กระแสความนิยมของเล่นกล่องสุ่ม (Blind box toy) ในเวียดนามช่วยกระตุ้นยอดขาย ในทุกอุตสาหกรรม

เนื้อข่าว

ความนิยมที่เพิ่มขึ้นมากในของเล่นกล่องสุ่มและถุงสุ่ม โดยเฉพาะแบรนด์ Baby Three และ Labubu ส่งผลให้ยอดขายในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในเวียดนามเติบโตอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากแพลตฟอร์ม EcomHeat ของบริษัท YouNet ECI ระบุว่า ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Labubu และ Baby Three มากถึง 293,000 รายการ ผ่านร้านค้า 30 อันดับแรกบนแพลตฟอร์ม Shopee และ TikTok Shop คิดเป็นยอดขายเฉลี่ย 49,000 รายการต่อเดือน สะท้อนถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างมากต่อ
ของเล่นสะสมเหล่านี้

บริษัท Cognitive Market Research ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดได้คาดการณ์ว่า ในปี 2567 อุตสาหกรรมของเล่นกล่องสุ่มทั่วโลกมีมูลค่า 14,200 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีสัดส่วนรายได้ร้อยละ 23 หรือมากกว่า 3,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ คาดว่ารายได้จากการจำหน่ายของเล่นกล่องสุ่มจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 18,700 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปีนี้ ประมาณการว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะครองส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 31.55 คิดเป็นมูลค่า 5,900 ล้านเหรียญสหรัฐ

ในเวียดนาม แบรนด์อาหารและเครื่องดื่มกำลังขับเคลื่อนกระแสแฟชั่น “ถุงสุ่ม” ที่ได้รับความนิยมในผลิตภัณฑ์ของเล่นสะสม เช่น Baby Three ขณะที่แบรนด์ชานมไข่มุกชื่อดัง Gong Cha และ The Alley ได้นำแนวคิดนี้มาประยุกต์ใช้ โดยนำเสนอของขวัญเซอร์ไพรส์ผ่านการซื้อแบบคอมโบ ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาการให้ส่วนลด แบรนด์ร้านกาแฟ Cheese Coffee เปิดตัวแคมเปญ “Limited Edition Blind Bag”  นำเสนอแก้วสะสมในบรรจุภัณฑ์แบบปริศนา ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเวียดนาม โดยลูกค้ามีการแชร์ประสบการณ์ผ่านโซเชียลมีเดีย และแบรนด์เครื่องดื่ม Katinat ได้นำกลยุทธ์ “ถุงสุ่มของขวัญ” มาใช้ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำด้วยเป้าหมายที่จะสะสมสินค้าให้ครบชุด

นาย Do Duy Thanh กรรมการผู้จัดการบริษัท FnB กล่าวว่า แนวคิด “Blind Bag” กำลังได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในตลาดอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงกระแสชั่วคราว แต่เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดระยะยาวที่มีศักยภาพสำหรับบริษัทที่มีตลาดเป้าหมายเป็นกลุ่มวัยรุ่น เช่น ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด ร้านชานมไข่มุก หรือขนมขบเคี้ยว เนื่องจากจุดเด่นของกลยุทธ์นี้อยู่ที่การดึงดูดความอยากรู้อยากเห็นของลูกค้า และความตื่นเต้นของลูกค้าที่ได้รับ Blind Bag  ผู้ประกอบการสามารถใช้จุดเด่นนี้กระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการใช้จ่าย และเพิ่มมูลค่าการสั่งซื้อ  อย่างไรก็ตาม บริษัทต่าง ๆ ควรรักษามูลค่าของผลิตภัณฑ์ และสร้างความโปร่งใสในโอกาสการได้รับสินค้าและ Blind Bag  เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของลูกค้า ตลอดจนมูลค่าของผลิตภัณฑ์ในถุงสุ่มควรสอดคล้องกับจำนวนเงินที่ลูกค้าใช้จ่าย  หากสินค้าใน Blind Bag ที่ได้รับไม่น่าดึงดูดหรือไม่คุ้มค่ากับเงินที่จ่าย อาจส่งผลให้ลูกค้าสูญเสียความไว้วางใจในแบรนด์ได้

 (แหล่งที่มา https://vietnamnews.vn/ ฉบับวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568)

วิเคราะห์ผลกระทบ

ในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับลูกค้ากลายเป็นกุญแจสำคัญในการดึงดูดความสนใจ หนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันคือ “ของเล่นกล่องสุ่ม” (Blind Box) และ “ถุงสุ่ม” (Mystery Bag) ซึ่งสร้างความตื่นเต้นและกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำ แนวคิดนี้ไม่เพียงได้รับความนิยมในกลุ่มของเล่นสะสม แต่ยังขยายไปสู่อุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น อาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งสามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องใช้ส่วนลด

ข้อมูลจาก Metric ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสถิติด้านอีคอมเมิร์ซ พบว่า ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 ผลิตภัณฑ์ Labubu สร้างรายได้ถึง 5,200 ล้านเวียดนามด่ง หรือประมาณ 203,641 เหรียญสหรัฐ บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น Shopee, Lazada และ TikTok Shop โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 665 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีเดียวกัน  ในขณะเดียวกันกระแสของ Baby Three ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม – 15 พฤศจิกายน 2567 (ระยะเวลา 1 เดือน) ชาวเวียดนามใช้จ่ายมากกว่า 8,800 ล้านเวียดนามด่ง หรือประมาณ 344,624 เหรียญสหรัฐ เพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผ่านแพลตฟอร์ม Shopee และ TikTok Shop ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 106 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า

การสำรวจของ VnExpress พบว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 มีการตั้งกลุ่มบนโซเชียลมีเดียมากกว่า 100 กลุ่ม เพื่อใช้เป็นพื้นที่สำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลซื้อขายและสะสมของเล่น โดยแต่ละกลุ่มมีสมาชิกเฉลี่ย 50,000 – 300,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นในของเล่นกล่องสุ่มและถุงสุ่ม ซึ่งผู้บริโภคยินดีใช้จ่ายเพื่อสัมผัสประสบการณ์การลุ้น/ความตื่นเต้นเมื่อเปิดกล่องสุ่ม

กระแสดังกล่าวนี้ได้ขยายตัวไปสู่ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการขายให้ธุรกิจเติบโตและโดดเด่นในตลาดที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน

นำเสนอโอกาส/แนวทาง

กระแสความนิยมของเล่นกล่องสุ่มและถุงสุ่มได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะในตลาดเวียดนาม แบรนด์ของเล่นสะสม เช่น Baby Three และ Labubu ได้รับความสนใจอย่างมาก แนวคิดการตลาดที่ใช้ความตื่นเต้นจากการลุ้นเมื่อเปิดสินค้าในกล่องสุ่มเป็นแรงจูงใจในการซื้อสินค้าประสบความสำเร็จอย่างมาก ผู้ประกอบการไทยสามารถนำแนวคิดของเล่นกล่องสุ่มและถุงสุ่มมาปรับใช้กับอุตสาหกรรมและบริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม เช่น สินค้าหรือสติ๊กเกอร์ลิมิเต็ดเอดิชัน และด้านแฟชั่นและความงาม เช่น ธุรกิจเครื่องสำอางสามารถจัด “บิวตี้บ็อกซ์สุ่ม” ที่มีผลิตภัณฑ์ขนาดทดลองหรือรุ่นพิเศษเพื่อสร้างความน่าสนใจ ความแตกต่าง และเพิ่มยอดขาย ร่วมกับการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ และการทำตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของสินค้าในตลาดเวียดนามได้อย่างมีประสิทธิภาพ