ธนาคารกลางของเนเธอร์แลนด์ (De Nederlandsche Bank – DNB) เปิดเผยว่ามูลค่าเงินออมของครัวเรือนในเนเธอร์แลนด์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 600,500 ล้านยูโร ณ สิ้นปี 2024 โดยยอดเงินฝากและเงินออมในบัญชีเพิ่มขึ้น 24,500 ล้านยูโรในปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่ายอดเงินฝากและเงินออมที่เพิ่มขึ้น 14,900 ล้านยูโรในปี 2023 อย่างมาก อีกทั้งยังมียอดเงินออมในต่างประเทศอีก 16,000 ล้านยูโร

 

การออมที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบันเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างแรงงานในปี 2024 ทำให้ครัวเรือนมีรายได้มากขึ้นและมีเงินเหลือเก็บมากขึ้น ประกอบกับภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้ครัวเรือนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับกำลังซื้อของตนมากขึ้น จึงระมัดระวังการใช้จ่ายและเก็บเงินสำรองไว้มากขึ้นเพื่อความมั่นคงทางการเงินในอนาคต นอกจากนี้ ครัวเรือนในเนเธอร์แลนด์ยังสามารถชำระหนี้ได้มากขึ้นในปี 2024 ส่งผลให้หนี้ครัวเรือนของเนเธอร์แลนด์ลดลง

 

อย่างไรก็ตาม ภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูงและสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกในปี 2025 โดยเฉพาะสินค้าที่มีแบรนด์ (A-Brand) หลายแบรนด์ในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นอีกในปีนี้ เนื่องจากผู้ผลิตหลายรายเรียกร้องให้มีการปรับราคาซื้อที่สูงขึ้น อันเป็นผลมาจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น ค่าจ้างแรงงานและค่าพลังงานที่สูงขึ้น และมีผู้ผลิตบางรายที่ต้องการให้ราคาซื้อสูงขึ้นถึงร้อยละ 20 ทำให้ราคาสินค้า A-Brand จะมีการปรับราคาสูงขึ้นมากกว่าสินค้า Private Label โดยหากสินค้า Private Label จะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 สินค้าประเภทเดียวกันที่เป็น A-Brand จะต้องมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 9 เป็นอย่างน้อย นอกจากนี้ ปัญหาเรื่องห่วงโซ่อุปทานก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้า ทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่วางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตแพงขึ้น และผู้บริโภคต้องจ่ายเงินมากขึ้นในการซื้อสินค้า ซึ่งสถานการณ์นี้จะยิ่งเป็นตัวเร่งภาวะเงินเฟ้อ

 

 

บทวิเคราะห์และความเห็น สคต.

 

ภาวะเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่หลายประเทศก็กำลังเผชิญอยู่เช่นเดียวกัน เช่น ภาวะเงินเฟ้อ ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และปัญหาการขาดแคลนแรงงาน แต่ครัวเรือนในเนเธอร์แลนด์ก็ยังสามารถออมเงินได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งมีปัจจัยหลักมาจากค่าจ้างแรงงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 2 ครั้งในปี 2024 และล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2025 เนเธอร์แลนด์ก็ได้ประกาศปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานอีกครั้ง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี ทำให้ผู้บริโภคเนเธอร์แลนด์มีรายได้เพิ่มมากขึ้น แต่ด้วยความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำและความกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อ ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคเนเธอร์แลนด์ที่มีความประหยัดมัธยัสถ์ ทำให้ผู้บริโภคเนเธอร์แลนด์ยิ่งระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น และเก็บออมหรือเงินสำรองมากขึ้นเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อนหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดในอนาคต

 

แม้จะมีความท้าทาย แต่ตลาดเนเธอร์แลนด์ก็ยังคงมีศักยภาพและยังคงเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการและผู้ส่งออกสินค้าไทย ด้วยปัจจัยบวกด้านค่าจ้างแรงงานที่ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค แม้ว่าผู้บริโภคจะมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ แต่เงินออมครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์นี้สามารถสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของกำลังซื้อของผู้บริโภคเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีคุณภาพสูง สินค้าที่มีนวัตกรรม สินค้าพรีเมียม สินค้าไลฟ์สไตล์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเนเธอร์แลนด์ได้ รวมถึงสินค้าที่มีความคุ้มค่าด้านราคาที่จะสามารถโน้มน้าวให้ผู้บริโภคชาวเนเธอร์แลนด์ตัดสินใจเลือกซื้อและจ่ายเงินให้กับสินค้าดังกล่าวได้ ผู้ส่งออกสินค้าไทยควรใช้โอกาสนี้ในการขยายตลาด และสร้างความแข็งแกร่งให้กับสินค้าไทยให้สามารถเข้ามาเติมเต็มความต้องการของตลาด เพื่อที่จะเจาะตลาดเนเธอร์แลนด์ได้

 

 

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเฮก

 

thThai