ที่มา : The Star

งาน Malaysia International Halal Showcase (MIHAS) 2024 ของมาเลเซียได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในด้านจำนวนประเทศที่เข้าร่วมปริมาณรายได้ที่เกิดขึ้นภายในงาน

Datuk Seri Reezal Merican Naina Merican ประธานบริษัทพัฒนาการค้าต่างประเทศของมาเลเซีย (Matrade) กล่าวว่า จำนวนผู้แสดงสินค้า MIHAS 2024 ในปีนี้มีจำนวน 1,400 ราย เมื่อเทียบกับ 1,100 รายในปีที่แล้ว ขณะนี้มีบูธจำนวน 2,028 บูธ ซึ่งประกอบด้วยผู้ซื้อชาวต่างชาติที่เข้าร่วมงาน 330 ราย และผู้ซื้อระดับพรีเมียม 20 ราย โดยไฮไลท์สำคัญของงาน MIHAS ก็คือการได้รับการบันทึกสถิติการมีผู้เข้าร่วมงานทางการค้ามากที่สุดในงานแสดงฮาลาลจาก Guinness World Records

 

Datuk Seri Reezal ได้กล่าวในพิธีเปิดงาน MIHAS 2024 ตอนหนึ่งว่า “อุตสาหกรรมฮาลาลมีศักยภาพมหาศาล มีมูลค่ารวมทั่วโลกอยู่ที่ 3.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 โดยสิ่งนี้จะสอดคล้องกับการเติบโตของผู้บริโภคชาวมุสลิมทั่วโลก ซึ่งในปัจจุบันมีผู้บริโภคชาวมุสลิมจำนวน 1.9 พันล้านคนและจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.3 พันล้านคนภายในปี 2030 อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าผลิตภัณฑ์ฮาลาลไม่ได้มีไว้สำหรับชาวมุสลิมเท่านั้น อีกทั้ง ฮาลาลได้กลายมาเป็นตัวเลือกที่ประเทศต่างๆ นิยมใช้ เนื่องจากสอดคล้องกับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความปลอดภัย สุขอนามัย และส่วนผสม” และที่สำคัญคือ การวางตำแหน่งของประเทศมาเลเซียให้เป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมฮาลาลของโลก

 

Tengku Datuk Seri Zafrul Abdul Aziz รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุน การค้าและอุตสาหกรรมของมาเลเซีย กล่าวว่า ในปี 2566 คาดว่ามูลค่าการส่งออกฮาลาลของมาเลเซียจะสูงถึงเกือบ 55,000 ล้านริงกิต ซึ่งถือเป็นปีที่สองติดต่อกันที่มูลค่าทะลุ 50,000 ล้านริงกิต และมาเลเซียสามารถรักษาตำแหน่งสูงสุดในภาคส่วนอาหารฮาลาลได้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Global Islamic Economic Indicators 2023 โดยสินค้าฮาลาลได้รับความนิยมไม่เพียงแต่ประเทศในเอเชียตะวันออกเป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แม้แต่ในประเทศที่ไม่ใช่อิสลาม เช่น จีนและรัสเซีย ผลิตภัณฑ์ฮาลาลก็ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคมองเห็นคุณค่าของผลิตภัณฑ์ฮาลาล

 

เขายังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลมาเลเซียสนับสนุนอย่างจริงจังต่ออุตสาหกรรมฮาลาล เนื่องจากคาดการณ์ว่าความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลในระดับโลกจะสูงถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2573โดยมาเลเซียกำลังขยายความสัมพันธ์ทางการค้าของประเทศกับจีนต่อไป ไม่เพียงแต่ในภาคส่วนฮาลาลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านอื่นๆ ด้วย การประชุมสุดยอดมาเลเซีย-จีน 2024 ซึ่งเป็นนิทรรศการการค้าระหว่างประเทศ จะจัดขึ้นที่กัวลาลัมเปอร์ในเดือนธันวาคม เพื่อปิดท้ายการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทวิภาคีในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ประเทศจีนเป็นพันธมิตรทางการค้ารายใหญ่ที่สุดของมาเลเซียในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ซึ่งประเทศจีนซึ่งมีประชากร 1,400 ล้านคน เป็นที่อยู่ของชาวมุสลิมมากกว่า 20 ล้านคน ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลของชาวจีนไม่สามารถละเลยได้ นั่นคือเหตุผลที่มาเลเซียก้าวเข้าสู่ตลาดจีนอย่างรวดเร็ว

