ภาคการค้าปลีกของประเทศยูกานดาโดยเฉพาะศูนย์การค้าในประเทศมีการเติบโตอย่างโดดเด่นในช่วงหกเดือนแรกของปี 2567 ถึงร้อยละ 30 โดยเห็นได้จากจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 5 และพื้นที่ค้าปลีกในห้างฯ ส่วนใหญ่ถูกจับจองโดยมีการลงทะเบียนผู้ค้าปลีกในศูนย์การค้าชั้นนำเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำและไม่เติบโตอย่างที่ควรจะเป็นในยูกานดาและส่งผลกระทบต่อครัวเรือนจำนวนมาก ทำให้หลายครัวเรือนมีเงินเหลือไม่มากพอที่จะใช้จ่ายอย่างอื่นเพิ่มเติมนอกเหนือจากซื้อของที่จำเป็น โดยสาเหตุของการที่ห้างสรรพสินค้ามียอดขายเพิ่มขึ้นนั้นมาจากเหตุใดเราจะต้องมาดูกัน
ประการแรก คือ ตัวเลขพื้นที่ให้เช่าเชิงพาณิชย์ที่ผู้ค้าปลีกที่ขายสินค้าอุปโภคบริโภคถูกจับจองเพิ่มขึ้น 1,900 ตารางเมตร ในศูนย์การค้าบางแห่งในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา คาดว่าพื้นที่อีก 1,606 ตารางเมตร จะถูกจับจองก่อนสิ้นปีนี้โดยธุรกิจค้าปลีกที่ต้องการขยายการขายมากขึ้น แต่ในทางตรงกันข้าม ความต้องการที่พักอาศัย ที่หรูหรา ทำเลดี กลับได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจ และมีการทำยอดขายตกต่ำในช่วงเวลาเดียวกัน ขณะที่ห้างสรรพสินค้ากลับรุ่งเรือง อัตราการเช้าพักหรือใช้พื้นที่ในที่พักอาศัยระดับสูงลดลงร้อยละ 1 และความต้องการพื้นที่สำนักงานเชิงพาณิชย์โดยรวมก็ลดลงเช่นเดียวกัน โดยอัตราการว่างของอาคารสำนักงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2566 (อ้างอิงข้อมูลจากการวิจัยเศรษฐกิจโดย Knight Frank Uganda)
ประการที่ 2 มาดูในแง่ของการจัดเก็บรายได้เข้าประเทศของยูกานดา การจัดเก็บภาษีทั้งหมดของยูกานดาสำหรับปีงบประมาณ 2566/67 อยู่ที่ประมาณ 27.725 ยูกานดาชิลลิ่ง (7.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เมื่อเทียบกับเป้าหมายการจัดเก็บอย่างเป็นทางการที่ตั้งไว้ 29.672 ล้านยูกานดาชิลลิ่ง (79.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ) อ้างอิงจากตัวเลขที่เผยแพร่โดย PWC Uganda (PricewaterhouseCoopers) ตัวเลขการจัดเก็บรายได้ดังกล่าวส่งผลให้รายได้ในปี 2566/67 ขาดดุลประมาณ 1.946 ล้านยูกานดาชิลลิ่ง (520 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงปัญหาการเงินในวงกว้างที่เกิดขึ้นกับครัวเรือนและธุรกิจต่างๆ ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี จากการติดตามผลการดำเนินงานของผู้ค้าปลีกในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่จำนวน 6 แห่ง ที่ให้บริการในเมืองกัมปาลา ประเทศยูกานดา ผู้ค้าปลีกจะให้ให้บริการสินค้าเฉพาะกลุ่มคนที่มีความต้องการเฉพาะเจาะจง (Niche Market) แต่การใช้จ่ายของผู้บริโภคส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่การซื้อของประเภทของชำที่ผู้บริโภคทั่วไปมีความต้องการใช้เป็นประจำ แม้ว่าผู้คนจำนวนมากจะประสบปัญหาการหารายได้จนทำให้การใช้จ่ายสิ่งไม่จำเป็นลดลง แต่กลุ่มชนชั้นกลางของยูกานดาก็ยังคงเติบโตและมีความต้องการใช้จ่ายในระดับสูงอันเป็นปัจจัยที่ทำให้การเติบโตของห้างสรรพสินค้าชั้นนำมีเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 ดังที่กล่าวมาข้างต้น
