แผนการนำเข้าน้ำตาลของฟิลิปปินส์ถูกระงับจนถึงกลางปี 2568

          กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ (Department of Agriculture) เปิดเผยว่าจะเลื่อนการตัดสินใจการนำเข้าน้ำตาลออกไปจนถึงกลางปี 2568 เนื่องจากคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำตาลในประเทศยังคงเพียงพอต่อการบริโภค

          นาย Francisco P. Tiu Laurel, Jr. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ระบุว่าจากสถานการณ์ในปัจจุบันทำให้การตัดสินใจนำเข้าน้ำตาลจะเกิดขึ้นหลังเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นช่วงสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยวปัจจุบัน โดยได้ยืนยันว่า ไม่มีความจำเป็นต้องนำเข้าน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ (Refined Sugar) เพิ่มเติม เนื่องจากสต็อกน้ำตาลดิบและน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ในประเทศยังคงอยู่ในปริมาณที่เพียงพอ โดยข้อมูลจากหน่วยงานกำกับดูแลน้ำตาล (Sugar Regulatory Administration: SRA) ณ วันที่ 13 ตุลาคม 2567 ระบุว่า สต็อกน้ำตาลดิบ (Raw sugar) มีปริมาณ 216,641 ตัน และมีสต็อกน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ อยู่ที่ 513,393 ตัน

          นาย Pablo Luis Azcona ผู้บริหาร SRA เปิดเผยว่า ขณะนี้ พึ่งเริ่มต้นฤดูเก็บเกี่ยวอ้อย ทำให้กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์และ SRA ตกลงที่จะชะลอการตัดสินใจเกี่ยวกับการนำเข้าน้ำตาลออกไปจนถึงหลังการเก็บเกี่ยวในเดือนพฤษภาคม 2568 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้อนุญาตให้นำเข้าน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ที่ปริมาณ 24,000 ตัน เพื่อป้องกันการขาดแคลนก่อนที่จะเริ่มฤดูการเก็บเกี่ยว นอกจากนี้ ยังเสริมว่า ฤดูเก็บเกี่ยวในปีนี้เริ่มต้นอย่างช้าๆ โดยปริมาณอ้อยทั้งหมดจะมีปริมาณหนึ่งในสามของปีก่อนหน้า เนื่องจากเกษตรกรต้องชะลอการเก็บเกี่ยวเพื่อให้ต้นอ้อยแก่เต็มที่เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำตาล อย่างไรก็ตาม เนื่องจากภาวะแห้งแล้งเป็นเวลานานจากปรากฏการณ์เอลนีโญทำให้อ้อยแก่ไม่เต็มที่ส่งผลให้อ้อยมีน้ำตาลลดลงร้อยละ 16 ต่อตัน

          กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) คาดการณ์ว่าปริมาณการผลิตน้ำตาลดิบในฤดูเพาะปลูกปี 2567 – 2568 คาดว่าจะลดลงร้อยละ 3.6 จากฤดูกาลก่อน โดยปริมาณน้ำตาลดิบจะอยู่ที่ 1.85 ล้านตัน ขณะที่ SRA ประเมินว่าการผลิตน้ำตาลจะลดลงร้อยละ 7.2 จากปริมาณ 1.92 ล้านตันจากฤดูกาลก่อน นอกจากนี้ แม้พื้นที่ปลูกอ้อยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 388,378 เฮกตาร์ เป็น 389,461 เฮกตาร์ แต่ผลผลิตยังคงลดลงเนื่องจากผลกระทบของเอลนีโญ

ที่มา: หนังสือพิมพ์ BusinessWorld 

บทวิเคราะห์/ข้อคิดเห็น

  • ฟิลิปปินส์อาจเผชิญกับความท้าทายด้านการผลิตน้ำตาลในปี 2567 – 2568 เนื่องจากผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนีโญที่ส่งผลให้ผลผลิตลดลง โดยข้อมูลจากหน่วยงานกำกับดูแลน้ำตาล (SRA) และกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ชี้ว่าการผลิตน้ำตาลดิบอาจลดลงถึงร้อยละ 7.2
    จากฤดูเพาะปลูกก่อนหน้า แม้พื้นที่เพาะปลูกจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ได้ตัดสินใจเลื่อนการนำเข้าน้ำตาลออกไปจนถึงกลางปี 2567หลังฤดูเก็บเกี่ยวสิ้นสุด เนื่องจากสต็อกน้ำตาลในประเทศยังคงเพียงพอในระยะสั้น
    แต่หากปริมาณการผลิตน้ำตาลยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องและมีความจำเป็นต้องนำเข้าเพิ่มเติม ไทยถือเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลที่มีศักยภาพในการขยายตลาดไปยังฟิลิปปินส์ เนื่องจากน้ำตาลไทยได้รับความนิยมในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในฟิลิปปินส์ ด้วยคุณภาพและมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับสถานการณ์นี้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายการค้าและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดน้ำตาลในฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ขนม และเครื่องดื่ม ซึ่งมีความต้องการน้ำตาลที่มีคุณภาพสูงอย่างต่อเนื่องสำหรับในปี 2567 (เดือนมกราคม – กันยายน) ไทยส่งออกน้ำตาลมายังฟิลิปปินส์ มูลค่า 29 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 75.47 จาก ช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่มีมูลค่า 355.91 ล้านดอลลาร์

 

—————————————

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา

 พฤศจิกายน 2567

thThai