ที่มา : สำนักข่าว Bernama
Tengku Datuk Seri Zafrul Abdul Aziz รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุน การค้าและอุตสาหกรรม (MITI) เปิดเผยว่า การที่มาเลเซียได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่ม BRICS จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตในระยะยาว พร้อมเพิ่มโอกาสด้านการส่งออก
Tengku Zafrul กล่าวว่า มาเลเซียพร้อมแสดงบทบาทสำคัญในการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานระดับโลก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมชิปและอุตสาหกรรมสำคัญอื่นๆ “สมาชิก BRICS ให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพความเป็นผู้นำของมาเลเซีย”
รัฐมนตรีชี้ให้เห็นว่า กลุ่ม BRICS มีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจสูง โดยมีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) รวมกันถึง 26% ของ GDP โลก ซึ่งใกล้เคียงกับกลุ่ม G7 คำกล่าวนี้เป็นการตอบคำถามของ Datuk Seri Amirudin Shari (PH-Gombak) ในที่ประชุมรัฐสภา เกี่ยวกับผลดีที่มาเลเซียจะได้รับจากการเข้าร่วม BRICS
สำหรับจุดยืนของมาเลเซีย Tengku Zafrul ยืนยันว่า ประเทศจะรักษาความเป็นกลาง ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศ “เราจะไม่เลือกข้าง แต่จะรักษาสัมพันธ์ที่ดีกับทุกประเทศไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ จีน หรือรัสเซีย
“มาเลเซียเป็นประเทศที่เปิดกว้างทางการค้า เราจะใช้นโยบายเศรษฐกิจที่เป็นมิตรและยืดหยุ่นเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในการค้าและการลงทุน” รัฐมนตรีกล่าวทิ้งท้าย พร้อมย้ำว่ารัฐบาลจะพยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับประเทศมหาอำนาจ ขณะเดียวกันก็จะกระชับความสัมพันธ์ทั้งด้านการทูตและการค้ากับนานาประเทศ
บทวิเคราะห์ผลกระทบ
การที่มาเลเซียและไทยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS พร้อมกันนั้น เปิดโอกาสทางเศรษฐกิจที่สำคัญสำหรับภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากขนาดเศรษฐกิจของกลุ่ม BRICS ที่มี GDP รวมกันถึง 26% ของ GDP โลก ซึ่งใกล้เคียงกับกลุ่ม G7 นับเป็นโอกาสอันดีในการขยายตลาดและเสริมสร้างความร่วมมือทางธุรกิจ
ภาคเอกชนไทยสามารถใช้ประโยชน์จากการเข้าร่วม BRICS ในการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานร่วมกับมาเลเซีย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมชิปและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นหนึ่งใอุตสาหกรรมที่มาเลเซียมีความแข็งแกร่ง การร่วมมือนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและเปิดโอกาสในการเข้าถึงตลาดใหม่ๆ ในกลุ่มประเทศ BRICS
ความคิดเห็น สคต.
สคต. มีความเห็นว่าไทยควรใช้โอกาสจากการเข้าร่วม BRICS ในการกระชับความร่วมมือกับมาเลเซียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายร่วมกัน เช่น อุตสาหกรรมชิป และการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน ความร่วมมือระหว่างไทยและมาเลเซียในกรอบ BRICS จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านการค้าและการลงทุน ผู้ประกอบการไทยควรใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาศักยภาพ สร้างนวัตกรรม และขยายเครือข่ายธุรกิจในระดับภูมิภาคและระดับโลกทั้งนี้ การรักษาความสมดุลในความสัมพันธ์ทางการค้าและการเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์