ภูฏานตั้งเป้าหมายเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) มูลค่า 225.59 พันล้านงูตรัมต่อปีภายในปี 2572

» เพื่อให้บรรลุเศรษฐกิจมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัว (GDP) เกิน 6,174 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2572  รัฐบาลได้คาดการณ์ว่าภาคส่วนหลักของเศรษฐกิจจะสร้างมูลค่า GDP รวมกัน 225.59 พันล้านงูตรัมต่อปีตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจที่ 13 (ฉบับร่าง) ภายใต้แผนดังกล่าว ภาคการเกษตรคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 36.48 พันล้านงูตรัม ในปี 2566 เป็น 58.7 พันล้านงูตรัม ภายในปี 2572 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 8.3 เปอร์เซ็นต์

ในทำนองเดียวกัน ภาคการทำเหมืองคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 9.09 พันล้านงูตรัมจาก 4.63 พันล้านงูตรัม ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งสะท้อนถึงอัตราการเติบโตที่ 11.9 เปอร์เซ็นต์

ภาคการผลิต มีการคาดการณ์ว่าจะมีส่วนร่วมใน GDP จะเพิ่มขึ้นจาก 24.61 พันล้านงูตรัม เป็น 43.59 พันล้านงูตรัม ขณะที่การมีส่วนร่วมของภาคการผลิตไฟฟ้าและพลังงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 30.53 พันล้านงูตรัม เป็น 56 พันล้านงูตรัม อุตสาหกรรมพลังงานน้ำ ตั้งเป้าหมายว่าจะมีส่วนร่วมใน GDP 103 ล้านงูตรัม  เพิ่มขึ้นจาก 54 ล้าน งูตรัม ในปัจจุบัน ภาคการก่อสร้างคาดว่าจะมีส่วนร่วมใน GDP 43.11 พันล้านงูตรัม เพิ่มขึ้นจาก 19.2 พันล้านงูตรัม และภาคเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) คาดว่าจะมีส่วนร่วม 15 พันล้านงูตรัม ภายในปี 2572

แผนพัฒนาเศรษฐกิจที่ 13 มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนภูฏานให้เป็นประเทศที่มีรายได้สูง โดยใช้การนวัตกรรมและความยั่งยืนเป็นแรงขับเคลื่อน แผนดังกล่าวระบุว่าเป้าหมายนี้จะถูกดำเนินการผ่านผลลัพธ์หลักที่ต้องการเพิ่มผลิตภาพของภูฏาน กระจายผลิตภัณฑ์และตลาด และขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนภายในปี 2029

ภูฏานตั้งเป้าหมายเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) มูลค่า 225.59 พันล้านงูตรัมต่อปีภายในปี 2572

รัฐบาลภูฏานได้เปิดตัวโครงการเชิงยุทธศาสตร์เพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) โดยตั้งเป้าหมายให้สร้างมูลค่า GDP รวม มูลค่า 225.59 พันล้านงูตรัมต่อปีภายในปี 2572 จากภาคการผลิตและบริการหลัก ซึ่งประกอบด้วยการเกษตร การผลิตพลังงาน การท่องเที่ยว การขนส่งและโลจิสติกส์ การบริการทางการเงิน และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)

ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 13 มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนภูฏานให้เป็นประเทศที่มีรายได้สูง โดยใช้นวัตกรรมเป็นแรงขับเคลื่อน แผนดังกล่าวระบุว่าเป้าหมายนี้จะถูกดำเนินการผ่านกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มผลิตภาพของภูฏาน กระจายผลิตภัณฑ์และตลาดโดยมุ่งเป้าหมายขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนภายในปี 2572 ผ่านโครงการระดับชาติสามโครงการที่สนับสนุนผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจ ดังนี้
1. โครงการสร้างการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ (Economic Transformation Program)
ภายใต้โครงการนี้ รัฐบาลได้จัดสรรเงิน 80 พันล้านงูตรัม สำหรับโครงการเกือบ 76 โครงการ รัฐบาลตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุโครงการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจผ่านกลยุทธ์หลักสามประการ ได้แก่
1.1 การส่งเสริมการพัฒนาภาคเอกชนและการมีส่วนร่วม รวมทั้งการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยสำหรับธุรกิจเพื่อเจริญเติบโตและขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงกฎระเบียบ การเข้าถึงการเงิน การส่งเสริมการเป็นผู้ประกอบการ และการเพิ่มประสิทธิภาพภาคส่วนต่างๆ

