“ฮ่องกงมุ่งสู่ศูนย์กลางนวัตกรรมสุขภาพระดับโลก เสริมความแกร่งด้านระบบสาธารณสุข”

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม Professor Lo Chung-mau, the Secretary for Health ได้เข้าพบกับ Ms. Guo Yanhong, Vice-minister of the National Health Commission ณ กรุงปักกิ่ง เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ ที่มุ่งส่งเสริมการพัฒนาฮ่องกงให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมด้านสุขภาพและการแพทย์ระดับโลก รวมถึงการปฏิรูประบบสาธารณสุขอย่างครอบคลุม ตามที่ได้ระบุไว้ใน “คำแถลงนโยบายปี 2024 ของผู้บริหารสูงสุด (The Chief Executive’s 2024 Policy Address) พร้อมทั้งมีการหารือเชิงลึกเกี่ยวกับสถานการณ์และมาตรการควบคุมยาสูบในฮ่องกง

Professor Lo กล่าวว่า ในมติของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่าด้วยการขับเคลื่อนการปฏิรูปเชิงลึกเพื่อพัฒนาจีนยุคใหม่ ซึ่งได้รับการรับรองจากการประชุมสมัชชาครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการกลางพรรคฯ ชุดที่ 20 ได้กล่าวถึง การปฏิรูประบบการแพทย์และสุขภาพอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนการพัฒนายาและนวัตกรรมอุปกรณ์การแพทย์ นอกจากนี้ แผนพัฒนาเขตความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนวัตกรรม “Hetao Shenzhen-Hong Kong Science and Technology Innovation Cooperation Zone (HTCZ)” ที่ประกาศโดยคณะรัฐมนตรีจีนเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ยังระบุถึงความร่วมมือในการพัฒนา “หนึ่งเขต สองอุทยาน” ระหว่างเซินเจิ้นและฮ่องกง แสดงถึงการสนับสนุนอย่างชัดเจนต่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีชีวการแพทย์ขั้นสูง

เขายังกล่าวเสริมว่า ตามที่ระบุในแผนพัฒนาฯ รัฐบาลฮ่องกง (HKSAR) จะใช้ข้อได้เปรียบภายใต้หลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” และระบบวิชาชีพการแพทย์ของฮ่องกง เพื่อพัฒนาฮ่องกงให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมด้านสุขภาพและการแพทย์ระดับนานาชาติ เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการการวินิจฉัยและรักษาขั้นสูงได้รวดเร็วขึ้น พร้อมทั้งส่งเสริมอุตสาหกรรมวิจัยและพัฒนาด้านชีวเวชให้เติบโต โดยมุ่งบูรณาการสู่การพัฒนาระดับชาติและสนับสนุนเทคโนโลยีชีวเวชแห่งอนาคต

Professor Lo กล่าวถึงการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของสถาบันการทดลองทางคลินิกระหว่างประเทศในเขต GBA (Greater Bay Area International Clinical Trial Institute) เมื่อเดือนที่ผ่านมาในเขตความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนวัตกรรม HTCZ และในวันเดียวกัน ศูนย์การทดลอง Greater Bay Area International Clinical Trials Center of the Shenzhen Municipality ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเขตเซินเจิ้นเช่นกัน การก่อตั้ง“หนึ่งสถาบัน หนึ่งศูนย์” นี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของความร่วมมือในแนวคิด “หนึ่งเขต สองอุทยาน”

ในด้านการปฏิรูประบบสาธารณสุข Professor Lo เน้นย้ำว่าการปฏิรูปดังกล่าวมุ่งยกระดับการคุ้มครองสุขภาพและคุณภาพการให้บริการ ตลอดจนเสริมสร้างความยั่งยืนของระบบสาธารณสุข เพื่อส่งเสริมสุขภาพของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น “รัฐบาลฮ่องกงจะเดินหน้าพัฒนาบริการสาธารณสุขให้ดียิ่งขึ้น ขยายความร่วมมือทางการแพทย์ในเขต GBA และศึกษาการจัดตั้งกลไกความช่วยเหลือด้านการปลูกถ่ายอวัยวะในระยะยาว เพื่อรักษาสถานะระดับโลกและเสริมสร้างความได้เปรียบทางวิชาชีพการแพทย์ของฮ่องกงในภูมิภาคนี้”

เขายังเห็นด้วยอย่างเต็มที่กับการห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ากลิ่นปรุงแต่งในจีนแผ่นดินใหญ่ โดยชี้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าประเภทนี้ส่งผลกระทบเชิงลบอย่างร้ายแรงต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและสตรี

ความคิดเห็นของ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง

รัฐบาลฮ่องกงมีนโยบายส่งเสริมให้ประชากรมีสุขภาพที่ดี เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบสาธารณสุขของฮ่องกงและผลักดันให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมสุขภาพระดับโลก ไม่เพียงแต่การจัดตั้งศูนย์วิจัยด้านสาธารณสุขที่ร่วมมือกับเขตเมืองใน GBA เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเปิดกว้างให้กับการแพทย์แผนปัจจุบัน การแพทย์ดั้งเดิม และการนำเข้าเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยจากนานาชาติ สำหรับประเทศไทยมีจุดเด่นในด้านการจัดการธุรกิจสุขภาพ (Healthcare Management) จึงเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจ Healthcare ที่สนใจจะขยายธุรกิจในต่างประเทศ เนื่องจากฮ่องกงมีการส่งเสริมด้านการแพทย์ในเส้นทางของ GBA

แหล่งข้อมูล: https://www.bastillepost.com/global/article/4380456-hong-kong-aims-to-become-international-health-innovation-hub-enhancing-healthcare-and-tobacco-control-efforts