ซูเปอร์มาร์เก็ตยังเป็นช่องทางการค้าที่สำคัญในการจำหน่ายสินค้าในตลาดจีน

เมื่อเร็วๆ นี้ สมาคมแฟรนไชส์ประเทศจีน (China Chain-Store & Franchise Association, CCFA) ได้จัดอันดับบริษัทแฟรนไชส์ยอดเยี่ยม 100 อันดับแรก (TOP 100 ) ประจำปี 2566 ของประเทศจีน ซึ่งบริษัทเหล่านี้มีร้านแฟรนไชส์จำนวน 226,600 ร้าน ในจำนวนนี้ขยายตัวเป็นร้อยละ 8.3 ส่วนขนาดมูลค่าการจำหน่ายสินค้าสูงถึง 2,030,000 ล้านหยวน ขยายตัวร้อยละ 4.6 โดยบริษัท Walmart China มีมูลค่าการจำหน่ายอยู่ที่ 120,217 ล้านหยวน สูงเป็นอันดับหนึ่ง ผลสำเร็จดังกล่าวนี้ได้รับการกระตุ้นการขายโดย Sam’s Club ซึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตระดับไฮเอนด์ของ Walmart ที่ได้รับมูลค่าจำหน่ายในปี 2566 มูลค่า 80,000 ล้านหยวน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 67 ของมูลค่าจำหน่ายทั้งหมดของ Walmart ขยายตัวเป็นร้อยละ 20

รายได้ของ Sam’s Club ประกอบด้วยสองส่วน คือ รายได้จากค่าสมาชิกรายปีและค่าจำหน่ายสินค้า ค่าสมาชิกมีสองระดับจะเป็น 260 และ 680 หยวน/ปี ถึงวันที่ 1 เดือนมกราคม 2568 Sam’s Club ที่เปิดธุรกิจในจีน มีทั้งหมด 53 สาขา และมีอีก 23 สาขาที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ปัจจุบัน Sam’s Club มีสมาชิกมากกว่า 9 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นผู้บริโภคกลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุระหว่าง 25-40 ปี สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้นิยมซื้อสินค้าที่ Sam’s Club มี 4 ข้อ ได้แก่ (1) ผู้บริโภคร้อยละ 72.6 รู้สึกว่าเป็นการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์ (2) ผู้บริโภคร้อยละ 67.9 คิดว่าเป็นเพราะความได้เปรียบของราคา (3) ผู้บริโภคร้อยละ 63.8 คิดว่าเป็นเพราะความสร้างสรรค์ของผลิตภัณฑ์ และ (4) ผู้บริโภคร้อยละ 59.36 คิดว่าเป็นเพราะการให้บริการ After-sales service ที่ดี ผู้บริโภคในปัจจุบันมีความต้องการในการเลือกสินค้าที่คุณภาพดีอย่างเรียบง่าย และเพลิดเพลินกับ “บริการบัตเลอร์” ซูเปอร์มาร์เก็ตแบบสมาชิกที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น และอีกมุมมองหนึ่งระบบสมาชิกยังเป็นทางเลือกสองทางระหว่างซูเปอร์มาร์เก็ตและผู้บริโภค Sam’s Club สามารถคัดกรองผู้ที่เป็นลูกค้าเป้าหมายที่แท้จริงและยังสามารถวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภคส่วนนี้ได้อย่างแม่นยําตามพฤติกรรมการซื้อสินค้าและให้บริการแบบพิเศษและเป็นแบบเฉพาะตัวมากขึ้นโดยกําหนดเกณฑ์ค่าสมาชิก

สำหรับสมาชิกของ Sam’s Club มีค่าต่อสมาชิกรายปีคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60 ค่าใช้จ่ายต่อปีต่อคน โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 13,000 หยวน หากคำนวนตามความถี่ในการซื้อสินค้า 2 ครั้ง/เดือน จํานวนค่าใช้จ่ายต่อครั้งของสมาชิกจะอยู่ที่ประมาณ 540 หยวน ประเภทสินค้าที่ได้รับความนิยม 3 อันดับแรก ได้แก่ บิสกิตและเค้ก เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์จากนม ส่วนสินค้าอาหารทานเล่นที่จำหน่ายใน Sam’s Club มีสัดส่วนยังไม่มาก สินค้าที่มีราคาอยู่ระหว่าง 30-50 หยวน และ 50-70 หยวนจะได้รับปริมาณการจำหน่ายมากที่สุด สำหรับเทคนิคการตั้งราคาจะมีทางเลือกให้กับผู้บริโภคไม่มาก เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจได้รวดเร็ว เช่น สินค้าที่มีราคาระหว่าง 60-70 หยวน มีเพียงแค่ 2 ราคา ได้แก่ ราคา 62.9 หยวน จะมีสินค้าแค่ 2 ชนิด และที่ราคา 69.9 หยวน จะมีสินค้า 15 ชนิด ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในกระบวนการตัดสินใจเลือกซื้อสําหรับผู้บริโภค

ผู้บริโภคที่นิยมใช้จ่ายที่ซูเปอร์มาร์เก็ตระดับไฮเอนด์เป็นกลุ่มผู้ที่มีรายได้ระดับปานกลางถึงสูง สินค้าที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคกลุ่มนี้ ส่วนมากมีความโดดเด่น ดังนี้

(1) สินค้าตอบสนองความต้องการด้านการดูแลสุขภาพของผู้บริโภค รายการส่วนผสมเรียบง่าย ไม่ซับซ้อนและบริสุทธิ์ กล่าวคือ ไม่มีสารเติมแต่ง ไม่มีกรดไขมันทรานส์ และไม่มีสารกันบูดเป็นข้อกําหนดและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์