1.2 การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานยุทธศาสตร์ โดยรัฐบาลจะทำการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การสร้างถนน สะพาน สนามบิน เพื่อเพิ่มการพัฒนาเศรษฐกิจและผลิตภาพ การลงทุนเหล่านี้จะช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อ ลดต้นทุนการขนส่ง และปรับปรุงความเป็นอยู่ของประชากรเมือง
1.3 การลงทุนในตัวขับเคลื่อนการเติบโตแบบดั้งเดิมและแหล่งการเติบโตใหม่ การลงทุนจะเน้นในภาคเกษตร พลังงานน้ำ พลังงานทดแทน การผลิต และเศรษฐกิจดิจิทัล

2. โครงการพัฒนาทักษะสำหรับศตวรรษที่ 21 (Twenty-First Century Skilling Program)
จะมุ่งเน้นการให้การศึกษาและทักษะที่จำเป็นสำหรับเศรษฐกิจสมัยใหม่แก่ชาวภูฏาน ผ่านโครงการการศึกษาและการฝึกอบรมทางเทคนิคและวิชาชีพ (Technical and Vocational Education and Eraining -TVET) การศึกษาระดับตติยภูมิ และโปรแกรมการฝึกทักษะใหม่

3. โครงการสร้างความหลากหลายและความยืดหยุ่นทางระบบนิเวศ (Ecological Diversity and Resilience Program)
จะมุ่งเน้นไปที่ภาคพลังงานน้ำ การท่องเที่ยว เกษตรกรรม ป่าไม้ และการจัดการน้ำ มีเป้าหมายที่จะทำให้การเติบโตของ GDP แยกออกจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งเสริมการปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเพิ่มความยืดหยุ่นต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านการมีส่วนร่วมของชุมชนและการเป็นหุ้นส่วนกับภาคเอกชน

การเติบโตทางเศรษฐกิจและความท้าทาย:
ภูฏานมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว โดยเฉลี่ย 10.9 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ทศวรรษ 1980 โดยมี GDP ต่อหัวถึง 3,833.03 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2565 แต่การสร้างงานมีจำกัดเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเศรษฐกิจซึ่งขับเคลื่อนโดยการลงทุนของภาครัฐในโครงการพลังงานไฟฟ้าจากน้ำ

แผนระบุว่าภูฏานเผชิญกับความท้าทายหลายด้านในการกระจายเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงความท้าทายทางภูมิศาสตร์ โครงสร้างพื้นฐานที่ไม่เพียงพอ และข้อจำกัดเชิงสถาบัน ปัญหาการว่างงานสูงในเยาวชนยังคงเป็นปัญหาที่สำคัญ ทำให้มีการย้ายถิ่นออกไปของประชากรในวัยทำงานที่กำลังมองหาโอกาสทางเศรษฐกิจที่ดีกว่า (เป้าหมายหลักของกานย้ายถิ่นฐานหนุ่มสาวภูฏานเป็นประเทศออสเตรเลีย)

การเติบโตทางเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากผลิตภาพที่ต่ำในทุกภาคส่วน ต้นทุนการบริหารที่สูง และข้อจำกัดทางนโยบาย ขณะที่การเข้าถึงตลาดถูกจำกัดโดยข้อจำกัดทางโครงสร้างพื้นฐานและอุปสรรคภายในและภายนอก ภาคเอกชนที่อ่อนแอจำกัดความสามารถในการขยายตัวและเติบโต ตลาดทุนของภูฏานยังพัฒนาไม่เพียงพอเนื่องจากการเข้าถึงการเงินที่จำกัด โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ที่ต้องพึ่งการกู้ยืมตามหลักประกันและต้นทุนการกู้ยืมที่สูง อย่างไรก็ตาม ภาครัฐยังคงมุ่งมั่นในการชนะอุปสรรคต่างๆ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาประเทศภายใต้ภาคส่วนสำคัญ ดังนี้

