ฮ่องกง ยกระดับเมืองให้เป็นมิตรกับมุสลิม เสริมสัมพันธ์อาเซียน

 

Mr. John Lee Ka-chiu ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง ประกาศนโยบายยกระดับเขตบริหารพิเศษสู่การเป็นจุดหมายปลายทางที่เป็นมิตรต่อชาวมุสลิม เพื่อรองรับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านมาตรการสำคัญทั้งการอำนวยความสะดวกด้านการเข้าเมืองและการขยายบริการอาหารฮาลาล พร้อมกันนี้ ฮ่องกงยังเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์กับอาเซียนโดยอยู่ระหว่างการหารือกับรัฐบาลมาเลเซียเพื่อจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าแห่งที่ 4 ในภูมิภาค

 

Mr. Lee ได้กล่าวสุนทรพจน์ผ่านระบบออนไลน์ในงาน South China Morning Post China Conference: Southeast Asia เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยเน้นย้ำถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นระหว่างฮ่องกงและสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) พร้อมให้คำมั่นว่าจะยกระดับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยประกาศผ่อนปรนหลักเกณฑ์การขอวีซ่าเข้าออกหลายครั้งสำหรับประชาชนจากกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม รวมถึงขยายอายุวีซ่าจาก 2 ปีเป็น 3 ปี

 

“เราจะจัดให้มีช่องทางตรวจคนเข้าเมืองอัตโนมัติสำหรับผู้เยือนจากอาเซียนที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรมทางธุรกิจและการพัฒนาในฮ่องกง” Mr. Lee กล่าว พร้อมเสริมว่า “เพื่อให้มิตรชาวอาเซียนรู้สึกเสมือนอยู่บ้าน เรากำลังรวบรวมรายชื่อร้านอาหารที่ให้บริการอาหารฮาลาล และส่งเสริมให้โรงแรมและสถานประกอบการต่างๆ จัดเตรียมสถานที่ละหมาดที่เหมาะสม”

 

 

ด้านสถิตินักท่องเที่ยวปี 2567 ฮ่องกงต้อนรับผู้มาเยือนรวม 44.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 31% โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เติบโตอย่างโดดเด่น ฟิลิปปินส์สร้างสถิติสูงสุดที่ 1.2 ล้านคน ขณะที่อินโดนีเซียและมาเลเซียมีจำนวนผู้เดินทางเพิ่มขึ้น 43% และ 50% ตามลำดับ

 

Mr. Lee ยังเปิดเผยว่า ฮ่องกงให้ความสำคัญกับการสื่อสารและสร้างเครือข่ายทางเศรษฐกิจกับภาคธุรกิจอาเซียน โดยนอกเหนือจากสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าในสิงคโปร์ จาการ์ตา และกรุงเทพฯ ฮ่องกงกำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลมาเลเซียเพื่อจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าในกรุงกัวลาลัมเปอร์ พร้อมเน้นย้ำบทบาทของฮ่องกงในฐานะ “ตัวเชื่อมพิเศษ” ที่เชื่อมโยงอาเซียนกับจีน

 

“ฮ่องกงภาคภูมิใจที่ได้เป็นศูนย์กลางสร้างมูลค่าให้กับตลาดดั้งเดิมและตลาดเกิดใหม่ เราเป็นสะพานเชื่อมสำหรับภาคธุรกิจอาเซียนที่ต้องการเข้าสู่ตลาดจีน รวมถึงเป็นช่องทางสำคัญสำหรับธุรกิจจีนที่ต้องการขยายไปยังต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอาเซียน ตะวันออกกลาง หรือภูมิภาคอื่นๆ”

 

ทั้งนี้ อาเซียนเป็นคู่ค้าสินค้าอันดับ 2 ของฮ่องกงมาอย่างต่อเนื่องกว่าทศวรรษ โดยปี 2566 มีมูลค่าการค้า 145,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเพิ่มขึ้นเป็น 165,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567

 

การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นในรูปแบบไฮบริดที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยรวบรวมเจ้าหน้าที่การทูต ผู้นำภาคธุรกิจ และเจ้าหน้าที่รัฐบาลเพื่อหารือถึงแนวโน้มและโอกาสความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

 

ความคิดเห็นของ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง

การปรับโฉมฮ่องกงให้เป็นเมืองมิตรกับมุสลิม รวมทั้งต้อนรับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวอาเซียน เป็นนโยบายที่ดี ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของฮ่องกง และกระชับความสัมพันธ์ทางการค้ากับอาเซียน

โอกาสของไทยเมื่อฮ่องกงเชื่อมสัมพันธ์ในด้านเศรษฐกิจ:

  1. ขยายตลาดสินค้าฮาลาลไทย: เปิดโอกาสให้สินค้าอาหารฮาลาลจากไทยเข้าฮ่องกง
  2. การลงทุนและธุรกิจร่วมกัน: เพิ่มโอกาสในการลงทุนและทำธุรกิจร่วมกับฮ่องกง
  3. การเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการค้าจีน-อาเซียน: ใช้ฮ่องกงเป็นสะพานเชื่อมเข้าสู่ตลาดจีน

 

แหล่งข้อมูล: https://www.scmp.com/news/hong-kong/hong-kong-economy/article/3299020/hong-kong-become-muslim-friendly-city-asean-businesses-tourists-john-lee?module=top_story&pgtype=subsection

 

 

thThai