 

มาเลเซียได้นำอุตสาหกรรมฮาลาลไปสู่อีกระดับหนึ่ง แตกต่างไปจากเดิมมากเนื่องจากผู้บริโภคยอมรับผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลอย่างเหลือเชื่อ และไม่เพียงแต่ในจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตลาดอื่นๆ ในเอเชียด้วย ความต้องการมีสูงมาก ซึ่งผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น อาหารเสริม อาหารเพื่อสุขภาพ และส่วนผสมต่างๆ ได้รับการยอมรับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ฮาลาลมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคไว้วางใจในผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในเรื่องความสะอาดและคุณภาพ จากมุมมองของบริการ ภาคการเงินอิสลามได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในหลักการของการแบ่งปันความเสี่ยงและการลงทุนตามค่านิยมของอิสลาม เช่น ความยุติธรรม ความจริงใจ และความรับผิดชอบต่อสังคม

 

ความคิดเห็น สคต.

งานแสดงสินค้านานาชาติฮาลาลมาเลเซีย (Malaysia International Halal Showcase – MIHAS) 2024 มีผลดีต่อประเทศไทยในหลายด้าน ดังนี้:

  1. โอกาสในการส่งออกสินค้า: MIHAS เป็นงานแสดงสินค้านานาชาติที่ใหญ่ที่สุดด้านฮาลาล ซึ่งดึงดูดผู้ซื้อและผู้ขายจากทั่วโลก โดยเฉพาะในตลาดฮาลาลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ประเทศไทยสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อขยายตลาดการส่งออกสินค้าอาหารและผลิตภัณฑ์ฮาลาลไปยังผู้บริโภคมุสลิมทั่วโลก รวมถึงในภูมิภาคตะวันออกกลางและอาเซียน
  2. ขยายเครือข่ายธุรกิจ: เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้พบปะกับคู่ค้าจากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่าย และนักลงทุน ซึ่งช่วยสร้างความร่วมมือทางธุรกิจและขยายตลาดในระดับสากล
  3. ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ฮาลาลไทย: ประเทศไทยมีสินค้าและผลิตภัณฑ์ฮาลาลที่มีคุณภาพสูง งานนี้เป็นโอกาสในการส่งเสริมชื่อเสียงของสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตร อาหาร และเครื่องสำอางฮาลาล ที่มีศักยภาพในการส่งออกสูง
  4. การเรียนรู้เทรนด์ตลาดใหม่: ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มและนวัตกรรมใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมฮาลาล เช่น เทคโนโลยีการผลิต นวัตกรรมการแปรรูปอาหาร และมาตรฐานสากล ซึ่งจะช่วยในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
  5. ความร่วมมือด้านการลงทุน: นอกจากการค้าขายสินค้าแล้ว งานนี้ยังสร้างโอกาสในการร่วมมือด้านการลงทุนในธุรกิจฮาลาล เช่น การผลิตอาหาร การเกษตร และธุรกิจบริการ ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดโลก

 

งาน MIHAS 2024 จะช่วยส่งเสริมศักยภาพของประเทศไทยในการขยายตลาดฮาลาลและสร้างความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคและทั่วโลกและเป็นช่องทางสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมฮาลาลในระดับโลกและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจของประเทศที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้ เช่น มาเลเซีย ไทย และประเทศอื่นๆ

 

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์

thThai