ในปี 2567 เมืองฉงชิ่งได้กลายเป็นจุดสนใจอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ด้วยปัจจัยหลายประการที่ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดอย่างยิ่ง การยกเว้นวีซ่าที่เริ่มในเดือนมีนาคม 2567 ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้กับการท่องเที่ยว โดยข้อมูลจาก Ctrip เผยให้เห็นการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึงร้อยละ 240 ในการจองทริปของนักท่องเที่ยวไทยที่มุ่งหน้าสู่ฉงชิ่ง ระยะเวลาบินเพียง 3 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ และเที่ยวบินตรงมากกว่า 20 เที่ยวต่อสัปดาห์ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวกสบาย

 

สื่อโซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญในการสร้างกระแสความนิยม วิดีโอและรูปภาพที่แชร์โดยอินฟลูเอนเซอร์และนักท่องเที่ยวทั่วไปได้ช่วยประชาสัมพันธ์เสน่ห์ของเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถไฟที่วิ่งผ่านอาคารซึ่งกลายเป็นไฮไลต์ที่ดึงดูดความสนใจ วิดีโอบน TikTok และภาพถ่ายบน Instagram ที่โพสต์โดยอินฟลูเอนเซอร์ได้รับความนิยมสูง ด้วยยอดวิวหลายล้านครั้ง

 

นครฉงชิ่ง จุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไทย

(ภาพและแหล่งที่มา https://mp.weixin.qq.com/s/D8EW920NJuWVFGc0kWIcaQ)

กระแสความบันเทิงยังมีส่วนสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยว นักแสดงชาวฉงชิ่งอย่าง เสี่ยวจ้าน ที่มีชื่อเสียงจากซีรีส์ยอดนิยม ทำให้แฟน ๆ ชาวไทยสนใจเดินทางมายังเมืองนี้ เพื่อสัมผัสสถานที่ถ่ายทำและแหล่งบันเทิงต่าง ๆ อาหารและวัฒนธรรมท้องถิ่นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยดึงดูดที่สำคัญ หม้อไฟรสเผ็ดและก๋วยเตี๋ยวของฉงชิ่งได้รับความชื่นชอบจากนักท่องเที่ยวไทยที่ชื่นชอบอาหารเผ็ด นอกจากนี้ ราคาที่สมเหตุสมผลยังเป็นข้อได้เปรียบ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับประเทศเกาหลีหรือญี่ปุ่น ในราคาเพียงหนึ่งในสามเท่านั้น นโยบายการท่องเที่ยวแบบไร้วีซ่าเป็นระยะเวลา 240 ชั่วโมงที่ขยายออกไปในปีที่แล้ว ได้เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวนานาชาติ ไม่เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทย สามารถสำรวจเมืองได้อย่างอิสระมากขึ้น

 

ฉงชิ่งไม่เพียงแต่เป็นเมืองที่มีทิวทัศน์อันน่าตื่นตาตื่นใจ แต่ยังเป็นศูนย์กลางแห่งวัฒนธรรมและนวัตกรรมที่น่าค้นหา นักท่องเที่ยวไทยจำนวนมากค้นพบความหลากหลายและความน่าสนใจของเมืองแห่งนี้ ทำให้ฉงชิ่งกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด

 

ข้อเสนอแนะ สคต. ณ นครเฉิงตู

การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของการท่องเที่ยวในฉงชิ่งเปิดโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการไทย ธุรกิจบริการท่องเที่ยวถือเป็นช่องทางแรกที่มีศักยภาพสูง ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาแพ็คเกจทัวร์เฉพาะทาง เช่น ทัวร์ตามรอยซีรีส์ ทัวร์อาหาร หรือทัวร์วัฒนธรรมที่ตอบโจทย์ความสนใจของนักท่องเที่ยวไทย

 

ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มมีโอกาสขยายตัวอย่างมาก โดยเฉพาะร้านอาหารไทยที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับตลาดฉงชิ่ง การนำเข้าวัตถุดิบอาหารไทย การให้คำปรึกษาด้านการประกอบอาหาร และการจัดตั้งร้านอาหารแนวฟิวชันจะช่วยดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวและลูกค้าชาวจีน

 

ธุรกิจการศึกษาและภาษามีช่องทางการเติบโตสูง การจัดตั้งสถาบันสอนภาษาไทย การพัฒนาหลักสูตรแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และการให้บริการล่ามจะเป็นที่ต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะกับกลุ่มนักศึกษาและนักธุรกิจที่สนใจเรียนรู้วัฒนธรรมไทย

 

ธุรกิจด้านการค้าและการนำเข้า-ส่งออกยังมีโอกาสขยายตัว โดยเฉพาะสินค้าไทยที่มีเอกลักษณ์ เช่น อาหาร เครื่องสำอาง สมุนไพร และสินค้าหัตถกรรม การสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อการค้าระหว่างประเทศจะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจ

 

การลงทุนในธุรกิจบริการและเทคโนโลยีก็เป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจ การพัฒนาแอปพลิเคชันท่องเที่ยว บริการไกด์ออนไลน์ และโซลูชันการท่องเที่ยวอัจฉริยะจะช่วยตอบโจทย์ตลาดที่กำลังเติบโต

 

ผู้ประกอบการไทยควรให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่าย การศึกษาวัฒนธรรม และการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง การเข้าใจบริบทท้องถิ่นและสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับธุรกิจจะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในตลาดฉงชิ่ง

————————————————–

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู

มกราคม 2568

แหล่งข้อมูล :

                https://mp.weixin.qq.com/s/D8EW920NJuWVFGc0kWIcaQ

https://www.ichongqing.info/2025/01/13/why-chongqing-is-becoming-a-top-destination-for-thai-tourists/

thThai