ข้อมูลจาก www.statista.com พบว่า ในปี 2566 มูลค่ายอดขายของตลาดผลิตภัณฑ์ความงามที่มีเซเลบริตี้เป็นเจ้าของ (Celebrity-owned beauty brands) ในตลาดสหรัฐฯ มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1,091,100,000 เหรียญสหรัฐ หรือเติบโตขึ้นร้อยละ 57.8 จาก โดยปี 2565 มีมูลค่ายอดขายอยู่ที่ 691,500,000 เหรียญสหรัฐ ทั้งนี้มูลค่ายอดขายของ Celebrity-owned beauty brands เติบโตอย่างก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับยอดขายโดยรวมของผลิตภัณฑ์ความงามยี่ห้ออื่นในตลาดสหรัฐฯที่ไม่ได้มีบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นเจ้าของ ซึ่งมีการเติบโตขึ้นเพียงร้อยละ 11.1

 

ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามที่มีเซเลบริตี้เป็นเจ้าของในสหรัฐฯ  ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามที่มีเซเลบริตี้เป็นเจ้าของในสหรัฐฯ

ปัจจัยที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ความงามที่มีเซเลบริตี้เป็นเจ้าของเติบโตอย่างรวดเร็ว คือ ชาวอเมริกันให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องผิวพรรณ และความงาม ซึ่งสามารถแบ่งเป็นกลุ่มต่างๆ ดังนี้ กลุ่ม millennials (ช่วงอายุ 28-42 ปี) เลือกซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์ความงาม เฉลี่ยปีละ 2,670 เหรียญสหรัฐฯ GEN Z (ช่วงอายุ 18 ถึง 26 ปี) ซื้อผลิตภัณฑ์ความงาม เฉลี่ยปีละ 2,048 เหรียญสหรัฐฯ GEN X (ช่วงอายุ 43 ถึง 58 ปี) ซื้อผลิตภัณฑ์ความงาม เฉลี่ยปีละ 1,517 เหรียญสหรัฐฯ และ Baby Bloomer (ช่วงอายุ 59 ถึง 77 ปี) เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ความงาม เฉลี่ยปีละ 494 เหรียญสหรัฐฯ ตามลำดับ

ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามที่มีเซเลบริตี้เป็นเจ้าของในสหรัฐฯ

ปัจจัยสำคัญอีกหนึ่งประการ คือ ความชอบและความหลงใหลในตัวเจ้าของแบรนด์ www.Nielseniq.com เผยว่า ในปี 2566 ชาวอเมริกันโดยรวมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ความงามที่มีเซเลบริตี้เป็นเจ้าของ เฉลี่ยอยู่ที่ 1,003.64 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อปี ซึ่งมากกว่าผู้บริโภคแบรนด์ทั่วไป 1.25 เท่า ทั้งนี้กลุ่มผู้บริโภคส่วนใหญ่อายุน้อย และมีกำลังซื้อมาก จึงซื้อสินค้าเพื่อสนับสนุน
เซเลบริตี้ที่ตนชื่นชอบ เว็บไซต์ Nielsenig เผยอีกว่า ตั้งแต่ปี 2562 ถึงปี 2566 เซเลบริตี้ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ความงามจำนวน 42 แบรนด์ โดยใช้ประโยชน์จากชื่อเสียง อิทธิพล และฐานแฟนคลับที่มี เพื่อสร้างพื้นที่ให้กับแบรนด์ของตัวเอง โดยเฉพาะการเน้นสร้างแบรนด์ในสื่อโซเชียลมีเดียเพื่อเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์ เซเลบริตี้ และผู้บริโภค อาทิ การที่เซเลบริตี้เจ้าของแบรนด์ถ่ายรูปคู่กับผลิตภัณฑ์ และโพสต์ผ่านอินสตาแกรม เฟสบุ๊ก หรือติ๊กตอก การสร้างคลิปสั้นเกี่ยวกับเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ รวมถึงประวัติความเป็นมาของแบรนด์ และการให้เพื่อนๆ เซเลบริตี้ท่านอื่นโพสต์ช่วยประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ผ่านสื่อออนไลน์ของตน เป็นต้น ปัจจัยที่ทำให้เจ้าของแบรนด์เน้นการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ผ่านสื่อออนไลน์ เนื่องจากการประชาสัมพันธ์ประเภทนี้สามารถเชื่อมโยงกับผู้บริโภคได้โดยตรง อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมความไว้วางใจในแบรนด์แก่ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามที่มีเซเลบริตี้เป็นเจ้าของในสหรัฐฯ ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามที่มีเซเลบริตี้เป็นเจ้าของในสหรัฐฯ

