อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพและอุปกรณ์ทางการแพทย์ในฮ่องกง

1. ข้อมูลพื้นฐาน

ฮ่องกงเป็นประเทศที่มีประชากรที่มีอายุเฉลี่ยสูงสุดในโลก เนื่องมาจากบริการด้านการดูแลสุขภาพที่ทันสมัย ประชากรสูงอายุและผู้บริโภคมีความตระหนักด้านสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการการบริการและผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น ตามข้อมูล the Food and Health Bureau ฮ่องกง ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของภาครัฐและเอกชนทั้งหมดในฮ่องกงอยู่ที่ประมาณ 31,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2564-2565 คิดเป็น 8.5% ของ GDP

ภาคส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพในฮ่องกง มีตลาดที่แตกต่างกันสองแห่ง คือ ตลาดผู้บริโภคในครัวเรือน และตลาดผู้ซื้อมืออาชีพหรือสถาบัน (โรงพยาบาลและคลินิก) บริษัทส่วนใหญ่ในภาคส่วนนี้เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ดั้งเดิม (OEM) โดยผลิตเครื่องนวดและเครื่องวัดความดันโลหิตสำหรับใช้ในครัวเรือน หรือชิ้นส่วนยาง พลาสติก และเรซินสำหรับใช้ในโรงพยาบาลหรือคลินิก บริษัทหลายแห่งในฮ่องกงยังให้บริการออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อเพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขันอีกด้วย เพื่อลดต้นทุนการผลิต ผู้ผลิตในฮ่องกงจำนวนมากจึงย้ายฐานการผลิตไปยังจีน อย่างไรก็ตาม การควบคุมคุณภาพ การตลาด การวิจัยและพัฒนา การออกแบบ และการจัดหาอุปกรณ์และวัสดุยังคงดำเนินการในฮ่องกง

2. อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ

จากข้อมูลของ Census and Statistics Department จำนวนผู้สูงอายุในฮ่องกงมากกว่า 2.5 ล้านคน มีค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของ Food and Health Bureau ฮ่องกง ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของภาครัฐและเอกชนรวมทั้งหมด อยู่ที่ประมาณ 31,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2021-22 ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเเพิ่มขึ้น 8.5% ในปี 2564-2565

รายจ่ายด้านสุขภาพทั้งภาครัฐและเอกชนของฮ่องกง ในปี 2564/2565

สิ่งอำนวยความสะดวกของสถานบริการสาธารณสุขในฮ่องกง ที่ให้บริการโดยทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ ประกอบด้วย โรงพยาบาลและสถาบันของรัฐ 43 แห่ง คลินิกผู้ป่วยนอกเฉพาะทาง 49 แห่ง คลินิกผู้ป่วยนอกทั่วไป 74 แห่งที่บริหารจัดการโดย Hospital Authority และโรงพยาบาลเอกชนจำนวน 13 แห่ง

สถานบริการสาธารณสุขในปี 2565

อ้างอิง : Hospital Authority

2.1 เทคโนโลยีด้านการดูแลสุขภาพ รัฐบาลฮ่องกงส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมด้านการดูแลสุขภาพในฮ่องกงอย่างเข้มแข็ง อาทิ

(1) การแพทย์ระยะไกล (Telehealth) การจัดให้บริการด้านสาธารณสุขแก่ประชาชนที่อยู่ห่างไกล โดยบุคคลากรผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์อาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการวินิจฉัย การรักษา และป้องกันโรค รวมถึงการศึกษาวิจัย

การพัฒนาบริการการแพทย์ทางไกลในฮ่องกงมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในปี 2563 การระบาดของโควิดกลายเป็นตัวเร่งการเติบโตของบริการการแพทย์ทางไกล ในขณะที่หน่วยงาน Hospital Authority นำการใช้งานด้านการปรึกษาทางไกลให้แก่ผู้ป่วย และที่ต้องการเข้ารับการปรึกษาติดตามผล นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565- มกราคม 2566 ได้ให้บริการร่วมทั้งหมดมากกว่า 511,600 ราย ซึ่งโรงพยาบาลของรัฐและสถาบันการแพทย์เอกชนหลายแห่งในฮ่องกงให้คำปรึกษาผ่านวิดีโอ ตัวอย่างเช่น โรงพยาบาล Queen Elizabeth Hospital หรือผ่านแพลตฟอร์มแอปการแพทย์ทางไกลแบบครบวงจร เช่น DoctorNow และ DrGo อย่างไรก็ตาม การปรึกษาทางวิดีโอระยะไกลนี้อาจจะไม่เหมาะสมสำหรับกรณีที่ต้องมีผู้ดูแล เช่นการตรวจร่างกาย หรือกรณีซับซ้อนต้องมีการประเมินทางคลินิกโดยแพทย์

