ถ้าหากจะดูว่าประเทศให้ความสำคัญกับอะไร รัฐบาลจะพาประเทศเดินไปทางไหน สามารถดูได้จากการจัดสรรงบประมาณ  ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี อนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลางของปี 2568 จำนวน 19.47 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นงบประมาณสูงสุดในประวัติศาสตร์ โดยงบประมาณส่วนใหญ่จะใช้ไปกับการพัฒนาสังคม เงินบำนาญ กิจการของรัฐบาล รวมไปถึงส่งเสริมการเกษตรในยูเออี    ไปจนถึงการต่อสู้กับอาชญากรรมทางการเงิน

สำหรับงบประมาณรายจ่ายงบกลางประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ได้ตั้งไว้จำนวน  17.44  พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 เทียบกับงบประมาณของปีก่อนหน้า จำนวน 17.17 พันล้านเหรียญสหรัฐ

คณะรัฐมนตรียูเออีได้อนุมัติงบประมาณกลางปี 2568 เป็น 19.47 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นงบประมาณจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ โดยจำแนกออกเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการพัฒนาสังคมและเงินบํานาญ (ร้อยละ 39) และกิจการของรัฐบาล ( ร้อยละ 35.7) เป็นเงิน   7.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ  และงบประมาณนี้ “สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจยูเออีและความยั่งยืนของทรัพยากร”

สำหรับงบประมาณสำหรับการพัฒนาสังคมจำนวน 7.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ จัดสรรสำหรับโครงการของรัฐและการศึกษาระดับอุดมศึกษา บริการด้านการดูแลสุขภาพและการป้องกันชุมชน สำหรับกิจการสังคม สำหรับเงินบำนาญ และบริการสาธารณะ บางส่วนจะถูกใช้จ่ายไปกับการลงทุนทางการเงิน โครงสร้างพื้นฐานและภาคเศรษฐกิจ ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลกลางอื่นๆ

แผนริเริ่มโครงการเพื่อยกระดับเศรษฐกิจ

จากการประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณางบประมาณดังกล่าว ที่มี Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktum รองประธานาธิบดี/นายกรัฐมนตรียูเออีและเจ้าผู้ปกครองรัฐดูไบ เป็นประธาน กล่าวถึงงบประมาณของรัฐบาลนี้เพื่อมุ่งหวังที่จะยกระดับเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคนในยูเออี

เนื่องจากยูเออีประกอบด้วยประชากรต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลกที่เลือกยูเออีเป็นบ้าน ประเทศนี้จึงเป็น   ที่รู้จักในการผลักดันโครงการต่างๆ ที่พยายามปรับปรุงสถานะของตนในภาคส่วนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ความมั่นคงทางการเงินไปจนถึงการส่งเสริมการเกษตรในท้องถิ่น และจากการประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติหวังที่จะยกระดับเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของทุกคนในประเทศ โดยได้หารือและนำแผนริเริ่มต่างๆ หลายประการมาใช้ ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในอนาคตของประเทศ โดยมีโครงการหลักที่ครอบคลุม พอสรุปได้ดังนี้ :

  1. นโยบายด้านการเกษตร ‘Plant the Emirates’

ส่งเสริมและสนับสนุนการเกษตรกรในประเทศ การผลิตเพื่อการบริโภค เพื่อลดค่าใช้จ่าย และสร้างความมั่นคงด้านอาหาร พยายามที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรในท้องถิ่น  ริเริ่มโครงการ  ‘Plant the Emirates’   และอนุมัติการจัดตั้งศูนย์การเกษตรแห่งชาติ (National Agricultural Centre) ดำเนินตามรอยนโยบายอดีตประธานาธิบดีและผู้ครองกรุงอาบูดาบี Sheikh Zayed ผู้ล่วงลับ ที่สนับสนุนการปลูกต้นไม้มากขึ้น และความคิดริเริ่มอื่น ๆ เช่น การเพิ่มจำนวนฟาร์ม และการลดของเสียทางการเกษตร

  1. โครงการเสริมสร้างศักยภาพ อนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity Sites Project)

ยูเออีมีความหลากหลายทางชีวภาพาชนิดพันธุ์ (species) สายพันธุ์ (genetic) และระบบนิเวศ (ecosystem) ที่แตกต่างมากมาย  แต่จากการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ ทำให้มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเกินศักยภาพ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม ส่งผลเสียต่อความหลากหลายทางชีวภาพ จึงเป็นเหตุให้จำนวนประชากรพืชและสัตว์ลดลงหรือสูญพันธุ์ได้ ยูเออีมีแหล่งความหลากหลายทางชีวภาพระบบนิเวศที่สำคัญ 9 แห่ง ในกรุงอาบูดาบี รัฐดูไบ รัฐชาร์จาห์ รัฐราสอัลไคมาห์ และรัฐอุมอัลเควอิน  ความหลากหลายทางชีวภาพสายพันธุ์ ชนิดพันธุ์ของละมั่งอาหรับ (Arabian Gazelle) ที่ถูกค้นพบในยูเออี รวมทั้งพะยูน   (Sea cows)  และของตุ๊กแกเฉพาะถิ่น (Gecko) 3 สายพันธุ์

