Mr. John Lee Ka-chiu ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกงประกาศนโยบายสำคัญของฮ่องกงผ่านการแถลงนโยบายประจำปี Policy Address 2024 เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567 มีนโยบายครอบคลุมทุกมิติ พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
- ด้านการส่งเสริมดิจิทัลสำหรับธุรกิจและการค้า
- รัฐบาลจะผลักดันการปฏิรูปธุรกิจและการค้าสู่ดิจิทัล ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการหารือระดับนานาชาติเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล และเพิ่มข้อกำหนดเหล่านี้ในข้อตกลงการค้าทวิภาคี
- สำนักงานบริการการเงินและการคลังจะออกแถลงการณ์นโยบายเกี่ยวกับการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในตลาดการเงินเร็วๆ นี้
- ด้านการสนับสนุนเงินทุนให้ SME 1 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง
- รัฐบาลจะอัดฉีดเงิน 1 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกงเข้าสู่กองทุน BUD เพื่อสนับสนุนบริษัทฮ่องกงที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ให้พัฒนาแบรนด์และขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยมีเพดานเงินทุนสำหรับแต่ละโครงการ 1 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง
- โปรแกรม “E-commerce Easy” ภายใต้กองทุน BUD มีเป้าหมายช่วยบริษัทท้องถิ่นพัฒนาในตลาดจีน โดยสามารถใช้เงินทุนเพื่อจัดตั้งร้านค้าออนไลน์หรือโฆษณาบนแพลตฟอร์มขายสินค้า
- ด้านการผ่อนปรนหลักเกณฑ์วีซ่าสำหรับผู้เดินทางจากประเทศอาเซียน
- ฮ่องกงจะผ่อนปรนเงื่อนไขสำหรับผู้ถือสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมาที่สมัครขอวีซ่าเข้าออกหลายครั้งเพื่อการท่องเที่ยวและธุรกิจ และขยายระยะเวลาวีซ่าจาก 2 ปีเป็น 3 ปี
- มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์กับสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN)
- รัฐบาลจะจัดให้มีการตรวจคนเข้าเมืองแบบบริการตนเอง (Self-Service) สำหรับผู้ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมธุรกิจและกิจกรรมพัฒนาจาก 10 ประเทศอาเซียน รวมทั้งจัดจุดบริการแบบครบวงจรสำหรับการตรวจคนเข้าเมืองและการตรวจวีซ่า
- ด้านการดึงดูดธุรกิจจากตะวันออกกลางและอาเซียนมาที่ฮ่องกง
- เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับตลาดในตะวันออกกลางและอาเซียน รัฐบาลจะนำเสนอมาตรการใหม่เพื่อปรับปรุงการพิจารณาใบสมัครการขอจดทะเบียนบริษัท และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์
เพื่อดึงดูดบริษัทจากภูมิภาคเหล่านี้ให้เข้ามาจดทะเบียนในฮ่องกง - จะมีสิทธิพิเศษทางภาษีที่จูงใจสำหรับสำนักงานครอบครัว ( Family Office)
- ฮ่องกงจะพยายามดึงดูดเงินทุนระดับโลกให้มาบริหารจัดการทีฮ่องกง รวมถึงอำนวยความสะดวกในการเปิดช่องทางการจำหน่ายใหม่สำหรับกองทุนเอกชน (Private Equity) ผ่านการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
- รัฐบาลจะยกระดับโครงการลงทุนใหม่เพื่อพำนัก (New CIES) โดยอนุญาตให้ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 50 ล้านเหรียญฮ่องกง และนับเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เข้ารวมเป็นยอดการลงทุนทั้งหมดโดยมีเพดานที่ 10 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง
- รัฐบาลจะหารือกับกลุ่มอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการเพิ่มรายการธุรกรรมที่มีสิทธิ์ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีสำหรับกองทุนและสำนักงานครอบครัวเดี่ยว
- ด้านการส่งเสริมการจดทะเบียนบริษัท
- รัฐบาลจะผ่อนคลายกระบวนการอนุมัติการจดทะเบียนบริษัทใหม่ และส่งเสริมให้บริษัทจากจีน
ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น - นโยบายใหม่นี้จะช่วยฟื้นฟูตลาดการจดทะเบียนบริษัทใหม่ของฮ่องกง และทำให้กลับขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของโลกในตลาดเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรก (IPO)
- ด้านการส่งเสริมฮ่องกงเป็นศูนย์กลางทองคำโลก
- รัฐบาลจะออกนโยบายเพื่อส่งเสริมให้ฮ่องกงเป็นตลาดทองคำโลก ซึ่งจะช่วยให้ฮ่องกงกลายเป็นศูนย์กลาง
การค้าขายชั้นนำ - ฮ่องกงมีสถานที่เก็บรักษาทองคำและแพลตฟอร์มการซื้อขายทองคำหลายแห่ง ซึ่งสามารถพัฒนาต่อไปได้หากรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมภาคส่วนนี้เพิ่มขึ้น
- รัฐบาลจะเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์และแหล่งจัดเก็บทองคำให้มากขึ้น ซึ่งจะดึงดูดผู้ค้าทองคำและผู้ประกอบการธุรกิจมายังฮ่องกงเพิ่มขึ้น รวมถึงธนาคารอาจพิจารณาส่งเสริมการให้สินเชื่อทองคำ ในขณะที่บริษัทการเงินอื่นๆ อาจแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับทองคำเพิ่มเติม
- การพัฒนานี้จะช่วยให้ฮ่องกงกลายเป็นศูนย์กลางทองคำระดับภูมิภาค แข่งขันกับสิงคโปร์และดูไบ ซึ่งต่างก็มีนโยบายรัฐบาลที่สนับสนุนธุรกิจทองคำ
