ภาวะการค้าระหว่างประเทศของอินเดีย ประจำเดือนกันยายน 2567*

การส่งออกของอินเดียโดยรวม (สินค้าและบริการรวมกัน) สำหรับเดือนกันยายน 2567 มีมูลค่า 65.19 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 3.76  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปีก่อนหน้า ส่วนการนำเข้า (สินค้าและบริการรวมกัน) สำหรับเดือนกันยายน 2567 มีมูลค่า 71.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว ร้อยละ 3.76 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปีก่อนหน้า

การส่งออกรวมภาคสินค้าและบริการของอินเดียสะสมระหว่างเดือนเมษายน – กันยายน 2567 มีมูลค่า 393.22 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 6.65 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนการนำเข้าสะสมระหว่างเมษายน – กันยายน 2567 มีมูลค่า 448.05 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 7.30 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

  1. การค้าสินค้า

การส่งออก เดือนกันยายน 2567 มีมูลค่า 34.58 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 34.41 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและ อัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่า 27.03 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 24.76 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกที่ขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า ได้แก่ กาแฟและผลิตภัณฑ์จากกาแฟ ยาสูบ พรมทำมือ พลาสติกและเสื่อน้ำมัน และเครื่องเทศ ตามลำดับ

ประเทศที่อินเดียมีมูลค่าการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นในเดือนกันยายน 2567 เทียบกับปีที่ผ่านมามากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ เนเธอแลนด์ (38.60%), สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(23.75%), บราซิล (41.98%), ญี่ปุ่น (36.35%) และ สหรัฐอเมริกา (4.98%),

ขณะที่ภาพรวมการส่งออกสินค้า 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2024 (เมษายน – กันยายน 2567)           มีมูลค่า 213.22 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 211.08 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 162.77 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 153.71 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

การนำเข้า เดือนกันยายน 2567 มีมูลค่า 55.36 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 54.49 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณี และเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 36.49 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 34.21 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้านำเข้าที่หดตัวอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ สารตั้งต้นผลิตสี , น้ำมันพืช , ไข่มุก ,เครื่องหนังและผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง , เคมีภัณฑ์ ตามลำดับ

ประเทศที่อินเดียมีมูลค่าการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นในเดือนกันยายน 2567 เทียบกับปีที่ผ่านมามากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (49.22%),ไต้หวัน (38.17%), เยอรมนี (32.52%), ญี่ปุ่น (25.72%) และ จีน (14.46%)

ขณะที่ภาพรวมการนำเข้าสินค้า 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2024 (เมษายน – กันยายน 2567) มีมูลค่า 350.66 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 330.32 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ      หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 222.72 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 211.34 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ดุลการค้าสินค้า เดือนกันยายน 2567 ขาดดุลการค้า 20.78 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าขาดดุลที่ระดับ 20.08 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้อินเดียขาดดุลการค้าสินค้าสะสม          6 เดือนแรกมูลค่า 137.44 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งขาดดุลมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ระดับ 119.24 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

  1. 2. การค้าบริการ*

เดือนกันยายน 2567 การส่งออกบริการมีมูลค่า 30.61 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 28.42 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การนำเข้า มีมูลค่า 16.32 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 14.58 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ดุลการค้า เกินดุลมูลค่า 14.29 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 13.84 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ภาพรวมการบริการ 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2024 (เมษายน – กันยายน 2567) มีมูลค่าเกินดุล 82.61 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ระดับ 75.06 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ข้อคิดเห็น

1.เดือนกันยายน 2567 อินเดียมีการส่งออก กาแฟและผลิตภัณฑ์จากกาแฟอย่างมีนัยสำคัญ และยังส่งผลต่อเนื่องไปยังตัวเลขการส่งออกสินค้าจากอินเดียสู่บราชิลปรับตัวเพิ่มขึ้น เห็นได้ชัดว่าก่อนการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ที่จะเกิดขึ้นในเดือน ตุลาคม 2567 นั้น ได้ส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิกอย่างมี   นัยยะ ทั้งนี้การดำเนินงานทางกิจกรรมทางเศรษฐกิจของอินเดียที่จะหาความร่วมมือทางการค้ากับกลุ่มประเทศในภูมิภาคต่างๆยังคงเพิ่มขึ้นหลังจากการประชุม ASEAN Summit ที่ลาวเป็นเจ้าภาพ

2.นอกจากกาแฟที่มีมาส่งออกที่โตขึ้นอย่างมีนัยยะแล้วนั้น ทั้งนี้ทางอินเดียได้เริ่มกลับมาส่งออกข้าวในวันที่ 28 กันยายน 2567 หลังจากหยุดการส่งออกไปเมื่อ 20 กรกฎาคม 2566 และผลจากการหยุดการส่งออกนั้นทำให้ ปริมาณสต๊อกข้าวของอินเดียปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 38.60 % และการลดภาษีการส่งออกข้าวนึ่ง จาก 20% เหลือ 10% ฉะนั้นแล้วตัวเลขการส่งออกของอินเดียเมื่อกลับมาส่งออกข้าวจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญและส่งผลเชิงบวกต่อภาพรวมของเศรษฐกิจของอินเดียในระยะถัดไป

3.กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของอินเดียเติบโตขึ้นในเดือนกันยายน 2567 ทั้งนี้ได้รับแรงหนุนจาก ภาคบริการและภาคการผลิตที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยอ้างอิงจากดัชนี Purchasing Manger Index (PMI) ซึ่งเป็นการบ่งบอกสัญญาณความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจต่อเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงการจ้างงานโดยรวมที่ขยายตัวในอัตราที่แข็งแกร่งในเดือนดังกล่าว

———————————————————-

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ

ณ กรุงนิวเดลี

 

* หมายเหตุ: จากข้อมูลล่าสุดของธนาคารกลางอินเดีย ข้อมูลภาคบริการเปิดเผยถึงเดือนสิงหาคม 2567 ในส่วนของข้อมูลของเดือนกันยายน 2567 เป็นเพียงการประมาณการ ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในการเปิดเผยข้อมูลครั้งต่อไป

ข้อมูลอ้างอิง:

– Ministry of Commerce and Industry, 16 October 2024, Latest Trade Figures

– The Times of India, 22 October 2024, Deloitte projects Indian economy to grow 7-7.2% in FY25

thThai