EU จ่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมใหม่สำหรับพัสดุจากผู้ค้าปลีกออนไลน์

ตอนนี้ใครก็ตามที่สั่งซื้อสินค้าราคาถูกหรือ Fast Fashion จากจีนผ่านผู้ค้าปลีกออนไลน์จำพวก Temu, Shein, Amazon หรือ Aliexpress จะต้องจ่ายเงินเพิ่มในอนาคต เพราะหากรัฐบาลของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) เห็นพ้องต้องกันต่อข้อเสนอของ EU จากกรุงบรัสเซลส์ โดยคณะกรรมาธิการ EU ต้องการที่จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมพัสดุจากผู้ค้าปลีกออนไลน์เพื่อที่จะสามารถควบคุมสินค้าลอกเลียนแบบ และไม่ปลอดภัยจำนวนมากที่จะเกิดขึ้นในอนาคตให้เป็นระบบดีขึ้น คณะกรรมาธิการ EU ได้ประกาศเรื่องดังกล่าวไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสำนักข่าว Handelsblatt เคยรายงานเรื่องนี้ไว้เมื่อก่อนหน้า นอกจากนี้คณะกรรมาธิการ EU กำลังเปิดการไต่สวน Shein ผู้ค้าปลีกออนไลน์ของจีนอีกด้วย โดย EU ได้ออกมากล่าวหาว่า Shein ว่า ไม่ปฏิบัติตามกฎการคุ้มครองผู้บริโภค นอกจากนี้ยังมีการสืบสวนที่คล้ายคลึงกันกับ Temu ผู้ค้าปลีกออนไลน์อีกรายของจีนอีกด้วย โดยหลัก ๆ แล้ว คณะกรรมาธิการ EU ต้องการเสนอการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่อประเทศสมาชิก และรัฐสภา EU ในอนาคต โดยเห็นควรให้มีการเรียกเก็บ “ค่าธรรมเนียมการประมวลผลสำหรับสินค้าอีคอมเมิร์ซ” ที่ถูกนำเข้าพัสดุแบบแยกชิ้น ตามที่ปรากฏในเอกสารที่นำเสนอ ซึ่งค่าธรรมเนียมนี้จะนำไปชดเชยให้กับหน่วยงานศุลกากรของประเทศสมาชิกฯ ที่ต้องรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น “ในการควบคุมสินค้าเหล่านี้ให้เหมาะสม” อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ชัดว่า ค่าธรรมเนียมนี้จะสูงขนาดไหน คณะกรรมาธิการ EU ต้องการที่จะตรวจสอบเรื่องค่าธรรมเนียมร่วมกับประเทศสมาชิกต่อไป นอกจากนี้ ในอนาคตผู้ค้าปลีกออนไลน์จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า ผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาเสนอขายผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ จะต้องถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของ EU นาย Michael McGrath กรรมาธิการ EU ว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค ได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับปริมาณสินค้าที่นำเข้าจากจีนมายังสหภาพยุโรปว่า “มีพัสดุจำนวน 12 ล้านชิ้น ถูกส่งมายัง EU แทบทุกวัน โดยเราต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผ่านการนำเข้าสินค้าในปริมาณสูงขนาดนี้” จำนวนพัสดุราคาถูกที่ถูกส่งจากต่างประเทศกำลังทำให้สำนักงานศุลกากรต้องรับภาระเกินความจำเป็น กลุ่มคุ้มครองผู้บริโภค และหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมเองก็ออกมาแสดงความกังวลใจว่า ไม่สามารถรับรองได้ว่าผลิตภัณฑ์จะตรงตามมาตรฐานความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมของยุโรปหรือไม่ นอกจากนี้ จำนวนพัสดุราคาถูกที่ถูกส่งจากต่างประเทศยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคณะกรรมาธิการฯ รายงานว่า จำนวนพัสดุเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าระหว่างปี 2022 – 2023 เพียงปีเดียว หากเทียบกับปี 2022 จำนวนพัสดุเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า โดยกว่า 91% ของพัสดุทั้งหมดถูกจัดส่งมาจากประเทศจีน ในเวลาเดียวกันสหรัฐอเมริกาก็มีความพยายามดำเนินการต่อต้านจัดส่งพัสดุสินค้าราคาถูกอีกด้วย โดยไปรษณีย์สหรัฐฯ (USPS) ได้ออกมาประกาศว่า จะไม่จัดส่งพัสดุจากจีน และฮ่องกงอีกต่อไป จนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม USPS ไม่ได้ให้เหตุผลใด ๆ สำหรับมาตรการดังกล่าว ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ทันที และไม่ได้ระบุว่า การหยุดส่งสินค้าจะกินเวลานานเท่าใด สำหรับการส่งจดหมายจะไม่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาหลังจากที่ USPS ได้ประกาศดังกล่าวออกไป USPS ก็ถอนประกาศดังกล่าวออกไปก่อน

