เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 หน่วยงาน Enterprise Singapore (ESG) ได้ประกาศข้อมูลสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของสิงคโปร์เดือนสิงหาคม 2567
โดยมีรายละเอียด ดังนี้
การค้าระหว่างประเทศโดยรวมของสิงคโปร์[1],[2]
ในเดือนสิงหาคม 2567 การค้าระหว่างประเทศโดยรวมของสิงคโปร์เพิ่มขึ้น +3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (หลังจากเพิ่มขึ้น +13.6% ในเดือนก่อนหน้า) โดยเป็นผลมาจากการส่งออกโดยรวมเพิ่มขึ้นที่ +4.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (หลังจากเพิ่มขึ้น +13.4% ในเดือนก่อนหน้า) และการนำเข้าโดยรวมเพิ่มขึ้นที่ +1.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (หลังจากเพิ่มขึ้น +13.8% ในเดือนก่อนหน้า)
การส่งออก Non-oil Domestic Export (NODX)
ในเดือนสิงหาคม 2567 NODX ขยายตัวที่ +10.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า หลังจากขยายตัวที่ +15.7% ในเดือนก่อนหน้า โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของการส่งออกสินค้า Non-Electronic NODX และสินค้า Electronic NODX
การส่งออกสินค้า Electronic NODX
ในเดือนสิงหาคม 2567 การส่งออกสินค้า Electronic NODX ขยายตัวที่ +35.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (หลังจากขยายตัวที่ +16.8% ในเดือนก่อนหน้า) โดยสินค้าที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้นมากที่สุด ได้แก่ ICs ,Disk Media Products และ PCs ขยายตัวที่ +52%, 166.8% – และ +36% ตามลำดับ
การส่งออกสินค้า Non-Electronic NODX
ในเดือนสิงหาคม 2567 การส่งออกสินค้า Non-Electronic NODX ขยายตัวที่ +3.7% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า (หลังจากขยายตัวที่ +15.5% ในเดือนก่อนหน้า) โดยสินค้าที่มีการส่งออกลดลงมากที่สุด ได้แก่ Specialized Machinery , Non-Monetary Gold และ Food Preparations เพิ่มขึ้น +43.7% +26.8% และ +20.9% ตามลำดับ
ตลาดการส่งออก NODX
ในเดือนสิงหาคม 2567 ตลาดส่งออก NODX ภาพรวมทั้งหมดขยายตัว โดยเฉพาะฮ่องกง จีน และมาเลเซีย โดยตลาดที่มีการลดลงมากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น (-29.6%) และ EU27 (-20.9%)
การส่งออก Oil Domestic Exports
ในเดือนสิงหาคม 2567 การส่งออกน้ำมันในเชิงมูลค่าลดลง -5.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า หลังจากเพิ่มขึ้นที่ +21.3% ในเดือนก่อนหน้า
- ประเทศคู่ค้าที่มีการส่งออกลดลง ได้แก่ มาเลเซีย (-25.6%) อินโดนีเซีย (-15.3%) และ ออสเตรเลีย (-23%) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
- การส่งออกน้ำมันในเชิงปริมาณขยายตัวที่ +10.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า หลังจากเพิ่มขึ้นที่ +17.6% ในเดือนก่อนหน้า
การส่งออก Non-oil Re-Exports (NORX)
ในเดือนสิงหาคม 2567 การส่งออก Non-oil Re-Exports (NORX) ขยายตัวที่ +4.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (หลังจากขยายตัวที่ +11.7% ในเดือนก่อนหน้า) โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของสินค้า Non-Electronic NORX Electronic NORX และสินค้า Electronic NORX
การส่งออกสินค้า Electronic NORX
ในเดือนสิงหาคม 2567 การส่งออกสินค้า Electronic NORX เพิ่มขึ้น +7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (หลังจากการเติบโตที่ +13.3% ในเดือนก่อนหน้า) โดยสินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้นมากที่สุด ได้แก่ PCs (+163.1%) และ Telecommunication Equipment (+22%) และ Parts of PCs (+52%)
การส่งออกสินค้า Non-Electronic NORX
ในเดือนสิงหาคม 2567 การส่งออกสินค้า Non-Electronic NORX เพิ่มขึ้น +1.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (หลังจากขยายตัวที่ +9.8% ในเดือนก่อนหน้า) โดยสินค้าที่มีการส่งออกเพิ่มมากที่สุด ได้แก่ Medical Apparatus (+230.1%) ,Pumps (+110.7%) และ Non-Electric Engines & Motors (+14.4%)
ตลาดการส่งออก NORX
ในเดือนสิงหาคม 2567 ตลาดส่งออก NORX ทั้งหมดลดลง โดยตลาดที่ลดลงมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ EU27 (-19.1%) จีน (-6.3%) และเวียดนาม (-18.6%)
ข้อมูลเพิ่มเติม/ความคิดเห็นของ สคต.
