ปัจจุบันเศรษฐกิจจีนมีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ประชากรชาวจีนมีคุณภาพชีวิตและมีกำลังซื้อที่ดีขึ้น ทำให้หันมาเลือกซื้อสินค้าฟุ่มเฟื่อยกันมากขึ้น อย่างของเล่นจำพวกโมเดล ตัวต่อ ผู้บริโภคชาวจีน โดยเฉพาะวัยรุ่น-วันกลางคนให้ความสนใจหันมาสะสมกันมากขึ้น โดยบางรายนิยมสะสมให้ครบทุก คอลเล็กชัน หรือบางรายสะสมคอลเล็กชันละตัว ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน อย่างไรก็ดี ในตลาดจีนมีแบรนด์ของเล่นที่กำลังโด่งดัง 5 อันดับแรก ได้แก่ Pop Mart, Finding Unicorn, TNT Space, 52TOYS และ TopToy เป็นต้น
MINISO Group เผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 MINISO Group มีรายได้จากการดำเนินธุรกิจรวมทั้งสิ้น 7,760 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 และแบรนด์ในเครือของ MINISO Group อย่าง “Top Toy” ก็เป็นอีก 1 แบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งในตลาดจีนและต่างประเทศ มี การเปิดร้านในย่านการค้าและการเปิดตัวสินค้าคอลเล็กชันใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการเติบโตเกินความคาดหมาย รายได้ของ “Top Toy” ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 Top Toy มีรายได้สูงถึง 430 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 128.72 ได้รับกำไรดีต่อเนื่อง 3 ไตรมาส จำนวนร้าน “Top Toy” ก็เพิ่มขึ้นเป็น 195 ร้าน ถือเป็นการเปิดร้านในช่วงครึ่งปีแรกของปีที่เพิ่มขึ้นมากที่สุด เริ่มจากการเปิดร้านในเมืองเซี่ยงไฮ้ มายังหนานจิง และอู่ฮั่น และเริ่มขยายสาขาสู่เมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศจีน ทำให้ Top Toy เป็นธุรกิจที่แข็งแกร่ง และสร้างความนิยมด้านวัฒนธรรมของเล่นที่ทันสมัยในยุคปัจจุบัน
ในขณะเดียวกัน MINOSO วางแผนมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างการรับรู้ของแบรนด์ Top Toy และสร้างเครือข่ายร้านค้า/ขยายสาขาในเมืองระดับ 1 และระดับ 2 รวมถึงเมืองระดับต่ำในจีนด้วย
ในปี 2566 แบรนด์ Top Toy มีสินค้ารวมทั้งสิ้น 9,800 SKU ครอบคลุมสินค้า กล่องสุ่ม ตัวต่อ โมเดลประกอบ ตุ๊กตาปั้น และของเล่นยอดนิยมอื่น ๆ ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 ยอดจำหน่ายสินค้า Top Toy อยู่ที่ 722 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 73.3 ทั้งนี้ ราคาสินค้าของ Top Toy ปรับสูงขึ้นเนื่องมาจาก ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทรัพย์สินทางปัญญาที่เพิ่มขึ้น การอัพเกรดแบรนด์ การเปิดร้านใหม่ในตลาดต่างประเทศ และค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายและการโฆษณาที่เพิ่มขึ้น จากข้อมูลพบว่า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 Miniso ได้สร้างความสัมพันธ์แบรนด์ร่วมกับผู้ได้รับใบอนุญาต IP (ทรัพย์สินทางปัญญา) 80 ราย ในขณะเดียวกันก็ได้ร่วมกันพัฒนากับศิลปินอิสระในการพัฒนา IP
จากการสำรวจพบว่า สินค้าของ Top Toy มีความโดดเด่นด้านกล่องสุ่ม ตัวต่อและของเล่นที่ทันสมัย ในปี 2566 มียอดจำหน่ายกล่องสุ่มมากกว่า 20 ล้านกล่อง โดยเฉพาะคอลเล็กชัน Saniro และ Lucky Cat และตัวต่อคอลเล็กชัน ime and Space Yuanlong และ Disney เป็นต้น