โครงการนี้จะเพิ่มสัดส่วนพื้นที่อนุรักษ์ในพื้นที่ความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญจากร้อยละ 37.6 เป็นร้อยละ 98.1 และเพิ่มดัชนีพื้นที่อนุรักษ์ทางทะเลในจุดศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญ     จากร้อยละ 48.6 เป็น 98.2 และดัชนีพื้นที่อนุรักษ์ทางบกจากร้อยละ 51.6 เป็น 98.1

  1. ความสำเร็จของ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ

คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ เป้าหมายเศรษฐกิจหมุนเวียนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2574 หรือ UAE Circular Economy Agenda 2031 เป็นวาระแห่งชาติ ใช้เป็นโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ใช้แนวคิดโดยการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมไปยกระดับความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ อุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร อุตสาหกรรมพลังงานและวัสดุ อุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ โดยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมจะเข้าไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้ผลิตที่เป็นฐานการผลิตเดิม เช่น เกษตรกรและชุมชน ตลอดจนสนับสนุนให้เกิดผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูงหรือนวัตกรรม

นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจหมุนเวียน คือ สามารถออกแบบผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตเพื่อให้เกิดของเสียน้อยที่สุด (Eco-design & Zero-Waste)  ส่งเสริมการใช้ซ้ำ (Reuse, Refurbish, Sharing) และให้ความสำคัญกับการจัดการของเสียจากการผลิตและบริโภค ด้วยการนำวัตถุดิบที่ผ่านการผลิตและบริโภคแล้วเข้าสู่กระบวนการแปรสภาพเพื่อกลับมาใช้ใหม่ (Recycle, Upcycle) ซึ่งต่างจากระบบเศรษฐกิจแบบดั้งเดิม ที่เน้นการใช้ทรัพยากร การผลิต และการสร้างของเสีย (Linear Economy) เพื่อส่งเสริมการค้าที่เป็นธรรม คณะรัฐมนตรียังเห็นชอบความตกลง  CEPA กับสาธารณรัฐมอริเชียส เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในระยะยาว เพิ่มกระแสการค้า ลดหรือยกเลิกภาษีสินค้าและสินค้าร้อยละ 97

  1. คณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้าง (Restructuring committees)

คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติการปรับโครงสร้างของคณะกรรมการต่อต้านการฟอกเงินแห่งชาติ ปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและองค์กรผิดกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันมีผู้ว่าการธนาคารกลางของยูเออีเป็นประธาน คณะกรรมการจะพัฒนากลยุทธ์ที่ต่อสู้กับอาชญากรรมทางการเงิน ประเมินความเสี่ยงของประเทศ อำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนข้อมูล

อนุมัติการปรับโครงสร้างคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจเป็นประธานคณะกรรมการ โดยจะมีหน้าที่รับผิดชอบในการพัฒนานโยบายคุ้มครองผู้บริโภคทั่วไป ทบทวนรายงานที่ได้รับจากกระทรวงเศรษฐกิจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้ของผู้บริโภคเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์

  1. ข้อตกลงระหว่างประเทศ

คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ยูเออีเข้าร่วมสนธิสัญญาแอนตาร์กติก ค.ศ. 1959  ในฐานะผู้สังเกตการณ์ มีความมุ่งหมายสำคัญที่จะก่อตั้งระบอบการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ที่ครอบคลุมบนพื้นฐานแห่งผลประโยชน์ มีวัตถุประสงค์เพื่อสันติภาพและส่งเสริมความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศ อนุมัติเข้าร่วมสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับสวีเดน

เตรียมจัดตั้งศูนย์กลางโลจิสติกส์ฉุกเฉินด้านสุขภาพโลก (Global Health Emergency Logistics Hub) ตามข้อตกลง กับองค์การอนามัยโลก (WHO)  ยูเออียังได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ครอบคลุมถึงด้านต่างๆ เช่น การป้องกัน พลเรือน ความร่วมมือทางการเงิน และพลังงานหมุนเวียนกับหลายประเทศ นอกจากนี้มีแผนที่จะจัดงานระดับนานาชาติที่สำคัญ 5 งาน รวมถึงการประชุมสุดยอด We Protect Global Alliance ที่เน้นการปกป้องเด็กจากการล่วงละเมิด   ทางออนไลน์ และการประชุมใหญ่สหภาพไปรษณีย์สากลครั้งที่ 28 ในปี 2568 ควบคู่ไปกับฟอรัมสำคัญอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการศึกษาทางการแพทย์

  1. ประกาศอื่นๆ

เนื่องจากประเทศมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนรุ่นใหม่และสนับสนุนงานด้านวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ โดยได้จัดตั้งองค์กรส่งเสริมวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์แห่งชาติ เพื่อมอบรางวัล  นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติการแก้ไขกฎหมายของรัฐบาลกลาง ว่าด้วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์และการแก้ไขกฎหมายของรัฐว่าด้วยศุลกากรทั่วไปของ GCC

 

————————————————

thThai