(2) การพิมพ์ 3 มิติ (3D Printing) การเติบโตอย่างรวดเร็วของวงการแพทย์ในปัจจุบันที่มีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการรักษาโรคของผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น จนมีการนำการพิมพ์ 3 มิติ มาใช้ในวงการแพทย์อย่างแพร่หลายมากขึ้น อาทิ การสร้างอวัยวะเทียม การศัลยกรรมแก้ไขขากรรไกร ไปจนถึงอุปกรณ์การผ่าตัด จึงทำให้ทุกอุปกรณ์ทางการแพทย์เหมือนสั่งพิมพ์ออกมาในรูปแบบ 3 มิติ เพื่อช่วยในการรักษาผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว โดย The Hong Kong Science and Technology Parks Corporation (HKSTP) ก่อตั้งขึ้นในเดือนมีนาคม 2561 สนับสนุนการวิจัยและพัฒนา 3D Printing ศูนย์แห่งนี้ให้บริการแบบครบวงจรและสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องปฏิบัติการสำหรับธุรกิจเริ่มต้น และ SME รวมถึงห้องทดสอบต้นแบบผลิตภัณฑ์พร้อมซอฟต์แวร์สร้างแบบจำลอง และจำลองด้วย CAD 3 มิติ และ 3D Printing นอกจากนี้ ปี 2563 ทีมวิจัย The Medical Faculty of The University of Hong Kong (HKUMed) ได้รับเงินทุนจาก The National Key R&D Program of China’s Ministry of Science เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการพิมพ์ชีวภาพให้ครอบคลุมเนื้อเยื่อและอวัยวะของมนุษย์

(3) Robotics หุ่นยนต์ถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์หลากหลายประเภทในฮ่องกง รวมถึงการฟื้นฟูเฉพาะทาง การผ่าตัด การวินิจฉัยโรคมะเร็ง และการฆ่าเชื้อ ตัวอย่าง ได้แก่ Hand of Hope โดย Rehab-Robotics ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่พัฒนาขึ้นในฮ่องกงสำหรับการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง อุปกรณ์นี้ได้รับรางวัล Grand Prix Award จากงาน International Exhibition of Inventions of Geneva ในปี 2555 และได้รับการนำไปใช้ในโรงพยาบาล คลินิก และมหาวิทยาลัยหลายในฮ่องกงและทั่วโลก

(4) Virtual Reality (VR) การนำเทคโนโลยีเสมือนจริง เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของบริการฟื้นฟูผู้ป่วยและถูกนำมาใช้ในการฝึกอบรมสำหรับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และพยาบาล ตัวอย่างเช่น the Multi-disciplinary Simulation and Skills Centre (MDSSC) ซึ่งบริหารโดย The Hospital Authority ใช้เทคโนโลยี VR การตรวจคัดกรองสำหรับขั้นตอนการตรวจเลือด และ The Hong Kong Eye Hospital ยังได้นำเทคโนโลยี VR มาใช้เพื่อประเมินความพิการทางสายตา เทคโนโลยีนี้ได้รับการพัฒนาโดย Ace VR Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่ได้รับรางวัลในฮ่องกง

(5) Biosensors and Trackers เป็นอุปกรณ์ตรวจจับ บันทึก แสดง หรือส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา ทำให้แพทย์สามารถติดตามสุขภาพของผู้ป่วยได้จากระยะไกล ตัวอย่างเช่น บริษัท Well Being Digital Ltd. ได้พัฒนาเทคโนโลยีการติดตามสุขภาพอัจฉริยะและจัดหาชิปให้กับผู้ผลิตอุปกรณ์ที่สวมใส่ได้เพื่อการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ

