สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว ดำเนินการโครงการส่งเสริมภาพลักษณ์และส่งเสริมการขายสินค้าข้าวไทย ผ่านช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ในตลาดจีน ภายใต้แนวคิด “Think Rice, Think Thailand” ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 และต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมีนาคม 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงภาพลักษณ์ที่พรีเมียมของข้าวไทย รวมถึงขยาย   ช่องทางการจำหน่ายแบบออนไลน์ ให้สินค้าข้าวไทยเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้นผ่านสื่อออนไลน์และ Social Media จนนำไปสู่การขยายการส่งออกข้าวไทยไปตลาดจีนทั้งเชิงปริมาณและมูลค่า

 

กิจกรรมรูปแบบออฟไลน์

การจัดบูธในงาน “Chinese New Year Shopping Festival” ระหว่างวันที่ 21 – 26 มกราคม 2568 ณ ลานกลางแจ้ง ห้างสรรพสินค้า Living Mall เมืองกวางโจว มีการจัดแสดงและแจกสินค้าตัวอย่างข้าวไทย จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ และเชิญร้านอาหารที่ได้รับตรา Thai SELECT มาสาธิตการทำอาหารจากข้าวไทย เช่น ข้าวเหนียวมะม่วง เป็นต้น นอกจากนี้ KOL ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 6 แสนคน ยังได้มาเยี่ยมชมงานและถ่ายทำวิดีโอประชาสัมพันธ์กิจกรรมครั้งนี้บนช่องทางออนไลน์ด้วย

 

สคต. กวางโจว จัดกิจกรรมส่งเสริมข้าวไทยในตลาดจีนด้วยแนวคิด "Think Rice, Think Thailand" สคต. กวางโจว จัดกิจกรรมส่งเสริมข้าวไทยในตลาดจีนด้วยแนวคิด "Think Rice, Think Thailand" สคต. กวางโจว จัดกิจกรรมส่งเสริมข้าวไทยในตลาดจีนด้วยแนวคิด "Think Rice, Think Thailand"สคต. กวางโจว จัดกิจกรรมส่งเสริมข้าวไทยในตลาดจีนด้วยแนวคิด "Think Rice, Think Thailand"สคต. กวางโจว จัดกิจกรรมส่งเสริมข้าวไทยในตลาดจีนด้วยแนวคิด "Think Rice, Think Thailand"

 

กิจกรรมรูปแบบออนไลน์

สคต.กวางโจว ได้เข้าร่วมถ่ายทำรายการอาหาร ร่วมกับพิธีกรที่มีชื่อเสียง และ KOL ซึ่งจะออกอากาศทางสื่อโทรทัศน์ช่องทีวีกวางตุ้งรวมทั้งสิ้น 8 ตอน โดยถ่ายทำที่ร้านอาหารไทย 4 ร้าน ร้านอาหารจีน 3 ร้าน และถ่ายทำที่บ้านพักกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว มีการสาธิตการปรุงอาหารไทยที่ใช้ข้าวไทยเป็นวัตถุดิบหลัก อาทิ ข้าวผัดกะเพรา ข้าวผัดมันกุ้ง ของหวานที่ทำจากข้าวเหนียว เป็นต้น มีการแนะนำลักษณะพิเศษของข้าวหอมมะลิไทย ตลอดจนการประชาสัมพันธ์ตรารวงข้าวซึ่งเป็นสัญลักษณ์รับรองข้าวหอมมะลิไทยจากกระทรวงพาณิชย์ และรหัสบาร์โค้ดบนบรรจุภัณฑ์ที่ขึ้นต้นด้วย 885 ซึ่งจะเป็นสินค้าข้าวจากประเทศไทย เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภคชาวจีนในการเลือกซื้อข้าวไทย นอกจากการประชาสัมพันธ์ผ่านรายการโทรทัศน์แล้ว ยังมีการจำหน่ายสินค้าข้าวไทยบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของรายการฯ ในราคาพิเศษ เพื่อส่งเสริมการขายในช่องทางออนไลน์ด้วยเช่นกัน

