อินเดียตั้งเป้าก้าวสู่ผู้นำในตลาดโลกด้านลวดทองแดงและอะลูมิเนียม

อินเดียตั้งเป้าก้าวสู่ผู้นำในตลาดโลกด้านลวดทองแดงและอะลูมิเนียม

อินเดียตั้งเป้าก้าวสู่ผู้นำในตลาดโลกด้านลวดทองแดงและอะลูมิเนียมโดยอินเดียได้เพิ่มส่วนแบ่งและอันดับในประเทศผู้ส่งออกในช่วงปีที่ผ่านมา ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่ามูลค่าการส่งออกลวดทองแดงเพิ่มขึ้นถึง 21 เท่าระหว่างปี 2013 และ 2023 โดยเพิ่มขึ้นเป็น 890 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 40.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การเติบโตนี้ยังนำไปสู่อันดับที่ดีขึ้นของอินเดียในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกจากอันดับที่ 37 ในปี 2013 ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 8 ในปี 2023 นอกจากนี้ ส่วนแบ่งของอินเดียในตลาดส่งออกลวดทองแดงทั่วโลกยังเพิ่มขึ้นเป็น 3.33% จาก 0.19%

สำหรับการส่งออกลวดอะลูมิเนียมระหว่างปี 2013 และ 2023 เติบโตขึ้น 12 เท่า โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 509 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 39.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยการเติบโตนี้ อันดับของอินเดียในหมู่ผู้ส่งออกเพิ่มขึ้นจากอันดับที่ 21 มาอยู่ที่อันดับ 3 ในช่วงเวลาดังกล่าว ส่วนแบ่งของอินเดียในตลาดส่งออกลวดอะลูมิเนียมทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก 1.19% ในปี 2013 เป็น 9.52% ในปี 2023

สาเหตุของการเติบโตในการส่งออกลวดทองแดงและลวดอะลูมิเนียมมาจากการขยายตัวของภาคการผลิตในประเทศ อาทิ ภาคพลังงาน การก่อสร้าง และการสื่อสารที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก และความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งรัฐบาลได้ส่งเสริมการผลิตลวดและสายเคเบิลอะลูมิเนียมและทองแดงภายในประเทศ ซึ่งนำไปสู่ความสามารถในการผลิตและการส่งออกที่เพิ่มขึ้น

ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาราคาทองแดงและอลูมิเนียมในตลาดได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ต้นทุนสินค้าในส่วนของวัตถุดิบตั้งต้นนั้นปรับตัวสูงขึ้น แต่อินเดียยังคงมีต้นทุนในการผลิตที่ต่ำกว่าประเทศอื่น เช่น ต้นทุนทางด้านแรงงาน เป็นต้น  ด้วยเหตุนี้อินเดียจึงรักษามาตรฐานข้อได้ เปรียบในการแข่งขันได้เป็นอย่างดี

ข้อคิดเห็น

การก้าวขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดในอุตสาหกรรมลวดทองแดงและลวดอลูมิเนียมนั้นส่วนนึงเกิดจากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมพื้นฐานภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้าง , อุตสาหกรรมภาคการผลิตรถยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ภายในประเทศ หรือแม้กระทั่งอุตสาหกรรมสินค้าอิเล็คทรอนิกส์ซึ่งใช้ลวดทองแดงและลวดอลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบทั้งสิ้น ทั้งนี้การดำเนินนโยบายของทางรัฐบาลที่มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศเห็นได้จากการที่รัฐบาลได้รับวงเงินสนับสนุนจาก ADB ประมาณ 350 ล้านดอลล่าร์ เพื่อพัฒนาระบบโลจิสติกส์ภายในประเทศ การกำหนดมาตรฐานสินค้านำเข้า อย่างเคร่งครัด ทำให้อินเดียสามารถที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมลวดทองแดงและลวดอลูมิเนียมเพื่อให้เพียงพอต่อการใช้ในประเทศแล้วนั้น ปัจจุบันปริมาณการผลิตส่วนเพิ่มกอปรกับมาตรฐานของสินค้าที่ดีเป็นที่ยอมรับตามมาตรฐานสากลแล้วนั้นทำให้อินเดียสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมนี้มาสู่สินค้าส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างต่อเนื่อง ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาราคาทองแดงและอลูมิเนียมในตลาดได้ปรับตังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ต้นทุนสินค้าในส่วนของวัตถุดิบตั้งต้นนั้นปรับตัวสูงขึ้น แต่อินเดียยังคงมีต้นทุนในการผลิตที่ต่ำกว่าประเทศอื่น เช่น ต้นทุนทางด้านแรงงาน เป็นต้น อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมลวดทองแดงและอะลูมิเนียมยังเผชิญความท้าทาย เช่น การพึ่งพาวัตถุดิบนำเข้าอย่างอลูมิเนียมอ๊อกไซด์ที่อาจกระทบต่อเสถียรภาพด้านต้นทุน นอกจากนี้ การแข่งขันในตลาดโลกยังคงกดดันให้อินเดียต้องพัฒนาคุณภาพสินค้าและมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง แม้มีศักยภาพที่โดดเด่นแต่อุตสาหกรรมจำเป็นต้องจัดการปัจจัยเหล่านี้เพื่อรักษาการเติบโต หากประสบความสำเร็จอินเดียจะสามารถก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน

ดังนั้น ผู้ประกอบการในประเทศไทยและผู้ประกอบการลวดทองแดงลวดอลูมิเนียมทั้งโลก อาจจะต้องให้ความสนใจสินค้าประเภทนี้จากอินเดียเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญของตลาดและเป็นตัวเร่งให้เกิดการแข่งขันทั้งทางด้านคุณภาพและราคาได้ในอนาคต