ภาคการเกษตร: เส้นทางการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน
ภาคการเกษตรของภูฏานเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่สำคัญที่สุด โดยมีประชากรส่วนใหญ่พึ่งพาการเกษตรเพื่อการดำรงชีวิต รัฐบาลได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรผ่านการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาใช้ ส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืนและการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โครงการที่สำคัญได้แก่:
การส่งเสริมการใช้ปุ๋ยและสารกำจัดศัตรูพืชที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน การส่งเสริมการเกษตรอินทรีย์และการสร้างตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์อินทรีย์

ภาคการผลิต: การสร้างมูลค่าเพิ่มและการส่งเสริมการส่งออก
ภาคการผลิตเป็นอีกหนึ่งเสาหลักในการเพิ่ม GDP ของประเทศ รัฐบาลได้กำหนดนโยบายเพื่อส่งเสริมการลงทุนในภาคการผลิตและการเพิ่มมูลค่าสินค้าให้กับสินค้าที่ผลิตในประเทศ ความพยายามที่สำคัญได้แก่: การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ การให้สิ่งจูงใจทางภาษีแก่บริษัทที่ลงทุนในภาคการผลิต การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน

ภาคการพลังงาน: การใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ภูฏานมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านพลังงานน้ำ (hydropower) รัฐบาลได้วางแผนที่จะพัฒนาพลังงานทดแทนและเพิ่มการผลิตพลังงานน้ำเพื่อตอบสนองความต้องการภายในประเทศและส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โครงการสำคัญได้แก่:การสร้างเขื่อนและโรงไฟฟ้าพลังน้ำใหม่ การพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม การส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในครัวเรือนและอุตสาหกรรม

ภาคการท่องเที่ยว: การสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่า
ภาคการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้สำคัญของภูฏาน รัฐบาลได้วางกลยุทธ์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและมีคุณค่า การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรมเป็นแนวทางหลักในการดึงดูดนักท่องเที่ยว โครงการสำคัญได้แก่: การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่และการปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวเดิม การฝึกอบรมและพัฒนาทักษะสำหรับบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การส่งเสริมการตลาดและการประชาสัมพันธ์ในตลาดต่างประเทศ

ภาคการขนส่งและโลจิสติกส์: การเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพ
ภาคการขนส่งและโลจิสติกส์มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ รัฐบาลได้ลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางถนนและการขนส่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร โครงการสำคัญได้แก่: การสร้างถนนสายใหม่และการปรับปรุงถนนสายเดิม การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในระบบโลจิสติกส์เพื่อเพิ่มความคล่องตัว

ภาคการบริการทางการเงิน: การสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นคง
ภาคการบริการทางการเงินเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการลงทุนและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ รัฐบาลได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเสริมสร้างระบบการเงินให้มีความมั่นคงและโปร่งใส โครงการสำคัญได้แก่: การเสริมสร้างกฎหมายและข้อบังคับทางการเงินเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน การส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินสำหรับประชาชนทั่วไป การพัฒนาเทคโนโลยีการเงิน (FinTech) เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการทำธุรกรรม

ภาคเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT): การสร้างอนาคตด้วยนวัตกรรม
ภาคเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) มีบทบาทสำคัญในการสร้างอนาคตที่มีความยั่งยืนและนวัตกรรม รัฐบาลได้ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในทุกภาคส่วนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่ม โครงการสำคัญได้แก่: การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีสำหรับเยาวชน การสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาในภาคเทคโนโลยีสารสนเทศ

บทสรุป
รัฐบาลภูฏานมีแผนยุทธศาสตร์ในการเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ผ่านการพัฒนาภาคส่วนหลัก โดยมุ่งหวังให้เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในประเทศ การดำเนินโครงการและนโยบายที่มุ่งเน้นการพัฒนาและการส่งเสริมการลงทุนในภาคส่วนเหล่านี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ภายในปี 2572

หมายเหตุ อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 13 ตุลาคม 2567  1 งูตรัม= 0.39 บาท (xe.com)

ที่มาข่าว https://kuenselonline.com/

thThai