ในโอกาสการเดินทางเยือนประเทศกาตาร์ของประธานาธิบดีอิหร่าน นายมัสอูด เปเซชกียาน (H.E. Mr. Masoud Pezeshkian) เพื่อเข้าร่วมประฃุมกรอบความร่วมมือเอเชีย ACD ได้หารือทวิภาคีกับผู้นำประเทศกาตาร์ เชค ตะมีม บินฮะมัด อัลษานี (His Highness Sheikh Tamim bin Hamad Al-Thani) และลงนามข้อตกลงและการลงทุนในโครงการการพัฒนาท่าเรือ Dayyer ตั้งอยู่ในจังหวัดบูเชะห์ (Bushehr) ทางภาคใต้ของอิหร่าน ซึ่งมีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม ท่าเรือ Dayyer มีความยาวท่าเรือ 217 เมตร และน่านน้ำลึก 4.5 เมตร อยู่ห่างจากอ่าวเปอร์เซีย 95 กิโลเมตร ซึ่งเมืองท่าแห่งนี้สามารถจัดหาสินค้าที่กาตาร์ต้องการและขนส่งไปยังเมืองท่าของกาตาร์ในระยะเวลาอันสั้น
ในช่วงฟุตบอลโลกปี 2024 ท่าเรือ Dayyer ถูกใช้เป็นท่าเรือสำรองขนส่งสินค้าตลอดจนส่งออกสินค้าของอิหร่านไปยังกาตาร์
ปัจจุบันมีการส่งสินค้าอาหารสดจากท่าเรือ Dayyer ไปยังกาตาร์ทุกวัน คาดว่าในอนาคตข้างหน้าท่าเรือ Dayyer จะเป็นประตูสู่ประเทศกาตาร์ในการเดินทางของคณะผู้แทนต่างๆ อาทิเช่น คณะผู้แทนการค้าและคณะผู้แทนการเมืองของสองประเทศ เนื่องจากท่าเรือ Dayyer มีระยะทางระหว่างท่าเรือ Al Ruwais ของกาตาร์ที่สั้นที่สุด
ด้านความสัมพันธ์ทางการเมือง การทูต และสภาพภูมิประเทศ รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจของประเทศกาตาร์เปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศอาหรับอื่นๆ กับท่าทีที่มีต่ออิหร่านพบว่า ประเทศกาตาร์มีจุดยืนทางการเมืองที่ขัดแย้งกับอิหร่านน้อยกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค เป็นประเทศพันธมิตรที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้สามารถเป็นฐานส่งออกสินค้าใหม่และ Re- export สินค้าสำหรับอิหร่าน
ศักยภาพและข้อได้เปรียบของประเทศกาตาร์
1) มีระยะทางใกล้กับอิหร่าน สะดวกต่อการขนส่งสินค้าและการทำธุรกิจ ประหยัดเวลาและ ค่าใช้จ่ายในการขนส่ง
2) มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมั่นคงการเมือง และจุดยืนทางการเมืองที่เป็นอิสระ
3) ผู้นำระดับประเทศให้ความสำคัญที่จะขยายความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน
4) มีความสัมพันธ์และอิทธิพลในธนาคารโลกและสะดวกในการเปิด LC
5) มีความต้องการและสนใจในการบริโภคสินค้าอิหร่านโดยเฉพาะสินค้าอาหารฮาลาล
6) รับประกันการลงทุนที่ให้ผลกำไรในประเทศปลายทางส่งออก