บริษัท Onsemi ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์สัญชาติอเมริกันจะลงทุนสร้างโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ซิลิกอนคาร์ไบด์ (Silicon carbide semiconductor) ขนาดใหญ่ในเมือง Rožnov pod Radhoštem (เมืองรอซนอฟ ดอราโฮชเตม) สาธารณรัฐเช็ก ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 46,000 ล้านเช็กคราวน์ หรือประมาณ 76,400 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนครั้งนี้ถือเป็นการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่สำคัญยิ่งสำหรับสาธารณรัฐเช็ก โดยการก่อสร้างมีกำหนดจะเริ่มขึ้นภายในฤดูใบไม้ผลิปี 2025 และคาดว่าจะเริ่มผลิตในปี 2027 โดยการลงทุนครั้งนี้ถือเป็นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในสาธารณรัฐเช็ก แซงหน้าการลงทุนด้านยานยนต์ของ Hyundai ในอดีต ซึ่งโรงงาน Rožnov จะไม่เพียงแต่เสริมความแข็งแกร่งให้กับความสามารถในการผลิตในท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังทำให้สาธารณรัฐเช็กเป็นผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งมีความสำคัญต่อภาคส่วนต่างๆ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้าและปัญญาประดิษฐ์อีกด้วย
ในปัจจุบัน โรงงานของบริษัท Onsemi ในสหรัฐอเมริกาผลิตเวเฟอร์ซิลิคอน (Silicon wafers) ซึ่งจะถูกนำมาแปรรูปที่สาธารณรัฐเช็ก แต่โรงงานแห่งใหม่นี้มีจุดประสงค์เพื่อรวมศูนย์การผลิตโดยจัดการทุกอย่างตั้งแต่ผงซิลิคอนคาร์ไบด์ไปจนถึงชิปขั้นสุดท้ายในสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศได้เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ นาย Aleš Cáb รองประธานบริษัท Onsemi กล่าวว่า “เป้าหมายของบริษัทคือการมีส่วนแบ่งในตลาดยุโรปร้อยละ 40 และความพยายามในการครองส่วนแบ่งทางการตลาดให้ได้มากขึ้นในอนาคต” นอกจากนี้ นาย Aleš Cáb ยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อดึงดูดการลงทุนเพิ่มเติมในภาคส่วนนี้ เนื่องจากบริษัทต่างๆ มักตัดสินใจโดยพิจารณาจากบุคลากรที่มีอยู่ ซึ่งกว่าร้อยละ 40 ของงานเหล่านั้นต้องมีวุฒิการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย บริษัท Onsemi จึงมีแนวคิดในการดำเนินการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมถึงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี Brno และมหาวิทยาลัย Tomáš Bata ใน Zlín เพื่อบ่มเพาะบุคลากรในท้องถิ่นให้มีความเชี่ยวชาญ โดยเน้นย้ำว่าบุคลากรท้องถิ่นจะมีบทบาทสำคัญในกระบวนการผลิต ซึ่งครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่การพัฒนาเทคโนโลยีไปจนถึงการออกแบบ การผลิตชิป และการสนับสนุนลูกค้า ซึ่งคาดว่าโรงงานแห่งใหม่นี้จะสร้างงานได้หลายร้อยตำแหน่ง นอกเหนือจากการลงทุนของบริษัท Onsemi แล้ว รัฐบาลสาธารณรัฐเช็กยังเตรียมความพร้อมสำหรับโรงงานผลิตแบตเตอรี่มูลค่า 200,000 ล้านเช็กคราวน์ หรือประมาณ 332,000 ล้านบาท ในภูมิภาค Karvinska ซึ่งอาจช่วยเสริมสร้างสถานะของประเทศในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์และรถยนต์ไฟฟ้าได้เพิ่มเติม
นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเช็ก นายปีเตอร์ เฟียลา (Mr. Petr Fiala) กล่าวว่าการลงทุนครั้งนี้จะส่งผลเชิงบวกต่อระบบเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน โดยการดำเนินการดังกล่าวคาดว่าจะมีส่วนสนับสนุน GDP ของสาธารณรัฐเช็กมากกว่า 6,000 ล้านเช็กคราวน์ต่อปี หรือประมาณ 9,950 ล้านบาทต่อปี รวมถึงการจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้นจากเดิมจำนวน 1,700 ตำแหน่ง เป็นประมาณ 3,000 ตำแหน่งในอนาคต จากข้อมูลดังกล่าวรัฐบาลคาดว่าจะมีแรงงานและผู้อยู่อาศัยใหม่หลั่งไหลเข้ามาที่เมือง Rožnov จำนวนมากจึงได้เตรียมแผนสำหรับโครงการต่างๆ กว่า 42 โครงการ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านเช็กคราวน์ หรือประมาณ 3,300 ล้านบาท ที่มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงระบบคมนาคม ที่อยู่อาศัย โรงเรียน และบริการสาธารณะ
ข้อคิดเห็น/เสนอแนะของ สคต.
จากข้อมูลที่กล่าวข้างต้น หากการลงทุนดังกล่าวเป็นไปตามแผนที่วางไว้จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจเช็กเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ชาวเช็กมีกำลังซื้อเพิ่มสูงขึ้น จึงถือเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ประกอบการไทยในการผลักดันการส่งออกสินค้ามายังตลาดสาธารณรัฐเช็กเพิ่มเติม ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยควรติดตามแนวโน้มตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ทั้งนี้ ปี 2566 สาธารณรัฐเช็กนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ คิดเป็นมูลค่า 237,563 ล้านเหรียญสหรัฐ จากประเทศเยอรมนี จีน โปแลนด์ สโลวาเกีย เนเธอร์แลนด์ อิตาลี ออสเตรเลีย ฮังการี ฝรั่งเศส และเบลเยียม ตามลำดับ โดยนำเข้าจากประเทศไทย คิดเป็นมูลค่า 785 ล้านเหรียญสหรัฐ