บริษัท dm ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านเพื่อสุขภาพและความงาม (Drugstore) ที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี กำลังเตรียมตัวเข้าสู่ตลาดร้านขายยาอย่างเป็นทางการในปีหน้า โดยตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป dm วางแผนจะจัดส่งยากลุ่มที่อนุญาตให้จำหน่ายหน้าร้านได้ โดยไม่ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ ผ่านบริษัทในสาธารณรัฐเช็กไปยังเยอรมนี ซึ่งหนังสือพิมพ์ Handelsblatt ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวจากผู้เข้าร่วมตลาดที่มีส่วนร่วมในโครงการหลายท่าน เมื่อนาย Sebastian Bayer กรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด และการจัดซื้อจัดจ้างของ dm ถูกถาม เขาเองก็ออกมากล่าวยืนยันกับ Handelsblatt ว่า dm ได้ก่อตั้งบริษัทในสาธารณรัฐเช็กขึ้นจริง เพื่อการนี้ ผู้เข้าร่วมตลาดจำนวนมากคาดการณ์ว่า dm น่าจะเริ่มต้นธุรกิจดังกล่าวในช่วงฤดูร้อน แต่ dm ก็ไม่ต้องการกำหนดวันที่เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ นาย Bayer เน้นย้ำว่า “เรากำลังวางแผนจะจำหน่ายเวชภัณฑ์ยา ประเภทที่ไม่ต้องมีใบสั่งโดยแพทย์ทางออนไลน์เท่านั้น” และเพียงเท่านี้ก็เป็นการเปิดตลาดใหม่มูลค่าพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กับบริษัทฯ ที่ผ่านมาในปี 2023 ในเยอรมนียาที่จำหน่ายได้ทั่วไปมียอดจำหน่ายอยู่ 6.2 พันล้านยูโร (โดยประมาณ) ซึ่งจากการคำนวณผ่านราคาขายปลีกของผู้ผลิตที่ตั้งไว้ ตามข้อมูลจากสถาบันวิจัยตลาด Iqvia จากเดือนมกราคม – กันยายน 2024 ตลาดดังกล่าวเติบโตขึ้น 5% ในระหว่างที่ยอดจำหน่ายสินค้าเวชภัณฑ์ยาผ่านช่องทางไปรษณีย์ที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์ รวมถึงเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแล้ว ตลาดดังกล่าวเติบโตเร็วขึ้นกว่าตลาดยาทั่วไป กล่าวคือ มีการเจริญเติบโตขึ้นเกือบ 10% หรือประมาณ 2.6 พันล้านยูโร นาย Bayer ชี้ให้เห็นว่า ตลาดด้านการดูแลสุขภาพในเยอรมนีกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ เขากล่าวว่า “คำถามสำหรับ dm คือ เราสามารถมีส่วนร่วมได้ขนาดไหนหากมีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ” dm ในฐานะ drugstore เรามีจินตนาการมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่เราจะสามารถนำเสนอในตลาดนี้ได้

 

