ผู้แทนจากกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงาน (MOTIE) ให้ข้อมูลว่า รัฐบาลเกาหลีใต้อยู่ระหว่างการวางกลยุทธ์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันในหลายรูปแบบ ภายใต้การเปลี่ยนแปลงของนโยบายการค้าของสหรัฐอเมริกา หลังการรับตำแหน่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 มกราคม นี้

ในรายงานด้านนโยบายของเกาหลีใต้ระบุว่า หากสหรัฐอเมริกาใช้นโยบายปกป้องสินค้าในประเทศ (trade protectionism measures) จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบที่สำคัญต่อการส่งออกของเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ยังมีความกังวลว่า การใช้มาตรการปกป้องสินค้าในประเทศ อาจแพร่ไปถึงประเทศหลักๆ โดยเป็นผลกระทบต่อเนื่อง

ผู้แทนจากกระทรวงได้แจ้งว่า ปัจจุบัน อยู่ระหว่างวางแผนกลยุทธ์จากข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเป็นไปได้จากรัฐบาลทรัมป์ ที่จะกำหนดนโยบายในการปกป้องสินค้าในประเทศ และมีเป้าหมายโจมตีประเทศที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐอเมริกา โดยเกาหลีใต้จะยังคงความร่วมมือในระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับประเทศคู่ค้าสำคัญ ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่น สหภาพยุโรป แคนาดา และเม็กซิโก

จากการที่ทรัมป์ได้ประกาศว่า จะเพิ่มภาษีนำเข้าร้อยละ 25 ในทุกสินค้าที่นำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา และเพิ่มร้อยละ 10 ในทุกสินค้าจากประเทศจีน  ซึ่งการประกาศดังกล่าวได้สร้างความกังวลให้บริษัทเกาหลีใต้ที่ได้ไปลงทุนในเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งเคยมุ่งหวังที่จะใช้ความตกลงการค้าเสรีอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) เพื่อเข้าไปสู่ตลาดอเมริกาเหนือ

ในช่วงการประชุมร่วมกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา นายอัน ด๊อก-กึน (Mr. Ahn Duk-Geun) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงาน กล่าวว่า เกาหลีใต้จะให้ความสำคัญกับการให้ความช่วยเหลือบริษัทเกาหลีใต้ ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการลดอัตราเงินเฟ้อ (Inflation Reduction Act : IRA) ยังคงบังคับใช้ นอกจากนี้ รัฐมนตรียังกล่าวว่า ในปี 2568 ตั้งเป้าที่จะขยายประเทศส่งออกสำหรับธุรกิจเกาหลีใต้ให้เพิ่มมากขึ้น

ณ สถานะของสิ้นปี 2567 เกาหลีใต้มีความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) 22 ฉบับที่มีผลบังคับใช้ ซึ่งมีมูลค่าถึงร้อยละ 85 ของ GDP ปัจจุบัน และอยู่ระหว่างเตรียมการบังคับใช้ FTA อีก 4 ฉบับ ได้แก่ กลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council : GCC) สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ กัวเตมาลา และเอควาดอร์ ภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้อัตราส่วนของการเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 87 นอกจากนี้ ปัจจุบัน เกาหลีใต้อยู่ระหว่างการเจรจากับมาเลเซีย ไทย มองโกเลีย บังคลาเทศ และเซอร์เบีย

บทวิเคราะห์

การเปลี่ยนแปลงของการเมืองในประเทศที่มีมูลค่าทางการค้าสูง ส่งผลกระทบสำคัญต่อประเทศอื่นๆ ในโลกอย่างเห็นได้ชัด การประกาศนโยบายเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ส่งผลให้ประเทศต่างๆ ในโลก ต้องเตรียมความพร้อมในการรับมือ และเตรียมกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดขึ้น

ในส่วนของประเทศไทย หากประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยได้รับผลกระทบ ประเทศไทยย่อมได้รับผลกระทบตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งปัจจุบันได้ดุลการค้ากับสหรัฐอเมริกา อาจจะได้รับผลกระทบจากนโยบายดังกล่าว และผู้ส่งออกไทย โดยเฉพาะบริษัทที่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนเพื่อนำไปประกอบเป็นสินค้าส่งออกจากเกาหลีใต้ไปสหรัฐอเมริกา ย่อมได้รับผลกระทบต่อเนื่อง นอกจากนี้ หากสหรัฐอเมริกาเพิ่มอัตรากำแพงภาษี สินค้าเหล่านั้นอาจจะไหลเข้ามาประเทศไทย ส่งผลต่อการผลิตและจำหน่ายสินค้าของไทยที่เป็นสินค้าทดแทน อย่างไรก็ดี การพัฒนาสินค้าให้เหมาะกับตลาดและตรงกับความต้องการของผู้บริโภค โดยไม่ให้ราคาเป็นปัจจัยสำคัญในการสั่งซื้อสินค้า จะเป็นตัวช่วยหนึ่งในการรักษาตลาดสินค้าไทย

(ที่มา : สำนักข่าว Yonhap, The Korea Herald ฉบับวันที่ 14 มกราคม 2568)

 

********************************************************************

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโซล

thThai