10 เทรนด์อาหารและเครื่องดื่มโลก ปี 2025 – โลกแห่งอาหารและเครื่องดื่มที่เปลี่ยนแปลงไป

สํานักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต

อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วยปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ความตระหนักด้านสุขภาพที่เพิ่มสูงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับอาหารและเครื่องดื่มมากกว่าแค่การอิ่มท้อง พวกเขาต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และผลิตขึ้นอย่างยั่งยืน ความต้องการเหล่านี้ส่งผลให้เกิดเทรนด์ใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่น่าจับตามอง

Innova Market Insights หนึ่งในผู้นำด้านการวิจัยตลาดอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก ได้ทำการศึกษาและคาดการณ์เทรนด์อาหารและเครื่องดื่มที่น่าจับตามองสำหรับปี 2025 ดังนี้

เทรนด์ 1: A new chapter in raw material quality (Ingredients and Beyond)

คุณภาพของวัตถุดิบกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้ออาหารและเครื่องดื่มของผู้บริโภคยุคใหม่ Ms. Lu Ann Williams ผู้อำนวยการ Global Insights ของ Innova Market Insights เผยข้อมูลจากการสำรวจพบว่า ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความสด คุณค่าทางโภชนาการ ประโยชน์ต่อสุขภาพ และแหล่งที่มาของส่วนผสมเป็นอย่างมาก

ในอดีต ตลาดอาหารและเครื่องดื่มมักเน้นที่ปริมาณและราคา แต่ปัจจุบันผู้บริโภคต้องการมากกว่านั้น พวกเขาต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์และแตกต่างจากคู่แข่ง ซึ่งส่งผลให้แบรนด์ต้องปรับตัวและให้ความสำคัญกับการคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นจากความตระหนักของผู้บริโภคเกี่ยวกับสุขภาพและความปลอดภัยของอาหารมากขึ้น ผู้คนต้องการทราบที่มาของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต และมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่บริโภคเข้าไปนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

สำหรับธุรกิจแล้ว การให้ความสำคัญกับคุณภาพวัตถุดิบเป็นโอกาสในการสร้างความแตกต่างและสร้างความภักดีต่อแบรนด์ ผู้บริโภคที่พอใจกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์จะกลับมาซื้อซ้ำและบอกต่อให้กับคนอื่น ๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อยอดขายและภาพลักษณ์ของแบรนด์ในระยะยาว

เทรนด์ 2: Health – Precision Wellness

เทรนด์ Precision Health หรือ โภชนาการเฉพาะบุคคล กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจกับการปรับอาหารให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของตนเองมากขึ้น จากการสำรวจของ Innova พบว่าผู้บริโภคกว่าร้อยละ 60 ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ และมากกว่าครึ่งหนึ่งวางแผนการบริโภคอาหารเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของตนเอง

Innova ระบุว่า โปรแกรมโภชนาการส่วนบุคคลนั้นมีประสิทธิภาพอย่างมากในการช่วยให้ผู้บริโภคบรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมน้ำหนัก การปรับปรุงสุขภาพ หรือการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยการปรับอาหารให้เหมาะสมกับช่วงอายุ ไลฟ์สไตล์ และความต้องการด้านสุขภาพที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล

ปัญหาสุขภาพที่ผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญมากที่สุดคือ การควบคุมน้ำหนัก ผู้บริโภคจึงหันมาใส่ใจในการออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร และการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายในการควบคุมน้ำหนัก

เทรนด์ 3: Wildly Inventive

ในยุคที่ผู้บริโภคมีความต้องการที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ความคิดสร้างสรรค์และความสนุกสนาน กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อาหารที่โดดเด่นและน่าสนใจ จากการวิจัยของ Innova พบว่าผู้บริโภคร้อยละ 43 กำลังมองหา “นวัตกรรมสุดล้ำ” ที่สามารถมอบประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นให้กับพวกเขาได้ ผู้บริโภคยุคใหม่มีความกระตือรือร้นที่จะลองรสชาติใหม่ ๆ ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผสมผสานรสชาติที่แปลกใหม่และน่าสนใจ การร่วมมือกันระหว่างแบรนด์ต่าง ๆ การนำเสนอผลิตภัณฑ์รุ่นลิมิเต็ด และการสร้างสรรค์เมนูอาหารฟิวชัน ได้กลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยผู้บริโภคกว่าครึ่งหนึ่งทั่วโลกเปิดใจที่จะลองรสชาติใหม่ ๆ และร้อยละ 37 ติดตามเทรนด์อาหารและเครื่องดื่มบนโซเชียลมีเดีย

Innova ชี้ให้เห็นว่า ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง แบรนด์จำเป็นต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค การสร้างองค์ประกอบ “ว้าว” ที่ไม่เหมือนใคร จะช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างประสบการณ์ที่สนุกสนานและน่าจดจำให้กับผู้บริโภค และทำให้แบรนด์โดดเด่นเหนือคู่แข่งได้

เทรนด์ 4: Gut Health – Flourish from Within

หลังจากการระบาดใหญ่ทั่วโลก ผู้คนให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สุขภาพของลำไส้ กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางเทรนด์ “การฟื้นฟูลำไส้” ซึ่งเป็นหนึ่งในเทรนด์อาหารที่สำคัญของ Innova สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการดูแลระบบย่อยอาหารให้แข็งแรง ไฟเบอร์และโปรไบโอติกส์ คือสองส่วนผสมหลักที่ขับเคลื่อนเทรนด์นี้ โดยผู้บริโภคจำนวนมากหันมาบริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์สูงและโปรไบโอติกส์เพื่อปรับปรุงสุขภาพลำไส้และสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ หรือที่เรียกว่า ไมโครไบโอม