ด้วยการเปิดร้านขายยาออนไลน์ของตัวเอง dm จะเข้ามาแข่งขันกับ (1) ร้านขายยาออฟไลน์ และ (2) ร้านขายยาทางไปรษณีย์ (ออนไลน์) ปัจจุบันจำนวนร้านขายยาออฟไลน์ลดลง จากเดิมกว่า 20,000 แห่ง ขณะนี้เหลือเพียง 17,300 แห่ง ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ร้านขายยาออฟไลน์ต้องสูญเสียส่วนแบ่งตลาดสำหรับยาที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์ให้กับร้านขายยาออนไลน์ไปถึง 1 ใน 4 ตามความคาดหวังของผู้เข้าร่วมแข่งขันตลาดสามารถแย่งส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจยาที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ (ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์) ได้ผ่านการลดราคาและการให้ส่วนลดเป็นหลัก สำหรับผู้บริโภคชาวเยอรมันปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการสั่งซื้อยาทางออนไลน์ก็คือ เรื่องราคาที่ต่ำกว่าร้านยาออฟไลน์ ตามมาด้วยปัจจัยด้านความพร้อมของผลิตภัณฑ์ในระดับสูง มีให้เลือกมากมาย และการจัดส่งที่รวดเร็ว ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นผ่านการศึกษาตลาดร้านขายยาในปีนี้โดยบริษัท Sempora บริษัทที่ปรึกษา ในการสัมภาษณ์นาย Christoph Werner เจ้าของ dm ได้วางตำแหน่งธุรกิจร้านค้าของเขาหลายครั้งไว้ว่า เป็นทางเลือกที่ดีนอกเหนือจากการซื้อยาในร้านขายยา เมื่อพิจารณาถึงการลดตัวลงของร้านขายยาออฟไลน์ เขาจึงเรียกร้องให้มีการปรับโครงสร้างด้านการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐานใหม่ นาย Werner กล่าวว่า Drugstore อาจเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาดังกล่าวในเยอรมนี เขามองว่ากุญแจในการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญก็คือ การเข้าสู่ระบบดิจิทัล ในหลายกรณีสิ่งที่จำเป็นสำหรับเภสัชกรที่มีใบอนุญาตทุกวันนี้ในอนาคตสามารถทำให้เป็นอัตโนมัติได้ ในเดือนกรกฎาคมปี 2024 เขากล่าวที่งาน Retail Innovation Days” ในเมือง Heilbronn นาย Werner กล่าวว่า Drugstore อาจเข้ามาให้บริการบางอย่างที่ขาดหายไป ในเวลานี้ dm กำลังอยู่ระหว่างการหารือกับ Start up ที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการให้คำแนะนำและบริการทางการแพทย์ผ่านแอพพลิเคชั่น โดยในอนาคตการแพทย์ทางไกลอาจเป็นพื้นที่ทางการตลาดที่ dm สามารถเข้ามาเกี่ยวข้องก็ได้ ในฐานะยักษ์ใหญ่ในวงการด้วยยอดขายสูงถึง 12.4 พันล้าน  ยูโร ทำให้ dm สามารถเจรจาเงื่อนไขกับผู้ผลิตสินค้าได้ดีกว่าร้านขายยารายย่อย โดย dm มีแนวโน้มที่จะได้เปรียบผู้ค้าปลีกออนไลน์ในประเทศรอยอื่น ๆ อย่างเช่น Medicines-per-Click, Apodiscounter หรือ Aponeo โดยผู้จัดการระดับสูงของบริษัทผู้ผลิตยารายหนึ่งกล่าวว่า “นี่เป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่ดีมากของ dm พูดตามตรงเลยรู้สึกประหลาดใจที่พวกเขาไม่ได้ดำเนินการดังกล่าวก่อนหน้านี้” ซึ่งเขาก็มองว่า ร้านขายยาออนไลน์ของ dm นั้นก็เป็นช่องทางการขายที่น่าสนใจของบริษัทเขาเช่นกัน

 

