กลุ่มประเทศนอร์ดิกต่างออกประกาศให้คำแนะนำแก่ประชาชนในการเตรียมตัวกรณีเกิดสงคราม เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้นานถึงหนึ่งสัปดาห์ เนื่องจากสถานการณ์ด้านความปลอดภัยในยุโรปที่แย่ลง ท่ามกลางสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน และจากเหตุการณ์สายเคเบิลใต้น้ำถูกทำลาย ส่งผลให้เกิดความกลัวการก่อวินาศกรรม
โดยเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 สายเคเบิลใยแก้วนำแสงใต้น้ำ 2 เส้นในทะเลบอลติกถูกทำลาย ซึ่งก่อให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจเกิดการก่อวินาศกรรมขึ้น โดยสาเหตุยังไม่ได้รับการยืนยันและอยู่ระหว่างการสืบสวน ทั้งนี้ สายเคเบิลเส้นหนึ่งเชื่อมระหว่างกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ กับท่าเรือ Rostock ของเยอรมนี ส่วนอีกเส้นเชื่อมระหว่างลิทัวเนียและเกาะ Gotland ของสวีเดน โดยทั้งเยอรมนี และฟินแลนด์กล่าวว่า ทั้งสองประเทศมีความกังวลอย่างยิ่ง เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนอย่างละเอียด ทั้งนี้ ความมั่นคงของยุโรปไม่เพียงแต่ตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคามจากสงครามรุกรานยูเครนของรัสเซียเท่านั้น แต่ยังตกอยู่ภายใต้สงครามลูกผสมจากผู้กระทำผิดอีกด้วย
หน่วยงานของกลุ่มประเทศนอร์ดิก ซึ่งประกอบด้วย The Danish Emergency Management Agency (เดนมาร์ก) The Swedish Civil Contingencies Agency (MSB) (สวีเดน) the Norwegian Directorate for Civil Protection (DSB) (นอร์เวย์) และ the Digital and Population Data Services Agency (ฟินแลนด์) ได้ออกประกาศ โดยระบุว่า หากประชาชนมีการเตรียมความพร้อม และสามารถดูแลตนเองได้ ภาครัฐจะสามารถทุ่มเทกำลัง และทรัพยากรไปกับสิ่งที่จำเป็นในการรักษาเสถียรภาพได้ โดยในส่วนของคำแนะนำ ครอบคลุมการเตรียมตัวสำหรับการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ เหตุการณ์สภาพอากาศเลวร้าย และวิกฤตอื่นๆ โดยมีรายละเอียดว่า ประชาชนต้องเตรียมสิ่งจำเป็น เช่น อาหาร น้ำ ยา ผลิตภัณฑ์สุขอนามัย และสิ่งของสำหรับทำความร้อน และแสงสว่างอย่างไร
บทวิเคราะห์ผลกระทบต่อไทย ข้อเสนอแนะ โอกาสแนวทางและความคิดเห็น
• ความต้องการสินค้าจำเป็นเพิ่มขึ้น – คำแนะนำให้ประชาชนเตรียมของใช้จำเป็น เช่น อาหาร น้ำ ยา และผลิตภัณฑ์สุขอนามัย อาจทำให้ความต้องการสินค้าประเภทนี้ในกลุ่มประเทศนอร์ดิกเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับสินค้าจำพวกอาหารแปรรูปและสินค้าเพื่อสุขอนามัย
• ความผันผวนทางเศรษฐกิจในภูมิภาค – ความกังวลด้านความมั่นคงอาจกระทบต่ออำนาจซื้อของผู้บริโภคในบางกลุ่ม ส่งผลต่อสินค้าที่ไม่ใช่สินค้าจำเป็น เช่น ของตกแต่งบ้าน อัญมณีและเครื่องประดับ หรือสินค้าแฟชั่น
• โอกาสของสินค้าไทย – ไทยสามารถเพิ่มการส่งออกอาหารสำเร็จรูปและอาหารแช่แข็งที่มีอายุการเก็บรักษานาน เช่น ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และอาหารกระป๋อง เพื่อรองรับความต้องการในสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งสินค้าเพื่อสุขอนามัย เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผ้าอนามัย และหน้ากากอนามัย อาจมีความต้องการเพิ่มขึ้น
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
563 ถนน นนทบุรี ตำบล บางกระสอ
อำเภอเมืองนนทบุรี นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-507-7999
สายตรงการค้าระหว่างประเทศ: 1169
ผู้ใช้ที่กำลังออนไลน์ : 4 คน | จำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด : 6214722 คน
สงวนลิขสิทธิ์ © 2023 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