ในปี 2023 TOP TOY จะร่วมมือกับซีรีส์ IP ยอดนิยมหรือคลาสสิก เช่น “Egg Party”, “Love and the Producer”, Sanrio, “Pig Man”, EMMA, Disney, “Honor of Kings”, Little Parrot BEBE, เป็นต้น สินค้าครอบคลุมหลายประเภท เช่น กล่องสุ่ม ฟิกเกอร์ บล็อคตัวต่อ และตุ๊กตาผ้าฝ้าย เป็นต้น เช่น ได้ร่วมมือกับแบรนด์ของเล่นสุดอินเทรนด์ TNT SPACE ในร้านค้าธีมออฟไลน์ สินค้าและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องเรียกได้ว่าไม่มีที่สิ้นสุดอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ในปี 2566 ร้าน Top Toy มีผู้เข้าชมร้านค้าเกือบ 120 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 70 สินค้าของ Top Toy ขายดีในช่วงตรุษจีน หรือเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
ตามรายงานของสื่อ ร้าน Top Toy ภายใต้ MINISO Group ได้เปิดร้านอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างการเตรียมเปิดร้าน Top Toy ในประเทศมาเลเซียอีกด้วย ในบรรดาตลาดต่างประเทศ MINISO Group ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2567 MINOSO Group ได้เปิดตัวร้านค้า MINISO ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย มียอดจำหน่ายภายในวันเดียวมากกว่า 1,180,000 หยวน ซึ่งถือว่าสร้างสถิติยอดขายในวันเดียวได้มากที่สุดในบรรดาร้าน MINISO ทั่วโลก สำหรับแบรนด์ Top Toy เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ผู้บริโภคในจีน เนื่องจากเป็นแบรนด์ลูกของ MINISO Group ตามรายงาน การเปิดร้าน TOP TOY แห่งแรกในประเทศไทยในปีนี้ ยังหมายความว่า MINISO Group มีแผนที่จะครองส่วนแบ่งตลาดของเล่น อินเทรนด์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป
ความคิดเห็น สคต.
ปัจจุบันของเล่นกล่องสุ่มเป็นเทรนด์ของเล่นสะสมยอดฮิตที่กำลังบูมอย่างมากในจีน ทำให้ราคาสินค้าคอลเล็กชันที่หายากปรับราคาสูงขึ้น ของเล่นกล่องสุ่มหลายแบรนด์ที่เมื่อถึงช่วงเปิดตัวก็ขายหมดทันที อีกทั้งมีการเปิดตัวคอลเล็กชันตามฤดูกาลหรือเทศกาลอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ทำให้เป็นโอกาสของสินค้าไทยในหมวดหมู่ของเล่นสะสมหรือกล่องสุ่ม ซึ่งไทยสามารถสร้างตัวการ์ตูนที่แสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย เช่น ช้าง ยักษ์ อาหารไทย หรือหมูเด้ง ซึ่งเรียกว่าเป็นซูเปอร์สตาร์ฮิปโปแคระที่กำลังโด่งดังทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะผู้บริโภคชาวจีนที่เรียนภาษาไทย และชื่นชอบในวัฒนธรรมไทยก็มี ความต้องการสะสมของเล่นที่แสดงถึงความเป็นไทยเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการควรศึกษาตลาด พฤติกรรมและความต้องการบริโภคของชาวจีน รวมถึงสามารถเข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่าง ๆ ในจีน เพื่อทดลองตลาดก่อน
*****************************************
แหล่งที่มา: https://cj.sina.com.cn/articles/view/2625204852/9c79727400101cumu
https://baijiahao.baidu.com/s?id=1793377599347821215&wfr=spider&for=pc
https://baijiahao.baidu.com/s?id=1808868745971787846&wfr=spider&for=pc
https://baijiahao.baidu.com/s?id=1817068902864609312&wfr=spider&for=pc
https://news.qq.com/rain/a/20241021A085SH00
สคต.คุนหมิง