สำหรับนาย Werner นี่เป็นการขยายธุรกิจโมเดลขั้นพื้นฐานครั้งแรกนับตั้งแต่เขาเข้ามาบริหารบริษัทต่อจากพ่อของเขาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว โดยนาย Götz Werner ที่เสียชีวิตในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทในปี 1973 และเขาก็ขยายสาขาจนปัจจุบันมีมากกว่า 4,000 สาขาทั่วยุโรป ในปี 2011 บริษัท dm ทดลองขายสินค้าผ่าน Amazon เป็นครั้งแรก แต่เพียง 4 ปีต่อมา dm ก็ได้เปิดตัวร้านค้าออนไลน์แห่งแรกขึ้นมา ซึ่งเรียกได้ว่าช้ากว่าคู่แข่งอย่าง Rossmann อย่างเห็นได้ชัด วันนี้ dm ไม่เพียงแต่จัดส่งสินค้าที่สั่งออนไลน์เท่านั้น แต่ยังมีจุดรับสินค้าสำหรับสินค้าที่สั่งซื้อทางออนไลน์ในหลาย ๆ สาขาอีกด้วย ปัจจุบันการจำหน่ายยาออนไลน์ในเยอรมนีมีร้านขายยาออนไลน์จากเนเธอร์แลนด์ 2 บริษัท คือ Shop Apotheke และ Doc Morris เป็นผู้นำอยู่ ซึ่งทั้ง 2 บริษัทมียอดขายหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี แน่นอนที่พวกเขาจะจับตาดูคู่แข่งรายใหม่รายนี้อย่างใกล้ชิดเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า หาก dm ประสบความสำเร็จ dm ก็จะเพิ่มเป้าหมายอย่างสินค้ายาที่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์แน่นอน โดยตลาดดังกล่าวเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ปัจจุบันบริษัท Shop Apotheke และบริษัท Doc Morris ต้องการจะเป็นผู้นำตลาดดังกล่าวด้วยกระบวนการรับใบสั่งยาอิเล็กทรอนิกส์ผ่านช่องทางดิจิทัลนั้นเอง นอกจากนี้สถานที่ตั้งบริษัทของ dm ในสาธารณรัฐเช็กนอกเยอรมนี ทำให้ dm สามารถจัดส่งยาในฐานะบริษัทเงินทุนได้ เพราะในประเทศเยอรมนีมีกฎหมายบังคับว่า เภสัชกรที่ได้รับใบอนุญาตเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนี้ จนถึงขณะนี้เฉพาะยาที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์เท่านั้นที่สามารถส่งจากสาธารณรัฐเช็กไปยังเยอรมนีได้ นาย Bayer กรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาดฯ ของ dm จึงชี้แจงอย่างชัดเจนว่า “drugstore ไม่ใช่ร้านขายยา” ฉะนั้นร้านขายยาจะยังคงมีหน้าที่ที่สำคัญต่อไป ในระหว่างที่ปัจจุบันสามารถส่งยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์จากบริษัทในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Shop Apotheke และ Doc Morris ได้ อย่างไรก็ตามตามข้อบังคับทางกฎหมายก็ต้องมีเภสัชกรแบบมีตัวตนจริง ๆ เป็นผู้ดำเนินการจ่ายยาของบริษัทที่ตั้งในเนเธอร์แลนด์ด้วยเช่นกัน ตลาดร้านขายยาในเยอรมนีเป็นตลาดดึงดูดความสนใจบริษัทที่อยู่นอกอุตสาหกรรมหลายครั้งแล้ว ตัวอย่างเช่น บริษัท Douglas เครือร้านขายน้ำหอมได้ก้าวเข้าสู่ธุรกิจดังกล่าวเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผ่านการซื้อบริษัท Disapo ร้านขายยาออนไลน์ขนาดเล็กจากเนเธอร์แลนด์ในราคา 24.2 ล้านยูโร นาง Tina Müller ผู้บริหารหลักของ Douglas ในขณะนั้นมองเห็นศักยภาพมหาศาลของตลาดร้านขายยาในเยอรมนี และยุโรป ด้วยตลาดที่ทีมูลค่ารวมกันสูงถึงสามหลักพันล้านยูโร แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของ Douglas ในปี 2023 ทิศทางการดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจก็เปลี่ยนไป นาง Sander van der Laan ผู้บริหารคนใหม่ของ Douglas ได้แยกตัวเองจากร้านขายยาออนไลน์อีกครั้งในปี 2024 ผู้เชี่ยวชาญในวงการหลายคนคาดว่า บริษัท Amazon ยักษ์ใหญ่จะสามารถเข้าสู่ตลาดร้านขายยาของเยอรมันได้ไม่ช้าก็เร็ว โดยบริษัท Amazon เปิดดำเนินการธุรกิจร้านขายยาทางไปรษณีย์ในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปลายปี 2020 และเพิ่งจัดตั้งร้านขายยาแบบออฟไลน์มากขึ้นเรื่อย ๆ ปัจจุบันในเยอรมนีลูกค้าสามารถสั่งซื้อยาที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ได้จาก Amazon ผ่านตัวแทนจำหน่ายที่เป็นลูกค้าของ Amazon อีกที่เท่านั้น Amazon เองยังไม่ได้ก้าวเข้ามาเป็นร้านขายยาเอง แต่เป็นผู้เล่นที่สำคัญอยู่แล้วในตลาด ตามการคาดการณ์โดย Kaske Group ที่ปรึกษาด้านการจัดการ ในปีนี้บริษัท Amazon สามารถทำยอดขายจากยาที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์ได้สูง 350 ล้านยูโรโดยประมาณ

