Mr. Christopher Hui Ching-yu, Secretary for Financial Services and the Treasury เปิดเผยว่า ฮ่องกงกำลังพิจารณาคำขอวีซ่านักลงทุนกว่า 600 รายการ คาดจะนำเม็ดเงินเข้าสู่เมืองได้มากถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง ความคืบหน้าดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากฮ่องกงเปิดตัวโครงการลงทุนใหม่เพื่อพำนัก (New Capital Investment Entrant Scheme – New CIES) เมื่อ 7 เดือนที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าดึงดูดนักลงทุนที่มีศักยภาพราว 4,000 รายต่อปีที่พร้อมลงทุน 30 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงเพื่อได้รับสิทธิ์พำนักในฮ่องกง
หากคำขอวีซ่าทั้ง 600 รายการได้รับการอนุมัติ จะสามารถนำเงินลงทุนใหม่เข้าสู่ฮ่องกงได้ถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง และยังกล่าวเสริมว่าการเปิดรับสมัครวีซ่า CIES สามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยในฮ่องกงได้นั้น เป็นการพิจารณาโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อตลาดและอุปสงค์ อีกทั้งยังสอดรับกับนโยบายดึงดูดสำนักงานครอบครัว (Family Office) ให้เข้ามาตั้งในฮ่องกงมากขึ้น
ในการแถลงนโยบาย ( Policy Address 2024) ของผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง ประกาศว่าผู้สมัครโครงการนี้จะสามารถเข้าถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกได้ โดยนักลงทุนสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงขึ้นไป และสามารถนับรวมมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 10 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเงินลงทุนขั้นต่ำตามเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับหรูให้คึกคัก รวมถึงยังอนุญาตให้ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ซึ่งก็สามารถนับรวมมูลค่าเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเงินลงทุนที่กำหนดได้เช่นกัน แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์จะยังซบเซาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและกระแสย้ายถิ่นของชาวฮ่องกงสู่จีน ทั้งนี้โครงการเดิมที่กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 10 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง เริ่มต้นในช่วงที่ฮ่องกงประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอยปี 2543 และดำเนินการจนถึงปี 2557 สามารถดึงดูดเงินลงทุนรวมสูงถึง 2.16 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง โดยในปีสุดท้ายมีเม็ดเงินไหลเข้าถึง 4.87 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง
อย่างไรก็ดี โครงการดังกล่าวถูกระงับในช่วงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่นกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น และหลังจากมีนักลงทุนกว่า 25,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ เข้ามาตั้งถิ่นฐานในฮ่องกง ทำให้รัฐบาลเปลี่ยนแนวทางไปมุ่งเน้นการดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถแทน การยื่นขอวีซ่านักลงทุนใหม่นี้เกิดขึ้นในช่วงที่กิจกรรมการระดมทุนในฮ่องกงเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน โดยมูลค่าการซื้อขายหุ้นพุ่งสูงกว่า 4 เท่าแตะระดับ 5 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกงแม้ว่าราคาจะมีความผันผวนสูง นอกจากนี้ยังมีบริษัทยักษ์ใหญ่ทยอยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงอย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็นของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง
โครงการ New CIES ดึงดูดนักลงทุนกลุ่มใหม่ที่มีความต้องการลงทุนและพักอาศัยในฮ่องกง ข้อมูลจากที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกระบุจำนวนกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ซึ่งมียอดผู้สมัครเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เงินทุนดังกล่าวช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคธุรกิจการเงิน นอกจากนี้การจัดตั้งสำนักงาน Family Office รวมทั้งการจัดตั้งธุรกิจในฮ่องกงมีบทบาทสูงต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ เนื่องจากทำให้เกิดการจ้างงานในวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เพิ่มรายได้ต่อหัวของประชากร
มีกำลังในการจับจ่ายใช้สอย จึงเป็นโอกาสที่ดีต่อผู้ประกอบการไทยในการหาโอกาสและช่องทางเปิดตลาด ส่งออกสินค้าอุปโภคและบริโภคมาจำหน่ายในฮ่องกง
แหล่งข้อมูล: https://www.thestandard.com.hk/section-news/section/11/267161/Investor-visas-to-bring-in-$20b