 

สคต. กวางโจว จัดกิจกรรมส่งเสริมข้าวไทยในตลาดจีนด้วยแนวคิด "Think Rice, Think Thailand" สคต. กวางโจว จัดกิจกรรมส่งเสริมข้าวไทยในตลาดจีนด้วยแนวคิด "Think Rice, Think Thailand" สคต. กวางโจว จัดกิจกรรมส่งเสริมข้าวไทยในตลาดจีนด้วยแนวคิด "Think Rice, Think Thailand" สคต. กวางโจว จัดกิจกรรมส่งเสริมข้าวไทยในตลาดจีนด้วยแนวคิด "Think Rice, Think Thailand" สคต. กวางโจว จัดกิจกรรมส่งเสริมข้าวไทยในตลาดจีนด้วยแนวคิด "Think Rice, Think Thailand" สคต. กวางโจว จัดกิจกรรมส่งเสริมข้าวไทยในตลาดจีนด้วยแนวคิด "Think Rice, Think Thailand" สคต. กวางโจว จัดกิจกรรมส่งเสริมข้าวไทยในตลาดจีนด้วยแนวคิด "Think Rice, Think Thailand" สคต. กวางโจว จัดกิจกรรมส่งเสริมข้าวไทยในตลาดจีนด้วยแนวคิด "Think Rice, Think Thailand"

 

การนำเสนอกิจกรรมบูรณาการทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์นี้ คาดว่าจะสร้างยอดการรับรู้และการมีส่วนร่วมตลอดทั้งโครงการฯ มากกว่า 8.5 ล้านครั้ง โดยเป็นการเข้าถึงทางรูปแบบออนไลน์ มากกว่าร้อยละ 94 จากจำนวนทั้งหมด และจะสามารถกระตุ้นความนิยมข้าวไทยในหมู่ผู้บริโภคชาวจีนได้มากขึ้น

 

 

ผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่อประเทศไทย และแนวทางการปรับตัวของภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการไทย

 

ปี 2567 จีนนำเข้าข้าวทั้งสิ้น 1.62 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 920 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็น  การนำเข้าข้าวจากไทย 4.32 แสนตัน มูลค่านำเข้า 294.57 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แม้ข้าวไทยจะยังคงมีสัดส่วนที่มากเป็นอันดับหนึ่ง แต่อัตราการเติบโตลดลงร้อยละ 1.27 เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาชาวจีนบริโภคข้าวนำเข้าน้อยลง อีกทั้งไทยมีคู่แข่งในตลาดจีนจำนวนมาก ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดข้าวของไทยลดลง

 

อย่างไรก็ตาม จากสถิติที่ผ่านมา มณฑลกวางตุ้งนับว่าเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในการนำเข้าข้าวไทย ซึ่งในปี 2567 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 67.95 ของการนำเข้าข้าวไทยทั้งหมดของจีน สคต.กวางโจวเล็งเห็นว่า พื้นที่ทางตอนใต้ของจีน โดยเฉพาะในมณฑลกวางตุ้งเป็นตลาดที่มีศักยภาพ เนื่องจากคนส่วนใหญ่นิยมบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก ผู้บริโภคมีกำลังซื้อและนิยมสินค้าไทย/อาหารไทย จึงเห็นควรใช้โอกาสส่งเสริมข้าวไทยในทุกช่องทาง โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ ซึ่งในปัจจุบันเป็นช่องทางที่มีผู้บริโภคชาวจีนกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงได้ง่ายที่สุด และเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพสูงในการประชาสัมพันธ์และจำหน่ายสินค้า อีกทั้ง สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคว่าข้าวไทยมีคุณภาพดี และสร้างจุดแข็งให้ข้าวไทยนั้นโดดเด่นกว่าคู่แข่ง

 

 

จัดทำโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว

26 กุมภาพันธ์ 2568

 

thThai