รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าของประเทศชิลี ฉบับที่ 11 ประจำปี 2567

ภาพรวมเศรษฐกิจ 

ผู้ว่าธนาคารกลางชิลีเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจล่าสุดประจำเดือนกันยายน 2567 โดยภาพรวม GDP ขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.3% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า การบริโภคภาคเอกชนโดยรวมปรับตัวดีขึ้นที่ 5.3% โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายของชาวชิลีในช่วงเทศกาลวันชาติ ส่วนบรรยากาศการลงทุนในภาพรวมยังคงหดตัวต่อเนื่อง อัตราว่างงานและอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 8.7% และ 4.1% ตามลำดับ ภาคการนำเข้าลดลง -3.9% ในขณะที่ภาคการส่งออกโดยรวมเพิ่มขึ้น 4.4% โดยมีสินแร่และทองแดงเป็นสินค้าส่งออกหลัก ระหว่างเดือนมกราคม-กันยายน 2567 ชิลีส่งออกสินแร่และทองแดงรวมมูลค่ากว่า 42,423 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสินค้าทั้งสองหมวดคิดเป็น 53.7% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของประเทศ

ในส่วนของรายละเอียดในแต่ละด้านประจำเดือนกันยายน 2567 สคต. ณ กรุงซันติอาโก ขอสรุปรายละเอียด ดังนี้

1. การบริโภคภาคเอกชน (ข้อมูลจากธนาคารกลางชิลี )

การบริโภคภาคเอกชนของชิลีประจำเดือนกันยายน 2567   ในภาพรวมขยายตัว 5.3% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยในเดือนกันยายนนี้นอกจากเทศกาลวันชาติแล้ว ยังมีมหกรรมลดราคาสินค้า Cyber Monday ทำให้ยอดขายหมวดสินค้าคงทน ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าเทคโนโลยี เพิ่มขึ้นถึง 11.3% หมวดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เพิ่มขึ้น 7.6% หมวดเครื่องสำอางและยารักษาโรค เพิ่มขึ้น 6.1% หมวดสินค้าอุปโภค 6.1% ทั้งนี้ หมวดสินค้าที่ปรับลดลงได้แก่ หมวดน้ำมันเชื้อเพลิง -8.8% หมวดยางรถยนต์และอุปกรณ์ประดับยนต์ที่ -2.7%

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนกันยายน 2567  ปรับระดับลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากระดับ 41.4 มาอยู่ที่ 41.0 ลดลง 0.9%

2.การลงทุน (ข้อมูลจากธนาคารกลางชิลี https://www.bcentral.cl/)

บรรยากาศการลงทุนในภาครัฐและเอกชนของชิลีประจำเดือนกันยายน 2567 ในภาพรวมยังคงซบเซา โดยหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน สะท้อนจากตัวเลขการขออนุญาตก่อสร้าง      (คิดเป็นตารางเมตร) จาก 0.7 ล้านตารางเมตร มาอยู่ที่ 0.5 ล้านตารางเมตร ลดลง -19.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ปริมาณการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับใช้ในการก่อสร้างลดลง เช่นกันโดยอยู่ที่ -27.2%

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจโดยรวมประจำเดือนกันยายน 2567 มีการปรับระดับเพิ่มขึ้นจากระดับ 43.4 มาอยู่ที่ 46.2 เพิ่มขึ้น 6.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยภาคธุรกิจเหมืองแร่มีดัชนีความเชื่อมั่นสูงที่สุดที่ 64.9 ตามมาด้วยภาคการค้าที่ 49.0     ส่วนภาคธุรกิจการก่อสร้างมีดัชนีความเชื่อมั่นต่ำที่สุดที่ 23.7

3. เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ (ข้อมูลจากธนาคารกลางชิลี https://si3.bcentral.cl และสำนักงานสถิติแห่งชาติของชิลี https://www.ine.gob.cl)

อัตราการว่างงานของประเทศชิลีในเดือนกันยายน 2567 ปรับลดลงมาอยู่ที่ 8.7% ของจำนวนผู้ใช้แรงงานทั้งหมดในประเทศ หากพิจารณาแยกตามเขตการปกครอง แคว้นที่มีอัตราการว่างงานสูงที่สุดคือ แคว้นอาเราคาเนีย ที่ 10.9% และแคว้นที่มีอัตราการว่างงานต่ำที่สุดคือ แคว้นไอเซน ที่ 4.4%

