ฮ่องกงโชว์ศักยภาพ ก้าวสู่อันดับ 3 ในการจัดอันดับดัชนีศูนย์กลางทางการเงินโลก

 

ฮ่องกงก้าวขึ้นสู่อันดับ 3 ของโลกและครองแชมป์อันดับ 1 ในเอเชียจากการจัดอันดับดัชนีศูนย์กลางทางการเงินโลกครั้งล่าสุด พร้อมคว้าตำแหน่งสูงสุดด้าน “การจัดการการลงทุน” ระดับสากล

 

รายงานจาก The Global Financial Centres Index (GFCI) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยด้านการเงินและเทคโนโลยีของสหราชอาณาจักร ร่วมกับสถาบันพัฒนาจีนจากเซินเจิ้น (China Development Institute) โดยรายงานนี้จะเผยแพร่ปีละสองครั้งในเดือนมีนาคมและกันยายนของทุกปีนับตั้งแต่ปี 2550 ในการจัดอันดับครั้งนี้ ฮ่องกงสามารถก้าวขึ้นมาอีกหนึ่งอันดับเมื่อเทียบกับผลการจัดอันดับในเดือนมีนาคมของปีเดียวกัน โดยมีคะแนนรวมสูงขึ้นถึง 8 คะแนน ซึ่งนับเป็นการปรับตัวที่โดดเด่นที่สุดในบรรดาศูนย์กลางการเงิน 5 อันดับแรก แม้ว่านิวยอร์กและลอนดอนจะยังคงครองอันดับ 1 และ 2 แต่การที่ฮ่องกงสามารถกลับมาอยู่ในอันดับ 3 ได้อีกครั้ง นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 ที่ฮ่องกงได้รับการจัดอันดับสูงกว่าสิงคโปร์ในการสำรวจเดียวกัน

 

โฆษกรัฐบาลฮ่องกงระบุว่า “รายงานฉบับนี้ยืนยันสถานะและจุดแข็งของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการเงินชั้นนำของโลกได้อย่างชัดเจน โดยฮ่องกงได้รับคะแนนในระดับสูงสุดในหลายด้าน ทั้งสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ทุนมนุษย์ โครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนชื่อเสียงและภาพลักษณ์โดยรวม”

 

นอกจากนี้ ฮ่องกงยังสามารถยกระดับอันดับด้านบริการ Fintech ขึ้นอีก 5 อันดับ มาอยู่ที่อันดับ 9 ส่งผลให้ติดอันดับ 10 ศูนย์กลาง Fintech ระดับโลก

 

Mr. Christopher Hui Ching-yu, Secretary for Financial Services and the Treasury เปิดเผยว่า รัฐบาลฮ่องกงได้ริเริ่มมาตรการสำคัญหลายประการ อาทิ การปฏิรูปตลาดหลักทรัพย์ การส่งเสริมการเงินสีเขียว และการจัดตั้งกรอบการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อยกระดับสถานะของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการเงินระดับนานาชาติ

 

ก่อนหน้านี้ ทั้ง Mr. Hui และ Mr. Eddie Yue Wai-man, Chief Executive of the Hong Kong Monetary Authority ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวอ้างที่ว่าฮ่องกงถูกลดความสำคัญในฐานะศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศ อันเนื่องมาจากผลการดำเนินงานที่ซบเซาของตลาดหุ้นและการเสนอขายหุ้นใหม่แก่สาธารณชน (IPO) ลดลง

 

ทั้งนี้ สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของฮ่องกงเพิ่มขึ้นประมาณ 2% จากปีก่อนหน้า แตะระดับกว่า 31 ล้านล้านดอลลาร์ฮ่องกง ณ สิ้นปี 2566 โดยมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิเกือบ 390,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง เพิ่มขึ้นถึง 3.4 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

 

 

ความคิดเห็นของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง

ฮ่องกงเป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันสูงในทุกมิติทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เป็นจุดเชื่อมต่อการค้า การลงทุนและโอกาสทางธุรกิจระหว่างจีนกับนานาชาติ  จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายธุรกิจสู่ระดับนานาชาติ รวมทั้งการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฮั่งเส็งและการลงทุนจาก Venture Capital สำหรับธุรกิจ Start Up

 

แหล่งข้อมูล: https://www.thestandard.com.hk/section-news/section/2/266441/Hong-Kong-takes-third-spot-in-global-financial-center-ranking

 

thThai