 

การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของจำนวนการจัดส่งพัสดุเป็นผลมาจากรูปแบบธุรกิจของผู้ค้าปลีกออนไลน์ ซึ่งแตกต่างจากผู้ค้าปลีกออนไลน์ และห้างสรรพสินค้าอื่น ๆ โดยปกติแล้วผู้ค้าปลีกจะนำเข้าสินค้าอุปโภค – บริโภคจำนวนมากมากับตู้คอนเทนเนอร์ และจัดเก็บไว้ในยุโรปก่อนที่จะส่งมอบให้กับลูกค้าเป็นรายบุคคล ซึ่งวิธีการดังกล่าวช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินพิธีการทางศุลกากร และการตรวจสอบ แต่สำหรับ Temu, Shein, Aliexpress และ Amazon ได้เริ่มใช้งานการส่งโดยตรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาก้าวข้ามขั้นตอนที่ต้องมีผู้นำเข้าในยุโรป และเป็นตัวเชื่อมระหว่างลูกค้าในยุโรปกับผู้ขายของจีนโดยตรง จากนั้นพวกเขาจะส่งผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นแบบพัสดุเป็นชิ้น ๆ ไปยังผู้บริโภคปลายทางในยุโรปจากโรงงานโดยตรง ซึ่งพัสดุเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรมีสินค้าที่ต้องทำการตรวจสอบมากเกินพิกัด ซึ่งนี่เป็นอันตรายอย่างยิ่งโดยเฉพาะกับผลิตภัณฑ์ยา หรือเครื่องสำอางที่ไม่ได้รับการรับรองในสหภาพยุโรป หากพบว่า มีการฉ้อโกง และเจ้าหน้าที่ดำเนินการกับตัวแทนจำหน่ายที่น่าสงสัย แต่ผู้ขายรายเดิมก็มักจะกลับมาปรากฏบนแพลตฟอร์มออนไลน์อีกครั้งพร้อมกับตัวตนใหม่ นอกจากนี้ คู่แข่งในยุโรปยังออกมาแสดงความกังวลใจอีกว่า คู่แข่งชาวจีนได้รับสิทธิพิเศษจนทำให้เกิดการบิดเบือนตลาด เพราะปัจจุบันการจัดส่งพัสดุจะได้รับการยกเว้นภาษีศุลกากรหากพัสดุมีมูลค่าต่ำกว่า 150 ยูโร ข้อยกเว้นนี้ได้กำหนดขึ้นเพื่อใช้กับพัสดุถูกส่งระหว่างบุคคล เช่น จากคุณย่าที่อยู่ต่างประเทศส่งพัสดุไปยังหลานสาวของเธอที่ยุโรป แต่ในปัจจุบันพัสดุที่ถูกนำเข้ามากกว่า 97% มาจากผู้ค้าปลีกออนไลน์ ด้วยวิธีนี้ทำให้ Temu และ Shein ได้เข้ามาพิชิตตลาดค้าปลีกออนไลน์ในยุโรปด้วยผลิตภัณฑ์ และบริการของพวกเขา ตัวอย่างเช่น ผู้ผลิตชาวจีนนำเสนอผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้า และอาหารเสริมราคาถูก โดยผลิตภัณฑ์หลายชนิดมีราคาต่ำกว่าหนึ่งยูโร แต่สินค้าส่วนใหญ่มักมีคุณภาพต่ำ และมักจะปนเปื้อนด้วยโลหะหนัก หรือสารมลพิษอื่น ๆ Shein กล่าวว่า On-Demand-Modell (รูปแบบตามความต้องการ)” ของบริษัทมีเป้าหมายเพื่อ ลดการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียของวัสดุ และลดจำนวนสินค้าค้างโกดังให้เหลือน้อยที่สุด Shein กล่าวต่อว่า “ทีมงานของเรากำกับดูแล และปฏิบัติตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรป และจะทำงานร่วมกับพันธมิตรในระดับ EU และรัฐบาลกลางของประเทศสมาชิก EU ต่าง ๆ อีกด้วย” คณะกรรมาธิการ EU มีความต้องการมานานแล้วที่จะยกเลิกข้อจำกัดการยกเว้นสำหรับพัสดุดังกล่าว และในเอกสารดังกล่าว ขณะนี้ EU กำลังเร่งรัดให้ประเทศสมาชิก EU ดำเนินการปฏิรูประบบศุลกากรโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้รัฐบาลของประเทศสมาชิก EU ยังคงขัดขวางการปฏิรูปดังกล่าวในสภา EU เหนือสิ่งอื่นใด การปฏิรูปศุลกากรนี้น่าจะช่วยทำให้ให้มีการใช้งงานหน่วยงานศุลกากรของยุโรป เนื่องจากหน่วยงานศุลกากรของประเทศต่าง ๆ มีภาระงานมากเกินไป

 

จาก Handelsblatt 24 กุมภาพันธ์ 2568

thThai