- ด้านการลดภาษีสุรา
- ฮ่องกงจะลดภาษีสำหรับสุราที่มีราคานำเข้าเกิน 200 ดอลลาร์ฮ่องกง (26 ดอลลาร์สหรัฐ) จาก 100% เป็น 10% สำหรับส่วนที่เกิน 200 ดอลลาร์ฮ่องกง และภาษีสำหรับสุราที่มีราคานำเข้า 200 ดอลลาร์ฮ่องกงหรือต่ำกว่าจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
- มาตรการนี้จะส่งเสริมการค้าสุราและสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เช่น โลจิสติกส์
การจัดเก็บ และการท่องเที่ยว รวมทั้งเพิ่มการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มระดับหรูหราในฮ่องกง - ปัจจุบันฮ่องกงเรียกเก็บภาษี 100% ของราคานำเข้าสำหรับสุราที่มีปริมาณแอลกอฮอล์มากกว่า 30%
- ด้านศูนย์การแพทย์แผนจีน
- โรงพยาบาลการแพทย์แผนจีนแห่งแรกและสถาบันทดสอบยาจีนของรัฐบาลจะแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการเป็นระยะในปีหน้า
- ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านงานอีเวนต์ขนาดใหญ่
- ฮ่องกงมุ่งจัดงานอีเวนต์ขนาดใหญ่ที่เน้นทั้ง “ปริมาณและคุณภาพ”
- กลุ่มประสานงานงานอีเวนต์ขนาดใหญ่จะมุ่งเน้นฟื้นฟูอุตสาหกรรมค้าปลีกและโรงแรม และพัฒนาสถานที่จัดงานใหม่ๆ ที่บริเวณพื้นที่เหนือ MTR สถานี Exhibition Centre ในเขต Wan Chai รวมทั้งพื้นที่ริมน้ำและท่าเรือใกล้สถานี Hung Hom
10. ด้านการสร้างศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมชั้นนำ
- เขตวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตกจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมศิลปะและวัฒนธรรม
เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว ตลอดจนเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงินให้ศูนย์ศิลปะแห่งนี้ - พื้นที่นี้จะเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับงานสะสมส่วนบุคคล และการจัดประชุมแลกเปลี่ยนด้านอุตสาหกรรม
- รัฐบาลแนะนำให้ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมทำงานร่วมกับคณะกรรมการการท่องเที่ยวเพื่อสร้าง
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและความติดสร้างสรรค์ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและกระตุ้นการใช้จ่าย
- ด้านแผนพัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์
- “แผนแม่บทสำหรับการพัฒนาศิลปะวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมความคิดสร้างสรรค์” จะครอบคลุม 4 แนวทางหลัก ได้แก่ การส่งเสริมพัฒนาศิลปะและวัฒนธรรมด้วยมุมมองระดับนานาชาติ การส่งเสริมวัฒนธรรมจีน
การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางศิลปะระหว่างจีนกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก และการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรม - หน่วยงานพัฒนาศิลปวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมความคิดสร้างสรรค์ ที่มีบทบาทในการสนับสนุนการสร้างผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ที่มีศักยภาพในเชิงพาณิชย์ รวมถึงส่งเสริมการแลกเปลี่ยนสิทธิ์ทางปัญญาทางวัฒนธรรม และการพัฒนาฮ่องกงให้เป็นศูนย์กลางการออกแบบแฟชั่นในเอเชีย
12.ด้านการพัฒนาพลังงานสีเขียว
- รัฐบาลจะจัดสรรเงินประมาณ 750 ล้านเหรียญฮ่องกง (96.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายใต้กองทุนการขนส่งพลังงานใหม่ เพื่อสนับสนุนการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับธุรกิจแท็กซี่และบริษัทรถประจำทาง โดยจะมีการเปิดตัวโครงการสนับสนุนการทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน
- รัฐบาลจะส่งเสริมการพัฒนาพลังงานใหม่โดยตั้งเป้าหมายการใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนของอุตสาหกรรม นอกจากนี้จะพัฒนาห่วงโซ่อุปทานเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน และเชื้อเพลิงทางทะเล
สีเขียว และส่งเสริมการใช้พลังงานไฮโดรเจนคาร์บอนต่ำ
ความคิดเห็นของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง
จากแถลงการณ์เกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลฮ่องกงประจำปี 2024 แสดงให้เห็นเกี่ยวกับแผนการพัฒนาฮ่องกงในทุกมิติ ในฐานะศูนย์กลางทางการค้าเศรษฐกิจและการเงินของภูมิภาคเอเชีย ฝ่ายบริหารจึงให้ความสำคัญกับการค้าระหว่างประเทศและปรับปรุงนโยบายให้สอดคล้องกับยุคสมัยและสถานการณ์ในปัจจุบัน การจัดสรรงบบริหารอย่างเป็นระบบและสอดคล้องกับเป้าหมายช่วยรักษาภาพลักษณ์ศูนย์กลางทางการเงินของฮ่องกงได้อย่างยาวนาน และดึงดูดเงินทุนจากนานาชาติได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ฮ่องกงเปิดกว้างและสนับสนุนให้บริษัทขยายฐานการผลิตไปยังประเทศต่างๆในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งประเทศไทยนับเป็นอีกจุดหมายของบริษัทในฮ่องกงและนานาชาติเช่นกัน
แหล่งข้อมูล: https://www.policyaddress.gov.hk/2024/en/supplement.html