ฮ่องกงประกาศปรับราคาสาธารณูปโภค-บริการ พร้อมวางแผนรองรับผลกระทบต่อประชาชน

ชาวฮ่องกงเตรียมเผชิญค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทั้งค่าสาธารณูปโภค ค่าอาหาร ค่าเดินทาง และค่าเช่าที่อยู่อาศัย เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมนี้ โดยสื่อ South China Morning Post เผยรายการค่าใช้จ่ายที่เตรียมปรับเพิ่มในปี 2568 ดังนี้

 

  1. ค่าไฟฟ้าปรับขึ้นเกือบ 1%

บริษัท CLP Power ซึ่งให้บริการไฟฟ้าในเขต Kowloon, New Territories และเกาะ Lantau จะปรับขึ้นค่าไฟฟ้า 0.98% ต่อหน่วย ขณะเดียวกัน ลูกค้าของบริษัท HK Electric ซึ่งให้บริการในเกาะฮ่องกงและเกาะใกล้เคียง จะต้องจ่ายค่าไฟเพิ่มขึ้น 0.9% โดยการปรับอัตราใหม่นี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568

CLP Power ระบุว่า ต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้นจากราคาวัสดุและสถานการณ์ตลาดแรงงานที่ตึงตัว ส่งผลให้จำเป็นต้องปรับราคา อย่างไรก็ตาม บริษัทตระหนักถึงความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่บริษัท HK Electric คาดการณ์ว่า ภายหลังการปรับขึ้นอัตราค่าไฟฟ้า ผู้ใช้ไฟฟ้ากว่า 80% จะเสียค่าไฟเพิ่มขึ้นไม่เกิน 10 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 1.30 ดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนมกราคมนี้

 

 

  1. ผู้ประกอบการรถประจำทาง 3 ราย เตรียมปรับขึ้นค่าโดยสารสูงสุด 7.5%

ผู้ให้บริการรถบัส 3 ราย ได้แก่ Citybus, New Lantau Bus และ KMB จะปรับราคาค่าโดยสารเพิ่มขึ้น โดย Citybus จะปรับขึ้น 7.5%, New Lantau Bus ปรับ 6.5% และ KMB ปรับ 4.3% โดยอัตราใหม่จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2568

Angela Lee Chung-yan, Commissioner for Transport เปิดเผยว่า การขึ้นราคาดังกล่าวได้รับการพิจารณาจากรัฐบาลโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชน และความมั่นคงทางการเงินของบริษัท

หลังการปรับขึ้น ผู้โดยสารกว่า 95% จะเสียค่าโดยสารเพิ่มไม่เกิน 1 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อเที่ยว ขณะที่ 80% จะจ่ายเพิ่มไม่เกิน 50 เซ็นต์ต่อเที่ยว อย่างไรก็ตาม สำหรับเส้นทางบางสาย เช่น รถโดยสารสนามบินและ North Lantau ของ Citybus จะยังคงอัตราค่าโดยสารเดิม

การปรับขึ้นในเขตเมืองและนอกเขตเมือง จะเพิ่มเฉลี่ย 60 เซ็นต์ จากอัตราปัจจุบันที่ 8.10 ดอลลาร์ฮ่องกง     ต่อเที่ยว ด้าน KMB แจ้งว่า ผู้โดยสารจะต้องจ่ายเพิ่ม 30 เซ็นต์ต่อเที่ยว และตั๋วโดยสารรายเดือนจะปรับจาก 800 เป็น 834 ดอลลาร์ฮ่องกง

 

  1. ราคาแก๊ส LPG สำหรับรถยนต์ปรับขึ้น 1 เซ็นต์ต่อลิตร

ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม สถานีบริการแก๊ส LPG สำหรับรถยนต์ 12 แห่ง จะปรับราคาใหม่เป็น 3.75–4.64 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อลิตร เพิ่มขึ้น 1 เซ็นต์ โดยราคาที่ปรับขึ้นนี้จะมีผลถึงวันที่ 31 มกราคม

โฆษกประจำหน่วยงานบริการด้านระบบไฟฟ้าและเครื่องกล (Electrical and Mechanical Services Department) ระบุว่า การปรับราคาครั้งนี้เป็นไปตามสูตรคำนวณที่กำหนดไว้ในสัญญา โดยมีสถานีบริการที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ สถานีบนถนน Marsh ในเขต Wanchai, ถนน Wai Lok ในเขต Kwun Tong และถนน Ngo Cheung ในเขต West Kowloon