การค้าระหว่างประเทศโดยรวมของสิงคโปร์ในเดือนสิงหาคม 2567 ขยายตัวขึ้น +3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า (yoy) โดยเป็นผลมาจากการส่งออกเพิ่มขึ้น +4.4% และการนำเข้าเพิ่มขึ้น
+1.8% (yoy) ทั้งนี้ หากพิจารณาเฉพาะการส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-oil Domestic Export: NODX) ของสิงคโปร์ขยายตัวที่ +10.7% (yoy) จากเดือนก่อนหน้าโตขึ้นที่ +15.7% (yoy) ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของการส่งออกสินค้า Non-Electronic NODX และสินค้า Electronic NODX นักเศรษฐศาสตร์[1] กล่าวว่า แนวโน้มความต้องการซื้อผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ของสิงคโปร์ยังคงมีความแข็งแกร่งในตลาดโลก ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากการขยายตัวของคำสั่งซื้อส่งออกอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตจากวงจรเทคโนโลยีขาขึ้น ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนสมาร์ทโฟนและพีซีรุ่นเก่าไปสู่รุ่นใหม่ ๆ รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้อย่างแพร่หลาย
สำหรับภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือนสิงหาคม 2567 ข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า[2] ระบุว่า การส่งออกของไทยในเดือนสิงหาคม 2567 มีมูลค่า 26,182.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (939,521 ล้านบาท) ขยายตัวร้อยละ 6.6 โดยขยายตัวในทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่ขยายตัวสูง ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมก็เติบโตได้ดี มีปัจจัยสนับสนุนจากสภาพภูมิอากาศที่ผันผวนในหลายประเทศ ประกอบกับการฟื้นตัวของภาคบริการในตลาดสำคัญ ส่งผลให้เกิดความต้องการสินค้าเกษตรและอาหารเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจของสหภาพยุโรปเริ่มกลับมาฟื้นตัวจากภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นกระตุ้นความต้องการสินค้าจากไทย และยังมีปัจจัยบวกจากค่าระวางเรือที่ลดลง โดยเฉพาะเส้นทางการขนส่งไปยังสหรัฐฯ และยุโรป ทำให้ผู้ส่งออกมีต้นทุนลดลง เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านราคา
[1] นาย Chua Han Teng นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคาร DBS
[2] https://uploads.tpso.go.th/1.1%20Press%20Release%20%E0%B8%AA.%E0%B8%84.%2067.pdf
[1] ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563 ข้อมูลการค้าที่เกี่ยวข้องกับสหภาพยุโรป (European Union: EU) จะรายงานเป็น EU27 แทนที่ EU28 เนื่องจากการถอนตัวออกจาก EU ของสหราชอาณาจักร (United Kingdom: UK) หรือ Brexit (Britain Exit)
[2] การจำแนกสินค้าทั้งหมดที่ซื้อขายในและนอกอาเซียนในรายงานการค้าระหว่างประเทศโดยรวมของสิงคโปร์ ใช้รหัสภาษีชุดใหม่ ASEAN Harmonised Tariff Nomenclature (AHTN) 2017 version
Enterprise Singapore (ESG) ระบุว่า ข้อมูลสารสนเทศที่ปรากฏในช่องทางการเผยแพร่ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเบื้องต้นเท่านั้น และไม่รับประกันผลใดๆ และไม่รับผิดชอบในความสูญหายหรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากใช้ข้อมูลจากสารสนเทศนี้ในทุกกรณี
ที่มา/ข้อมูลภาพ (Credit Photo) :
Enterprise Singapore – https://www.enterprisesg.gov.sg/-/media/esg/files/media-centre/media-releases/2024/september/mr03124_monthly-trade-report—aug-2024.pdf