ค่าใช้จ่ายของชาวอเมริกันในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ปี 2567

ข้อมูลจากเว็บไซต์ Gallup คาดการณ์ว่า ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสของปี 2567
ชาวอเมริกันใช้จ่ายสำหรับของขวัญ การเดินทาง และกิจกรรมบันเทิงอยู่ที่ประมาณ 1,012 เหรียญสหรัฐต่อคน ซึ่งมากกว่าปี 2566 ที่มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณคนละ 975 เหรียญสหรัฐและปี 2565 ที่มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 867 เหรียญสหรัฐ ตามลำดับ หรือสามารถเทียบการใช้จ่ายนี้เท่ากับเงินเดือนประมาณ 1 สัปดาห์ชาวอเมริกันโดยเฉลี่ย

การใช้จ่ายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสชาวอเมริกันยังคงเพิ่มขึ้นทุกปี สวนทางกับ
ภาวะเงินเฟ้อ และผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ได้รับอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า
ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับเทศกาลคริสต์มาสเป็นอย่างมาก

ค่าใช้จ่ายของชาวอเมริกันในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ปี 2567
กราฟข้างต้นจากเว็บไซต์ demandsage แสดงถึงการคาดการณ์การค่าใช้จ่ายของผู้ซื้อในช่วงคริสต์มาสในปี 2567 โดยคาดว่า  ร้อยละ 35 จะใช้จ่ายมากกว่า 500 เหรียญสหรัฐขึ้นไป ร้อยละ 16 จะใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 200 – 299 เหรียญสหรัฐ ร้อยละ 14 จะใช้จ่ายเป็นเงิน 300 – 399 เหรียญสหรัฐ ร้อยละ 13 จะใช้จ่ายจำนวน 400 – 499  เหรียญสหรัฐ ร้อยละ 11 จะใช้จ่ายจำนวน 100 – 199 เหรียญสหรัฐ ร้อยละ 6 จะใช้จ่ายเป็นเงิน 50 – 99 เหรียญสหรัฐ และร้อยละ 4 จะใช้จ่ายไม่เกิน 50 เหรียญสหรัฐ ตามลำดับค่าใช้จ่ายของชาวอเมริกันในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ปี 2567

คาดการณ์การใช้จ่ายในช่วงคริสต์มาสของชาวอเมริกันในปีนี้ สามารถแบ่งได้ตามกลุ่มอายุ ดังนี้
กลุ่มอายุ 18-24 ปี มีการใช้จ่ายอยู่ที่ 649.81 เหรียญสหรัฐ
กลุ่มอายุ 25-34 ปี มีการใช้จ่ายอยู่ที่ 888.98 เหรียญสหรัฐ
กลุ่มอายุ 35-44 ปี มีการใช้จ่ายอยู่ที่ 1,083.74 เหรียญสหรัฐ
กลุ่มอายุ 45-54 ปี มีการใช้จ่ายอยู่ที่ 1,161.98 เหรียญสหรัฐ
กลุ่มอายุ  55-64 ปี มีการใช้จ่ายอยู่ที่ 999.22 เหรียญสหรัฐ และกลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป มีการใช้จ่ายอยู่ที่ 1,077.41 เหรียญสหรัฐ

ในภาพรวม ผู้บริโภคชาวอเมริกันนิยมซื้อของขวัญให้สมาชิกในครอบครัวมากที่สุด อยู่ที่ร้อยละ 95-97 สำหรับการซื้อของขวัญคริสต์มาสให้เพื่อนมีแนวโน้มลดลงเมื่อมีอายุเพิ่มขึ้น โดยผู้บริโภคกลุ่มช่วงอายุ 18-24 มีแนวโน้มที่จะซื้อของขวัญคริสต์มาสให้เพื่อน อยู่ที่ร้อยละ 80  กลุ่มอายุ 45-54  แนวโน้มที่จะซื้อของขวัญคริสต์มาสให้เพื่อน ร้อยละ 71 และในกลุ่มช่วงอายุ 65 ปีขึ้นไป อยู่ที่ร้อยละ 56  ในขณะที่ แนวโน้มการซื้อของขวัญคริสต์มาสให้เพื่อนร่วมงาน พบว่า  ผู้บริโภคกลุ่มช่วงอายุ ที่มีแนวโน้มการซื้อของขวัญคริสต์มาสให้เพื่อนร่วมงานมากที่สุด ได้แก่ ช่วงอายุ 35-44 ปี อยู่ที่ร้อยละ 46 ช่วงอายุ 25-34 อยู่ที่ร้อยละ 42 กลุ่มช่วงอายุ 45-54 ปี ที่ร้อยละ 38 กลุ่มอายุ 18-24 ปี อยู่ที่ร้อยละ 37 ช่วงอายุ 55-64 ปี ร้อยละ 22 และกลุ่มช่วงอายุ 65 ปี ขึ้นไป อยู่ที่ร้อยละ 6 ตามลำดับ