Biosensors ในปัจจุบัน มีความหลากหลาย และใช้ประโยชน์ในหลายด้าน งานวิจัย และในเชิงพาณิชย์ มีแนวโน้มการพัฒนาให้มีขนาดเล็ก ใช้งานง่าย และพกพาสะดวก ตัวอย่างของเครื่องตรวจวัดที่เป็น Biosensors

เครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน
เครื่องตรวจวัดสารอื่นๆในร่างกายเช่น ยูเรีย ฮอร์โมน กรด-เบส ฯลฯ
เครื่องตรวจวัดสารปนเปื้อนในน้ำ
เครื่องตรวจแบคทีเรียในอากาศ
เครื่องตรวจจับเชื้อโรค ไวรัส
เครื่องตรวจวัดวิตามินในอาหาร
เครื่องตรวจวัดปริมาณยาในอาหาร เช่น ยาปฎิชีวนะ ฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต สารเร่งเนื้อแดงเครื่องตรวจวัดโปรตีนในอุตสาหกรรม
และยังมีอื่นๆอีกมาก

2.2 แนวโน้มตลาดการดูแลสุขภาพ

Fitness Tech ธุรกิจเทคโนโลยีที่ช่วยให้คนออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น เช่น นาฬิกาข้อมูลวัดการเต้นของหัวใจ เครื่องออกกำลังกายไฮเทค ชุดออกกำลังกายแบบ VR เป็นต้น

กระแสรักสุขภาพและความงามเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ตลาดเพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและความงาม รวมถึงอุปกรณ์เครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคและอุปกรณ์เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทำให้ความต้องการสินค้าเพื่อสุขภาพของแต่ละกลุ่มอาจจะแตกต่างกันไป

กลุ่มคนรุ่นใหม่ คุ้นเคยกับการเชื่อมสิ่งต่างๆ บนโลกออนไลน์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตได้อย่างรวดเร็ว คนกลุ่มนี้เรียกได้ว่าเป็น Smart Consumer คือมักจะไม่ค่อยเชื่อโฆษณา แต่จะค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต และมักจะเชื่อบุคคลที่น่าเชื่อถือ อาทิ Guru หรือ Blogger

2.3 โอกาสทางการค้าของไทย

ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จากกระแสการท่องเที่ยวยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้นทั้งในระดับโลก การท่องเที่ยวท่ามกลางธรรมชาติ ในบรรยากาศที่เงียบสงบ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้ผ่อนคลาย ซึ่งบริการที่นักท่องเที่ยวสายสุขภาพมองว่าแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่มีศักยภาพมากคือการท่องเที่ยวในไทยที่ให้บริการนวดและสปา อาหารเพื่อสุขภาพ และห้องพักเชิงธรรมชาติ เป็นต้น

การบริการทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการมาพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายทั่วไป การรับคำปรึกษาทางการแพทย์ การทำศัลยกรรม ทันตกรรม และอื่น ๆ ธุรกิจดังกล่าวเป็นธุรกิจที่สร้างมูลค่าสูงสำหรับประเทศไทย ประกอบด้วยการบริการ สถานพยาบาล สถานพักฟื้น สถานดูแลคนชราซึ่งรวมถึงผู้สูงอายุวัยเกษียณ
ที่ต้องการสถานที่และการกินอยู่ที่ดีและค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับค่าครองชีพในฮ่องกง

3. ตลาดอุปกรณ์ทางการแพทย์

3.1 ภาพรวมสินค้า ตลาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ในฮ่องกงกำลังเติบโตอย่างมากจากความต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์ชั้นสูงและนวัตกรรมเทคโนโลยีทันสมัย

รายได้อุปกรณ์ทางการแพทย์ในฮ่องกงของปี 2560- 2570

หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ

แหล่งที่มา : https://www.statista.com/

อัตราการขยายตัวอุปกรณ์ทางการแพทย์ในฮ่องกง

ระหว่างปี 2560 – 2570

อัตราขยายตัว (%)

แหล่งที่มา : https://www.statista.com/

นอกจากนี้ หน่วยงานสถิติของฮ่องกงมีการแสดงตัวเลขสินค้าอุปกรณ์ทางการแพทย์รายสำคัญๆ ของมูลค่านำเข้าและส่งออกของในปี 2565- 2566 ดังนี้