จากข้อมูลของ Innova พบว่าผลิตภัณฑ์ที่มีคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับสุขภาพของระบบย่อยอาหารมีอัตราการเติบโตสูงถึงร้อยละ 8 ต่อปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความต้องการผลิตภัณฑ์ประเภทนี้อย่างต่อเนื่อง

เทรนด์ 5: Plant-based – Rethinking Plants

ตลาดผลิตภัณฑ์จากพืช (plant-based) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีสูงถึงร้อยละ 23 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตามข้อมูลของ Innova นอกจากการมุ่งเน้นไปที่การพัฒนารสชาติและเนื้อสัมผัสให้ใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์จากสัตว์แล้ว บริษัทต่าง ๆ ยังให้ความสำคัญกับการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพของผู้บริโภคอีกด้วย

เทรนด์ 6: Sustainability – Climate Adaption

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของราคาอาหารและความไม่แน่นอนของผลผลิต ผู้บริโภคทั่วโลกเกือบครึ่งหนึ่งมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้ ทำให้เกิดแนวคิด “Climate Resilience” หรือ “ความสามารถในการปรับตัวต่อสภาพอากาศ” ขึ้นมา แนวคิดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของอุตสาหกรรมในการปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป หนึ่งในแนวทางที่น่าสนใจคือการพัฒนาทางเลือกที่ยืดหยุ่นและทนทานต่อสภาพอากาศที่แปรปรวนมากขึ้น เช่น การค้นหาวัตถุดิบทางเลือกสำหรับพืชผลที่ไวต่อสภาพอากาศ เช่น โกโก้ กาแฟ และน้ำมันมะกอก นอกจากนี้ ความท้าทายด้านสภาพอากาศยังเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้อุตสาหกรรมอาหารได้พัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น

เทรนด์ 7: Beauty Food – Taste the Glow

ความนิยมของอุตสาหกรรมเครื่องสำอางที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดแนวคิด “อาหารเพื่อความงาม” ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการดูแลความงามจากภายในสู่ภายนอก จากข้อมูลของ Innova พบว่าผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีสรรพคุณด้านความงามมีอัตราการเติบโตสูงถึงร้อยละ 11 ในช่วงปีที่ผ่านมา

ผู้บริโภครุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์และภาพลักษณ์เป็นอย่างมาก จึงหันมาสนใจผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเสริมความงาม เช่น คอลลาเจน วิตามิน โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงวัยกลางคนขึ้นไปที่ต้องการฟื้นฟูผิวและชะลอวัย นอกจากนี้ การสำรวจยังพบว่า 1 ใน 5 ของผู้บริโภคทั่วโลกเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนช่วยในการปรับปรุงรูปลักษณ์หรือความงาม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของตลาด “อาหารบำรุงความงาม” โดยเฉพาะในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผิวหน้า ผม และผิวกาย

เทรนด์ 8: Food Culture – Tradition Reinvented

เทรนด์ Food Inherits New Life สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของผู้บริโภคยุคใหม่ที่หันมาให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์และภาคภูมิใจในมรดกทางอาหารของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นสูตรอาหารโบราณ รสชาติท้องถิ่น หรือวัตถุดิบดั้งเดิม ผู้บริโภคทั่วโลกกว่าร้อยละ 65 ต้องการเห็นผลิตภัณฑ์อาหารที่มีความเป็นเอกลักษณ์และสะท้อนถึงวัฒนธรรมของท้องถิ่นมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างทางวัฒนธรรมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นส่วนผสม เครื่องปรุงรส หรือแม้แต่การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สะท้อนถึงความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละภูมิภาค ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคมองหาประสบการณ์ในการบริโภคอาหารที่เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ในอนาคต เราจะได้เห็นผลิตภัณฑ์อาหารที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งนำเสนอสูตรอาหารแบบดั้งเดิมและคลาสสิก พร้อมทั้งผสมผสานกับนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการทั้งรสชาติที่คุ้นเคยและประสบการณ์ใหม่

เทรนด์ 9: Mood Food – Mindful Choices

ผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตมากขึ้นถึงร้อยละ 36 โดยมองหาอาหารและเครื่องดื่มที่ช่วยควบคุมอารมณ์และส่งเสริมการนอนหลับ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจสำหรับบริษัทต่าง ๆ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการนี้ Innova ชี้ให้เห็นว่าวิตามิน B6, B9, B12 เป็นหนึ่งในส่วนผสมสำคัญที่ได้รับความสนใจสูงสุดสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต แสดงให้เห็นว่าตลาดอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจิตกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และแบรนด์สามารถใช้โอกาสนี้ในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและสร้างความแตกต่างในตลาดได้

เทรนด์ 10: AI – Bytes to Bites

ปัจจุบัน เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอาหารอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเราอาจไม่สังเกตเห็นในชีวิตประจำวัน แต่ AI ได้แทรกซึมเข้าไปในทุกขั้นตอนของการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การออกแบบฉลาก ไปจนถึงการเลือกวัตถุดิบและการควบคุมคุณภาพ ซึ่งบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังตื่นตัวที่จะนำ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความปลอดภัย สุขภาพ รสชาติ หรือแม้แต่ความยั่งยืน ในอนาคตอันใกล้ เราจะได้เห็นผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลายและตอบโจทย์เฉพาะบุคคลมากขึ้น เนื่องจาก AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและพัฒนาสูตรอาหารที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการของแต่ละคน นอกจากนี้ AI ยังช่วยให้เราค้นพบส่วนผสมใหม่ ๆ และวิธีการผลิตอาหารและเครื่องดื่มที่ยั่งยืนมากขึ้นได้อีกด้วย

****************************************************

ที่มา: Fi Europe, Innova Market Insights