สำหรับผลิตภัณฑ์ความงามที่มีเซเลบริตี้เป็นเจ้าของที่เป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดนี้ และมีมูลค่ายอดขายมากที่สุด 5 อันดับแรก ในปี 2566 ได้แก่

  1. Fenty Beauty

Fenty Beauty แบรนด์ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ก่อตั้งโดย Rihanna ในปี 2560 โดยมีมูลค่ายอดขายที่ 602,400,000 เหรียญสหรัฐ และเป็นแบรนด์ของเซเลบริตี้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปี 2566 สำหรับสินค้าขายดีของแบรนด์นี้ คือ
รองพื้น และลิปกลอส ซึ่งสินค้า 2 ชนิดนี้ถูกค้นหาออนไลน์จากผู้บริโภคทั่วโลก อยู่ที่ จำนวน 21,000 ครั้ง และ 20,000 ครั้งต่อเดือนตามลำดับ นอกจากนี้ Rihanna ได้ส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางไปจำหน่ายกว่า 150 ประเทศทั่วโลก

  1. Anomaly Hair Care

Anomaly แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ก่อตั้งโดย Priyanka Chopra Jonas ถือเป็น
แบรนด์ของเซเลบริตี้ที่มีรายได้สูงสุดเป็นอันดับสองในปี 2566 โดยมีมูลค่ายอดขายที่542,000,000 เหรียญสหรัฐ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ถูกค้นหาออนไลน์มากที่สุด คือ น้ำมันบำรุงผม

  1. Kylie Cosmetics

Kylie Cosmetics ก่อตั้งโดย Kylie Jenner ในปี 2558 โดยมีมูลค่ายอดขายที่ 380,400,000 เหรียญสหรัฐ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุด คือ Kylie Lip Kits ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสินค้าเปิดตัว และเป็นตัวชูโรงของแบรนด์ Kylie Cosmetics โดยสินค้าชนิดนี้ถูกค้นหาออนไลน์จากผู้บริโภคทั่วโลกจำนวนหลายพันครั้งต่อเดือน

  1. R.E.M Beauty

R.E.M Beauty ก่อตั้งโดย Ariana Grande ในปี 2564 โดยมีมูลค่ายอดขายที่ 88,700,000 เหรียญสหรัฐ ผลิตภัณฑ์ขายดีอันหนึ่งของแบรนด์ คือ รองพื้น และลิปออยล์ ทั้งนี้ จุดขายของแบรนด์นี้ คือ ผลิตภัณฑ์วีแกน (Vegan) หรือการผลิตสกินแคร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้วัตถุดิบจากพืช หรือสารที่สังเคราะห์ขึ้นเท่านั้น

  1. Rare Beauty

Rare Beauty ก่อตั้งโดย Selena Gomez ในปี 2563 โดยมีมูลค่ายอดขายที่ 75,700,000 เหรียญสหรัฐ สำหรับผลิตภัณฑ์ขายดีของแบรนด์นี้ คือ บลัชออน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกค้นหาจำนวน 34,000 ครั้งต่อเดือนทั่วโลก

ความคิดเห็นของสคต.นิวยอร์ก

ชาวอเมริกันให้ความสำคัญในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเองเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามเติบโตเพิ่มขึ้นทั่วโลกอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์ที่มีเซเลบริตี้เป็นเจ้าของ ด้วยเหตุนี้ ปริมาณยอดขายของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจึงเพิ่มสูงขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีแบรนด์จำนวนมาก แต่ก็ยังมีโอกาสสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของไทยที่ดีมีคุณภาพอยู่เสมอ ดังนั้นผู้ประกอบจึงควรศึกษากลุ่มเป้าหมายของสินค้าให้ชัดเจน ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า รวมทั้งวางแผนการเข้าสู่ตลาดอย่างมีศักยภาพ หากมีผู้ประกอบการไทยหรือผู้สนใจที่จะศึกษาหรือส่งออกผลิตภัณฑ์ความงามในประเทศสหรัฐฯ สคต. นิวยอร์กมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการให้ข้อมูลและคำปรึกษา ตลอดจนประสานงานให้ต่อไป

 

ที่มา: https://www.lendingtree.com/ www.thesun.my.com / www. nielseniq.com / www.statista.com

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก

thThai