมีการสร้างอาคารขนส่งสินค้าส่งออกใหม่เมื่อเปิดใช้งานเทอร์มินัลที่สาม ซึ่งจะช่วยเพิ่มความจุของอุตสาหกรรมขนส่งสินค้า คาดการณ์ว่าตลาดขนส่งสินค้าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในอีก 3-4 ปีข้างหน้า ทั้งในแง่ของรายได้และปริมาณ
สรุป
อุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศของบังกลาเทศได้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งหลังจากการระบาดของ COVID-19 ด้วยการขยายตัวของตลาดและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม การเผชิญกับความท้าทายในการบริหารจัดการและค่าใช้จ่ายยังคงเป็นเรื่องที่ต้องได้รับการแก้ไข เพื่อให้แน่ใจว่าอุตสาหกรรมนี้จะสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
——————
สคต. ณ กรุงธากา
กันยายน 2567
ที่มาข่าว https://www.bangladeshmonitor.com.bd/