อัตราค่าเช่าพื้นที่ขั้นต่ำที่ห้างสรรพสินค้าเรียกเก็บจากผู้ค้าปลีกที่มาเช่าโดยเฉลี่ยตามรายงานของ Knight Frank Uganda แบ่งได้ดังนี้
-
- 250 เหรียญสหรัฐต่อตารางเมตรสำหรับพื้นที่ให้เช่าที่มีขนาดน้อยกว่า 10 ตารางเมตร
- 48 เหรียญสหรัฐต่อตารางเมตรสำหรับพื้นที่ให้เช่าที่มีขนาดน้อยกว่า 50 ตารางเมตร
- 40 เหรียญสหรัฐต่อตารางเมตรสำหรับพื้นที่ให้เช่าที่มีขนาดน้อยกว่า 100 ตารางเมตร
ตามอัตราเรียกเก็บนี้ทำให้ผู้ค้าปลีกในปัจจุบันส่วนใหญ่ประสบปัญหาเรื่องค่าเช่าพื้นที่อย่างมาก ผู้เช่าเหล่านี้ถูกบังคับให้นำเงินจากแหล่งรายได้อื่นมาจ่ายค่าเช่าก่อนที่จะได้กำไรจากการขายสินค้า
ความเห็นของ สคต.
แม้ตัวเลขที่ยอดขายของห้างสรรพสินค้าในยูกานดาจะเพิ่มขึ้นตามข่าวดังกล่าว แต่ภาคเศรษฐกิจโดยรวมล้วนแต่มีปัญหาและส่งสัญญานเศรษฐกิจตกต่ำมากขึ้น อย่างไรก็ดี จะเห็นได้ว่า การจับจ่ายใช้สอยในของที่จำเป็นแก่การครองชีพเช่น อาหาร ยา และของใช้ทั่วไป ยังมีการเติบโตได้ดี แต่ของฟุ่มเฟือย เช่น ที่อยู่อาศัย หรือ การดำเนินธุรกิจกลับไม่ขยายตัวเท่าที่ รัฐบาลยูกานดาหวังไว้ ทั้งนี้ การขุดเจาะน้ำมันในยูกานดา ที่เริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์และจะมีการขนส่งเพื่อการส่งออกจริงจะเริ่มมีการดำเนินการในปลายปี 2567 นี้ ที่เส้นทางขนส่งท่อน้ำมันจากยูกานดาไปแทนซาเนียแล้วเสร็จ จึงมีความคาดหวังว่า รัฐบาลยูกานดาจะเริ่มมีรายได้ที่มั่นคงมากขึ้นสูงขึ้น ทำให้สามารถนำเงินมาพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ได้ในอนาคตอันใกล้
สำหรับประเทศไทยนั้น หากเราส่งออกสินค้าที่จำเป็นต่อการบริโภค เช่น อาหาร ผลิตภัณฑ์พลาสติก เสื้อผ้าที่มีราคาไม่แพงแต่มีคุณภาพดี สคต. มองว่า นี่อาจเป็นโอกาสให้ท่านเริ่มมาขยายตลาดในยูกานดา ที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ในอีก 1-5 ปีข้างหน้า แต่ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองที่ว่า ท่านจะสามารถแข่งขันกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน เช่น จีน อินเดีย ยูเออี เคนยา หรือ แทนซาเนีย ได้อย่างไร
ผู้ส่งออกที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมด้านการค้าและการลงทุนต่าง ๆ เกี่ยวประเทศเคนยา และประเทศในแอฟริกาตะวันออก ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ E-mail: ของสำนักงานฯ ที่ info@ocanairobi.co.ke
ที่มา : The EastAfrican