สำหรับกลุ่มอายุที่นิยมซื้อการ์ดอวยพรให้ในวันคริสต์มาสมากที่สุด คือ กลุ่มช่วงอายุ 65 ปีขึ้นไป อยู่ที่ ร้อยละ 75 และกลุ่มช่วงอายุ 35-44 ปี อยู่ที่ร้อยละ 70 ในขณะที่ผู้บริโภคกลุ่มอายุอายุ 18-24 ปี มีแนวโน้มที่จะซื้อการ์ดอวยพรน้อยที่สุด  เพียงร้อยละ 57
ค่าใช้จ่ายของชาวอเมริกันในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ปี 2567

จากผลสำรวจของ เว็บไซต์ Exploding Topics แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคชาวอเมริกันเพศชาย และเพศหญิงในช่วงเทศกาลคริสต์มาส โดยสินค้าที่เพศชาย และเพศหญิงให้ความสำคัญกับการซื้อของขวัญให้ครอบครัวมากที่สุดเท่ากัน อยู่ที่ร้อยละ 96 สำหรับของขวัญที่ชาวอเมริกันเพศหญิงให้ความสำคัญมากกว่าเพศชาย ได้แก่ ของขวัญสำหรับเพื่อน ของขวัญตกแต่ง และอาหารและขนม

ส่วนของขวัญที่ชาวอเมริกันเพศชายให้ความสำคัญมากกว่าเพศหญิง ได้แก่ ของขวัญสำหรับเพื่อนร่วมงาน การ์ดอวยพร ดอกไม้ ของขวัญอื่นๆ และสินค้าหรือบริการที่ไม่ใช่ของขวัญ

อย่างไรก็ตาม การซื้อของขวัญคริสต์มาสนั้นขึ้นอยู่กับอายุผู้ที่ได้รับของขวัญเป็นสำคัญ เนื่องจากชาวอเมริกันในแต่ละช่วงอายุมีความสนใจ และความชอบที่แตกต่างกัน อาทิ กลุ่มอายุ 18-24 ปี มีความสนใจในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป มีความสนใจในเสื้อผ้า กลุ่มอายุ 18-24 ปี กลุ่มอายุ 25-34 ปี และกลุ่มอายุ 35-44 ปีนั้นมีความสนใจในอุปกรณ์กีฬา เป็นต้น

ค่าใช้จ่ายของชาวอเมริกันในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ปี 2567

ปัจจุบัน ผู้บริโภคชาวอเมริกันนิยมซื้อสินค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์ โดยซื้อผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ สามารถแบ่งตามรุ่นได้ ดังนี้ Millennials ร้อยละ 62 Gen Z ร้อยละ 58 Gen X ร้อยละ 47  และ Baby Boomers ร้อยละ 30 ตามลำดับ
ทั้งนี้ ผู้บริโภควางแผนซื้อของขวัญวันคริสต์มาสในเดือนตุลาคม ร้อยละ 20 เดือนพฤศจิกายน ร้อยละ 45 และเดือนธันวาคม ร้อยละ 34 โดยปัจจัยที่มีความสำคัญในการตัดสินใจซื้อสินค้าเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ สินค้าลดราคา ร้อยละ 64 คุณภาพของสินค้า ร้อยละ 58 ความหลากหลายของสินค้า ร้อยละ 57 โปรโมชั่นจัดส่ง ร้อยละ 47 ความสะดวกในการเดินทาง ร้อยละ 41 สินค้าราคาถูก ร้อยละ 40 ความสะดวกของการใช้งานบนเว็บไซต์ หรือบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ ร้อยะ 33 นโยบายการคืนสินค้า ร้อยละ 29 การบริการลูกค้า ร้อยละ 24 บริการการจองสินค้า ร้อยละ 4 และอื่นๆ ร้อยละ 1 เป็นต้น

 

ความคิดเห็นของสคต.นิวยอร์ก

เทศกาลคริสต์มาสเป็นเทศกาลสำคัญในประเทศสหรัฐฯ การซื้อของในช่วงเทศกาลชาวอเมริกันนั้นสิ่งที่เป็นผู้บริโภคชาวอเมริกันให้ความสำคัญมาเป็นเวลานาน ในยุคปัจจุบัน ผู้บริโภคชาวอเมริกันจำนวนมากหันมาเลือกซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงการซื้อของได้อย่างชัดเจน
อีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญ คือ ผู้บริโภคชาวอเมริกันให้ความสำคัญกับส่วนลด และโปรโมชั่น
ของสินค้าเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้ตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น

สำหรับผู้ที่สนใจจำหน่ายสินค้าในตลาดสหรัฐฯ สิ่งสำคัญ คือ การปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้ม และเทรนใหม่ๆอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาสินค้า เทรนสินค้า และความแตกต่างของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เป็นต้น หากผู้ประกอบการทำการผลิตสินค้าที่ตรงกับความต้องการในตลาด จำหน่ายในราคาที่เหมาะสม รวมถึงวางแผนการนำเข้าสู่ตลาดอย่างมีศักยภาพ จะส่งผลให้สินค้าไทยจะสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมาย และตลาดในสหรัฐฯได้อย่างแน่นอน

ที่มา: www.explodingtopics.com / https://www.gallup.com/ / www.demandsage.com

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก

thThai