 

  1. แมคโดนัลด์ปรับขึ้นราคาเมนูบางรายการ

แมคโดนัลด์ประกาศปรับขึ้นราคาเซตเมนูยอดนิยมบางรายการระหว่าง 50 เซ็นต์ถึง 1 ดอลลาร์ฮ่องกง โดยตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม เมนูไส้กรอกแมคมัฟฟิน (McMuffin) จะปรับจาก 29 เป็น 30 ดอลลาร์ฮ่องกง ขณะที่เซตนักเก็ตไก่ (McNuggets) จะยังคงราคาเดิมที่ 29 ดอลลาร์ฮ่องกง การปรับราคาครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 4 ปี หลังจากที่แมคโดนัลด์เคยปรับราคาสินค้าบางรายการในปี 2022 และ 2023

 

  1. ค่าเช่าที่อยู่อาศัยของรัฐเพิ่มขึ้น 10%

การเคหะของฮ่องกงประกาศปรับขึ้นค่าเช่าที่อยู่อาศัยของรัฐ 10% ซึ่งจะมีผลตั้งแต่เดือนมกราคม ค่าเช่าใหม่จะเพิ่มขึ้นระหว่าง 49–572 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อเดือน โดยประมาณ 60% ของผู้เช่าจะเสียค่าเช่าเพิ่มไม่เกิน 250 ดอลลาร์ฮ่องกง Winnie Ho Wing-yin, housing minister คาดการณ์ว่าค่าเช่าเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้น 230 ดอลลาร์ฮ่องกง ขณะที่รายงานบางฉบับระบุว่าครอบครัวที่อาศัยในแฟลตสำหรับ 4–5 คน จะต้องจ่ายเพิ่ม 300–400 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อเดือน

ทั้งนี้ Rosanna Law Shuk-pui, the housing director เปิดเผยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ว่า ค่าเช่าเฉลี่ยของแฟลตเช่าของรัฐอยู่ที่ประมาณ 2,200 ดอลลาร์ฮ่องกง และข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2567 ระบุว่า มีครัวเรือนราว 807,800 ครัวเรือนที่อาศัยอยู่ในแฟลตเช่าของรัฐ โดยกว่า 80% ของผู้เช่าจ่ายค่าเช่าในอัตราปกติ

 

ความคิดเห็นของ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง

 

จากการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องของสินค้าและบริการพื้นฐาน และการที่ชาวฮ่องกงนิยมเดินทางไปจีนในช่วงวันหยุดเพื่อจับจ่ายใช้สอย สะท้อนให้เห็นว่าชาวฮ่องกงกำลังเผชิญกับสภาวะค่าครองชีพสูง แต่ต้องการบริโภคสินค้าและบริการที่มีมาตรฐานดีแต่คุ้มค่าคุ้มราคา ดังนั้นผู้ประกอบการไทยที่ต้องการส่งสินค้าเพื่อจำหน่ายในฮ่องกงจำเป็นต้องวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนว่าต้องการเจาะตลาดผู้บริโภครายได้สูงที่พร้อมเลือกซื้อสินค้าที่คุณภาพดีเยี่ยมและราคาสูง หรือกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปที่อาจพิจารณาทั้งมาตรฐาน คุณภาพ และราคาที่เหมาะสม เนื่องจากฮ่องกงไม่มีภาษีนำเข้าสินค้าทั่วไป จึงต้องแข่งขันกันสินค้าจากทั่วโลก แต่ฮ่องกงก็ยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพและโอกาสทางธุรกิจเพราะมีบริษัทผู้ค้าและผู้จัดจำหน่ายจำนวนมาก สินค้าที่ได้รับความนิยมในฮ่องกงมีโอกาสสูงที่จะสามารถต่อยอดจำหน่ายในจีนซึ่งเป็นตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ต่อไป

 

 

แหล่งข้อมูล: https://www.scmp.com/news/hong-kong/hong-kong-economy/article/3292926/cost-living-hong-kong-what-youll-have-pay-more-2025?module=perpetual_scroll_0&pgtype=article

thThai