อัตราเงินเฟ้อของประเทศชิลีในเดือนกันยายน 2567 ปรับลดลงมาอยู่ที่ 4.1% โดยสินค้า 3 หมวดแรก ที่ปรับเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบ 3 เดือนนี้ ได้แก่ (1) หมวดที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภค (2) หมวดร้านอาหารและโรงแรม และ (3) หมวดการศึกษา โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 6.6%, 6.2% และ 5.8% ตามลำดับ

4. การส่งออก-นำเข้า (ข้อมูลจากกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศของชิลี SUBREI – www.subrei.gob.cl)

การส่งออกสินค้าของชิลีระหว่างเดือนมกราคม-กันยายน 2567   มีมูลค่ารวมที่ 74,212 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสินค้าส่งออกหลัก ได้แก่

การนำเข้าของชิลีระหว่างเดือนมกราคม-กันยายน 2567 มีมูลค่ารวมที่ 57,296 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -3.9% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสินค้านำเข้าหลัก ได้แก่

จากตัวเลขการส่งออกของชิลีที่สูงกว่าตัวเลขการนำเข้า ทำให้ชิลีได้ดุลการค้า จำนวน 16,916 ล้านเหรียญสหรัฐ

5. การค้าของชิลีกับไทย และกลุ่มประเทศอาเซียน (ข้อมูลสถิติทางการค้าจาก Global Trade Atlas)

ชิลีนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยระหว่างเดือนมกราคม ถึง เดือนกันยายน 2567 มูลค่ารวม 419.56 ล้านเหรียญสหรัฐ  (ลดลง –1.37% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า)  ซึ่งสินค้าที่นำเข้าจากไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

• รถยนต์และส่วนประกอบ (166.70 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.12%)
• เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ (60 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -0.63%)
• เครื่องจักรไฟฟ้าและอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า (35.99 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 23.66%)
• ปลากระป๋อง (29.94 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -32.95%)
• ไข่มุกและอัญมณี (27.70 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.05%)

สำหรับตัวเลขการนำเข้าของชิลีจากกลุ่มประเทศอาเซียนใน 5 อันดับแรก ได้แก่

• ชิลีนำเข้าจากเวียดนาม 896.76 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 1.01%)
• ชิลีนำเข้าจากไทย 419.56 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -1.37%)
• ชิลีนำเข้าจากอินโดนีเซีย 280.73 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 25.55%)
• ชิลีนำเข้าจากมาเลเซีย 144.56 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 10.80%)
• ชิลีนำเข้าจากสิงคโปร์ 75.03 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 29.71%)

ชิลีส่งออกสินค้าไปยังประเทศไทยระหว่างเดือนมกราคม ถึง เดือนกันยายน 2567 มูลค่ารวม 498.92 ล้านเหรียญสหรัฐ  (เพิ่มขึ้น 0.58% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า)  ซึ่งสินค้าที่ส่งออกไปยังไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

• ทองแดง (270.76 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -0.57%)
• เยื่อกระดาษ (86.74 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 50.76%)
• แซลมอนและอาหารทะเล (56.84 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -21.77%)
• สินแร่อื่น ๆ (36.88 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -4.66%)
• ผลไม้และผลิตภัณฑ์ธัญพืช (10.53 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -28.43%)

สำหรับตัวเลขการส่งออกของชิลีไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนใน 5 อันดับแรก ได้แก่

• ชิลีส่งออกไปยังไทย 498.92 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 0.58%)
• ชิลีส่งออกไปยังฟิลิปินส์ 225.44 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 403.99%)
• ชิลีส่งออกไปยังเวียดนาม 221.17 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -14.78%)
• ชิลีส่งออกไปยังมาเลเซีย 148.07 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -39.14%)
• ชิลีส่งออกไปยังสิงคโปร์ 89.54 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 77.96%)

มูลค่าการค้ารวมระหว่างไทย-ชิลี ระหว่างเดือนมกราคม – เดือนกันยายน 2567 อยู่ที่ 918.48 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -0.32%)   โดยชิลีส่งออกสินค้าไปยังไทยมากกว่านำเข้าจากไทย ทำให้ไทยเป็นฝ่ายขาดดุลการค้าที่ 79.36 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงซันติอาโก

พฤศจิกายน 2567