มูลค่าการนำเข้า (แยกตามประเภทสินค้า) ในฮ่องกง

(ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

แหล่งที่มา : https:// censtatd.gov.hk/

การนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ในปี 2566 ของฮ่องกง แยกประเภทสินค้ารายการสำคัญๆ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรม มูลค่า 3,801.33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (-9.4%) อุปกรณ์ใช้ในทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ มูลค่า 1,785.04 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (-7.5%) เครื่องอุปกรณ์เอกซเรย์ มูลค่า 595.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (-5.7%) เครื่องใช้ทางศัลยกรรม กระดูกและอวัยะเทียมมูลค่า 508.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+121.4%) ถุงมือยาง มูลค่า 41.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (-46.0%)

การนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์(แยกแหล่งที่มา) ในฮ่องกง

(ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

แหล่งที่มา : Data Sources: Hong Kong Census & Statistics Department

(Medical equipment refers to instruments and apparatus under HS code 9018)

ฮ่องกงนำเข้าอุปกรณ์การแพทย์(HS code 9018) ในปี 2566 มูลค่า 1,785.04 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยแหล่งนำเข้ารายสำคัญๆ ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน สหราชอาณาจักร และนำเข้าจากไทยมูลค่า 4.07 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อัตราขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.9%

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุปกรณ์ทางการแพทย์ในฮ่องกงที่ได้รับการอนุมัติจากฮ่องกง ได้เข้าไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (Greater Bay Area) มากขึ้นภายใต้นโยบายปัจจุบันที่อนุมัติอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่ออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องการขายผลิตภัณฑ์ไปยังจีนผ่านฮ่องกง

มูลค่าการส่งออก (แยกตามประเภทสินค้า) ของฮ่องกง

(ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

แหล่งที่มา : https://.censtatd.gov.hk/

การส่งออกอุปกรณ์ทางการแพทย์ในปี 2565- 2566 ของฮ่องกง แยกประเภทสินค้ารายการ
สำคัญๆ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรม มูลค่า 1,988.66 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+37.2%) อุปกรณ์ใช้ในทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ มูลค่า 1,473.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (-1.1%) เครื่องใช้ทางศัลยกรรม กระดูกและอวัยะเทียมมูลค่า 684.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+17.1%) เครื่องอุปกรณ์เอกซเรย์ มูลค่า 104.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+13.7%) ถุงมือยาง มูลค่า 4.61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (-45.3%)

ข้อมูล Preclinical ประเทศผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์รายสำคัญของโลก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ส่วนใหญ่เป็นการผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง อาทิ เครื่องวินิฉัยโรคด้วยไฟฟ้า เครื่องมือแพทย์ที่ใช้ในการศัลยกรรมกระดูก เครื่องเอกซเรย์ และเครื่องทันตกรรม ในขณะที่เอเชีย ได้แก่ ญี่ปุ่น สำหรับจีนและอาเซียน การผลิตส่วนใหญ่เป็นสินค้ากลุ่มวัสดุสิ้นเปลือง

แหล่งที่มา : https://www.proclinical.com/blogs/2023-10/top-10-medical-device-companies-in-the-world-in-2023

การผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ของไทยและเพื่อการส่งออก ส่วนใหญ่เป็นสินค้าพื้นฐานที่ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีหรือขั้นตอนวิธีการใหม่ๆ จากตัวเลขการส่งออกจากไทยไปฮ่องกง ส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์เช่น เครื่องใช้ทางวิทยาศาสตร์ เข็มฉีดยา หลอดฉีดยาที่ไม่มีเข็ม หากเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทนทาน ได้แก่ เครื่องตรวจด้วยอัลตราโซนิก และเครื่องบันทึกคลื่นหัวใจไฟฟ้า เป็นต้น

3.2 ช่องทางการจำหน่าย (Distribution Channels) อุปกรณ์ทางการแพทย์

ผู้นำเข้า/ผู้ค้าส่ง เช่น บริษัท Luen Cheong Hong (LCH) Ltd, Getz Healthcare (Hong Kong)

ร้านค้าค้าปลีกที่ไม่มีสาขา (Non-Chain Retail Stores) เช่น ร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตต่างๆ ร้านค้าค้าปลีกที่มีสาขา (Chain Retail Stores) เช่น ร้านสะดวกซื้อ เช่น 7-11, JustMed Shop, Medimart Shop

ร้านค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพและเภสัชภัณฑ์ยา เช่น Mannings, Watsons, Lung Fung