(2) สินค้าใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดีและสามารถมองเห็นได้ด้วยตา ผลิตภัณฑ์ที่ดีมาจากการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดของแหล่งที่มา และจําเป็นต้องแสดงออกทางกายภาพที่ยอดเยี่ยมเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถมองเห็นได้ และทำให้ผู้บริโภคสามารถสัมผัสถึง “ชีวิตที่มีคุณภาพ” อย่างแท้จริงจากผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น ส้มจี๊ดอบแห้งที่เป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของ Sam’s Club ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคจนขายหมดตลาด โดยเลือกส้มจิ้ด GI เป็นวัตถุดิบ และลดน้ำตาลร้อยละ 30 จากบนพื้นฐานของรุ่นดั้งเดิมเพื่อตอบสนองความต้องการน้ำตาลต่ำของผู้บริโภค

(3) การผสมผสานรสชาติของประเทศจีนและต่างประเทศ สมาชิกของ Sam’s Club ส่วนมากมาจากครอบครัวที่อยู่เมืองระดับหนึ่งและระดับสอง ซึ่งไม่เพียงแต่นิยมอาหารรสชาติจีน ยังนิยมรสชาติต่างประเทศด้วย Sam’s Club จึงสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาการผสมผสานรสชาติระหว่างจีนและต่างประเทศ

(4) นำนวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่ใช้วัตถุดิบไฮเอนด์ในผลิตภัณฑ์ทั่วไปและจำหน่ายในราคาไม่สูง เช่น ขนมปังกรอบโซดาแฮมเห็ดทรัฟเฟิลดำที่ได้รับความนิยม Sam’s Club ได้ผสมผสานทรัฟเฟิล ซึ่งเป็นวัตถุดิบระดับคุณภาพจากยุโรปเข้ากับขนมปังกรอบโซดาอย่างชาญฉลาด ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์นี้ประสบความสำเร็จอย่างสูงเมื่อออกสู่ตลาด นอกจากนี้ โจ๊กรังนกพร้อมรับประทาน ในฐานะอาหารบำรุงสุขภาพที่ราคาสูง รังนกมักจะมีราคาแพง แต่ Sam’s Club สร้างนวัตกรรมด้วยการนำรังนกมาผสม  กับโจ๊กพร้อมรับประทาน แนวคิด “หรูแต่ไม่แพง” ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามทันทีเมื่อเปิดตัว ที่น่าสนใจคือ ก่อนที่ Sam’s Club จะพัฒนาผลิตภัณฑ์โจ๊กรังนก ตลาดโจ๊กรังนกพร้อมรับประทานของจีนยังขาดมาตรฐานอุตสาหกรรมที่ชัดเจน ผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดมีคุณภาพที่หลากหลายปะปนกัน Sam’s Club จึงใช้โอกาสนี้สร้างนิยามใหม่ให้กับหมวดหมู่สินค้า กำหนดมาตรฐานคุณภาพและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภค

ทั้งนี้ สินค้าไทยที่จำหน่ายใน Sam’s Club ก็ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเช่นกัน สำหรับสินค้าไทยที่จำหน่ายมีมากกว่า 30 ชนิด ประกอบด้วย

ผลไม้สดและผลิตภัณฑ์ผลไม้

สินค้าอาหาร เช่น อาหารทานเล่น รังนกสำเร็จรูป

ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม

เครื่องปรุงรส และข้าว

สินค้าสดแช่แข็ง เช่น กุ้ง ปู เนื้อไก่

ของใช้ในชีวิตประจำวัน และผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง

ความเห็น สคต.ณ เมืองหนานหนิง ด้วยตลาดธุรกิจ E-commerce ของจีนมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและครบวงจร ส่งเสริมให้ผู้บริโภคชาวจีนได้เปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้จ่ายผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ซึ่งทำให้ห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตที่เป็นช่องทางจำหน่ายออฟไลน์แบบดั้งเดิมหลายแห่งมีการปรับลดขนาดร้านค้า ปรับลดจำนวนสาขา และขยายช่องทางการค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ไปตามกระแสพฤติกรรมบริโภค ซูเปอร์มาร์เก็ต Sam’s Club ถือว่าเป็นตัวอย่างและโมเดลที่ประสบความสำเร็จที่สามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างต่อเนื่องและธุรกิจเติบโตในตลาดจีน ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตสำหรับสมาชิกเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นสัญลักษณ์เชิงบริโภคที่ได้รับความนิยมและความไว้วางใจของผู้บริโภคชาวจีนยุคใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์และที่มีคุณภาพสูงนั้นมีศักยภาพอย่างมหาศาลในตลาดจีน ในขณะเดียวกัน ซูเปอร์มาร์เก็ตแบบแฟรนไชส์และรูปแบบสมาชิกก็ยังเป็นช่องทางที่มีโอกาสในการจำหน่ายสินค้าพรีเมี่ยมจากต่างประเทศ สำหรับผู้ประกอบการไทยที่ประสงค์นำสินค้าไทยมาบุกตลาดจีน ควรให้ความสำคัญกับคุณภาพ นำนวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทั้งในด้านคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ การนำวัตถุดิบที่มีคุณภาพและมีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น การสร้างสรรค์แพ็คเกจสินค้ารูปแบบใหม่ รวมถึงการนำอัตลักษณ์ไทยมาต่อยอด เพื่อให้สินค้าและผลิตภัณฑ์ของไทยมีความโดดเด่นที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคจีนอย่างแม่นยำ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดจีนได้อย่างยั่งยืนต่อไป

————————————————————–

แหล่งที่มา:

https://www.yicai.com/news/102140784.html

https://www.foodaily.com/articles/38946

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองหนานหนิง

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568