ในทางกลับกัน dm ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านเพื่อสุขภาพและความงาม (Drugstore) ก็ได้จำหน่ายยาจำนวนมากที่ไม่ต้องมีใบสั่งยาอยู่แล้ว เมื่อเลือกเมนูสินค้าภายใต้คำว่า “สุขภาพ” ในร้านค้าออนไลน์ของ dm ลูกค้าสามารถค้นหาสินค้ามากกว่า 1,500 รายการ ยกตัวอย่างเช่น แคปซูลน้ำมันยูคาลิปตัส ยาหยอดทำให้หายใจสะดวก น้ำผลไม้เย็น และขี้ผึ้งไขข้ออักเสบ ด้วยการขนส่งจากบริษัทในสาธารณรัฐเช็กจะทำให้มีสินค้าทวีคูณเข้าไปอีก ผู้เชี่ยวชาญในตลาดดังกล่าวสันนิษฐานว่า ในระยะยาว dm น่าวางแผนขยายการให้บริการด้านสุขภาพเพิ่มเติมในร้านสาขาของตน ผู้บริหารบริษัทผู้ผลิตรายหนึ่งตั้งข้อสงสัยว่า “ร้านขายยาออนไลน์น่าจะเป็นเพียงก้าวแรกในการทดสอบว่า ผู้บริโภคตอบรับสิ่งนี้อย่างไร เพราะ dm ไม่น่าจะคิดทำอะไรเล็ก ๆ แน่นอน” ซึ่ง dm ไม่ได้เป็นผู้คุกคามต่อร้านขายยาออนไลน์ต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นภัยต่อร้านขายยาแบบออฟไลน์อีกด้วย เป็นไปได้ที่ dm จะใช้โมเดลแบบที่ร้าน Boots ซึ่งเป็นเจ้าพ่อ Drugstore ในสหราชอาณาจักรมาใช้ โดยมีเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกอบรมทางการแพทย์ตามสาขาต่าง ๆ ที่สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับโรคเล็ก ๆ น้อย ๆ และดูแลด้านสุขอาณามัยแบบเล็ก ๆ อย่างการฉีดวัคซีน เป็นต้น ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว “Badische Neuesten Nachrichten” นาย Werner ผู้บริหารหลักของ dm กล่าวเมื่อถูกถามถึงกรณีการฉีดวัคซีนในร้าน drugstore ว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ เขากล่าวตอบว่า “ผมเชื่อว่า เราจะมีแนวคิดดี ๆ ในเรื่องที่กล่าวถึง” ซึ่งบริษัทก็น่าจะเตรียมตัวไว้แล้ว ในปีนี้ได้ทำการขยายการคุ้มครองเครื่องหมายการค้าสำหรับแบรนด์ dm ให้รวม “บริการทางการแพทย์” และ “คำแนะนำเกี่ยวกับเวชภัณฑ์ยา” เข้าไปเรียบร้อยแล้ว ในภาคส่วนการแพทย์ และการดูแลสุขภาพบริษัทของนาย Werner ได้รับความไว้วางใจอย่างมากจากประชากร ผู้บริโภคจำนวนมากในเยอรมนีสามารถจินตนาการถึงการสั่งยาที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์จาก dm ออนไลน์ได้ จากการสำรวจผู้บริโภค 1,055 ราย โดยบริษัท Sempora พบว่า 42% ของผู้ตอบแบบสำรวจพิจารณาว่า “เป็นไปได้” ที่จะซื้อ หรือสั่งซื้อยาที่ไม่ต้องมีใบสั่งยาจาก dm และอีก 31% พิจารณาว่า “ค่อนข้างเป็นไปได้” ที่จะกระทำการดังกล่าว สำหรับคู่แข่ง Rossmann ความเห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าวลดลงเล็กน้อย อยู่ที่ 36% และ 30% ตามลำดับ โดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคาดหวังว่า บริษัท Rossmann เองก็น่าจะก้าวเข้าสู่ธุรกิจร้านขายยาในไม่ช้าเช่นกัน

 

จาก Handelsblatt 6 มกราคม 2568

thThai