โรงพยาบาล (Hospitals) และ คลินิก (Clinics)

ออนไลน์แพลตฟอร์ม (Online Platform) เช่น hktvmall, medishop.com.hk, justmed.com.hk

3.3 แนวโน้มตลาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในฮ่องกง

ลูกค้าในฮ่องกงต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์ชั้นสูงและนวัตกรรมทันสมัย แม้จะต้องลงทุนในผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงแต่ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและเชื่อถือได้ และความต้องการบริการดูแลสุขภาพที่ดีขึ้น ความสะดวกสบายและคุณสมบัติการใช้งานง่ายในอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสามารถผสมผสานรวมเข้ากับชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายขึ้น อาทิ อุปกรณ์เพื่อสุขภาพชนิดสวมใส่ได้ (Wearable Devices) ปัจจุบันการนำเทคโนโลยีทางด้านแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ อาทิ อุปกรณ์ไร้สายเกี่ยวกับสุขภาพ (Wireless Health) บริการเกี่ยวกับสุขภาพทางมือถือ (Mobile Health) การบันทึกประวัติทางสุขภาพทางอิเล็กทรอนิกส์
(EHR : Electronic Health Records)

3.4 กฏระเบียบสินค้าอุปกรณ์ทางการแพทย์

แม้ว่าฮ่องกงจะเป็นเขตบริหารพิเศษของจีน แต่ก็ไม่ได้ปฏิบัติตามกฏระเบียบด้านอุปกรณ์การแพทย์เช่นเดียวกับจีน สำนักงาน Medical Device Control Office (MDCO) ของกรมอนามัยฮ่องกงรับผิดชอบและกำกับดูแลอุปกรณ์การแพทย์ในฮ่องกงและให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ปัจจุบันยังไม่มีกฏระเบียบที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการผลิต การนำเข้า การจัดจำหน่าย หรือการขายในฮ่องกง

อุปกรณ์การแพทย์เพื่อจำหน่ายในประเทศ นำเข้าหรือใช้งานจะต้องลงทะเบียนกับสำนักงาน MDCO ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์การแพทย์ทางเทคนิคเจาะจงเฉพาะ บริการติดฉลาก และหลักฐานการปฏิบัติตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง โดยต้องแน่ใจว่ามีประสิทธิภาพในความปลอดภัยด้านคุณภาพ จึงสามารถอนุญาตนำมาใช้ในฮ่องกง

ขั้นตอนอุปกรณ์ทางการแพทย์ยื่นขอนำเข้าและขายจาก

Medical Device Control Office

แหล่งที่มา : https://www.dh.gov.hk

ภาพประกอบอุปกรณ์ทางการแพทย์แบ่งแยกแต่ละประเภทของความเสี่ยงอันตรายในฮ่องกง

แหล่งที่มา : https://www.mdd.gov.hk

ระดับอุปกรณ์ทางการแพทย์ในฮ่องกง

แหล่งที่มา : https://www.dh.gov.hk/

3.5 โอกาสทางการค้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ของไทย

ประเทศไทยมีระบบการดูแลสุขภาพและเป็นที่รู้จักในด้านการบริการ ซึ่งรวมถึงภาคส่วนอุปกรณ์การแพทย์ และยังดึงดูดผู้ผลิตทั้งในและต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในประเทศซึ่งจะทำให้ตลาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ของไทยเติบโตได้อีก จากแรงผลักดันความต้องการของลูกค้าที่มีความต้องการอุปกรณ์เทคโนโลยีและดิจิทัล

นอกจากนี้ ไทยยังมีศักยภาพด้านการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์แบบใช้ครั้งเดียว เช่น ถุงมือยางและหน้ากากอนามัย ชุดทดสอบและสารเคมี อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ผ้าพันแผล และกระบอกฉีด เป็นต้น ที่สามารถสร้างรายได้ในการส่งออกไปยังตลาดโลกอย่างยั่งยืน

อ้างถึง : 1. https://research.hktdc.com/en/article/MzEzOTQ1MjMz

https://www.statista.com/outlook/hmo/medical-technology/hong-kong
https://www.proclinical.com/blogs/2023-10/top-10-medical-device-companies-in-the-world-in-2023
https://www.mdd.gov.hk/en/mdacs/classified-examples-of-medical- devices / classified-examples-of-general-medical-devices/index.html