ในช่วงสองปีที่ผ่านมา การจับคู่เมนูกาแฟกับอาหารว่างไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในตลาดจีน แต่ตั้งแต่ต้นปี 2568 เป็นต้นมา แบรนด์กาแฟต่างๆ เริ่มจำหน่ายเมนูอาหารกลางวัน ซึ่งไม่เพียงแค่จับคู่กับเมนูอาหารจานด่วนสไตล์ตะวันตกเท่านั้น บางแบรนด์ยังเริ่มจำหน่ายเมนูอาหารจานด่วนสไตล์จีนอีกด้วย ซึ่งทำให้ตลาดเกิดกระแสนิยมเป็นอย่างมาก
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 แบรนด์กาแฟ Tim Hortons China ซึ่งเป็นแบรนด์กาแฟสัญชาติแคนาดาที่เปิดสาขาในตลาดจีน โดยมีสาขาใหญ่ของแบรนด์ (Flagship Store) ที่นครเซี่ยงไฮ้โดย Tim Hortons ได้ประกาศจำหน่ายชุดเมนูอาหารกลางวัน (Lunch Box Set) “เบเกิลเบอร์เกอร์ไลท์”ทั่วทั้ง 1,000 สาขาในจีน หลังจากเปิดจำหน่ายชุดเมนูอาหารกลางวันนี้ ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคจีนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเป็นกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มวัยรุ่นที่ทำงานในออฟฟิศ สำหรับ 3 วันแรกได้รับยอดจำหน่ายเกินกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้สูงถึงร้อยละ 176 โดยเฉพาะในหัวเมืองชั้นนำอย่างนครเซี่ยงไฮ้ และนครหางโจว ชุดเมนูอาหารกลางวันนี้ได้รับความนิยมเกินความคาดหมายของแบรนด์อย่างท่วมท้น
ชุดเมนูอาหารกลางวันประกอบด้วยอาหารสามอย่างที่เลือกได้จากเบเกิลเบอร์เกอร์ 8 ชนิด สลัดผัก/ขนมว่าง 5 ชนิด และเครื่องดื่มกาแฟ 11 ชนิด ซึ่งผู้บริโภคสามารถเลือกเมนูได้ตามความชอบส่วนตัว เพื่อตอบสนองความต้องการด้านรสชาติและโภชนาการของผู้บริโภคได้อย่างเต็มที่ พร้อมรับส่วนลดร้อยละ 40 จากกิจกรรมโปรโมชั่นของปัจจุบัน ทำให้ราคาของชุดเมนูอาหารกลางวันมีเริ่มต้นที่เพียง 25.8 หยวน นอกจากนี้ ชุดเมนูอาหารกลางวันนี้ยังได้ตอบสนองความต้องการอาหารที่ดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งได้คัดเลือกเมนูอาหารที่มีไขมันและแคลรี่ต่ำอย่างพิถีพิถัน โดยการควบคุมคุณภาพและขั้นตอนการผลิตอย่างเคร่งครัด เพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการทั้งความอร่อย และสุขภาพในมื้ออาหาร พร้อมกันนี้ เครื่องดื่มทุกชนิดในชุดอาหารนี้ยังให้คำมั่นสัญญา 5 ปลอด ได้แก่ ปลอดครีมเทียม ปลอดนมผง ปลอดน้ำมันพืชไฮโดรจีเนต ปลอดกรดไขมันทรานส์ และปลอดผงชาแบบสำเร็จรูป เพื่อมอบทางเลือกที่ดีที่สุดและความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภค
นอกจากแบรนด์ Tim Hortons China แล้ว แบรนด์กาแฟในเมืองต่างๆ ของทั้งประเทศจีนก็เปิดจำหน่ายชุดเมนูอาหารกลางวันเป็นจำนวนมาก อาทิ แบรนด์ Manner Coffee จำหน่ายอาหาร บะหมี่เนื้อ ข้าวผัด สลัด ขนมว่าง โดยมีราคาตั้งแต่ 35 หยวนจนถึง 70 หยวน แบรนด์ Cotti Coffee ได้นำเมนูอาหารจีนจานแบบด่วน อาทิ ข้าวมันต้มขาไก่ ชุดเนื้อหมู ซาลาเปา และข้าวโพด ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 13.9 ต่อชุดขึ้นไป แบรนด์ BOOONS เปิดจำหน่ายชุดอาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพร่วมกับเมนูกาแฟสำหรับผู้บริโภคกลุ่มวัยรุ่นโดยเฉพาะ ราคาจำหน่ายต่อเซ็ทอยู่ที่ประมาณ 50 หยวน แบรนด์ Pick ME Coffee จำหน่ายเมนูกาแฟ กับอาหารจีนแบบจานด่วน เบเกอรี่ และขนมว่าง
ถึงวันที่ 12 มกราคม 2568 จีนมีร้านกาแฟจำนวนรวม 199,127 ร้าน ร้านที่เปิดใหม่ในปี 2567 มีจำนวน 53,462 ร้าน เพิ่มขึ้น 6,583 ร้าน ด้วยการแข่งขันสูงในตลาดกาแฟส่งผลให้ร้านกาแฟเก่ามีการปิดธุรกิจไปหลายร้าน ภายใต้เงื่อนไขที่ผู้บริโภคมีการใช้จ่ายลดลง ธุรกิจรูปแบบกาแฟร่วมกับเมนูอาหารจานด่วน เป็นวิธีที่แบรนด์กาแฟพยายามสร้างความแตกต่าง ยกระดับในการแข่งขัน และเป็นโอกาสในการสร้างสรรค์ธุรกิจรูปแบบใหม่อีกด้วย
ผู้บริโภคจีนที่นิยมบริโภคชุดอาหารดังกล่าวส่วนมากเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มทำงานออฟฟิศที่นิยมบริโภคชุดอาหารที่ดีต่อสุขภาพ จากรายงานจากบริษัท iiMedia Research (แพลตฟอร์มวิเคราะห์ตลาดบริโภคของจีน) เปิดเผยว่า สำหรับราคาจำหน่ายชุดอาหารที่กลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ทำงานออฟฟิศรับได้ คือ ผู้บริโภคร้อยละ 43.9 ยอมรับราคาที่ 20 – 30 หยวน ผู้บริโภคร้อยละ 35.7 ยอมรับราคาที่ 10 – 20 หยวน ผู้บริโภคร้อยละ 16.8 ยอมรับราคาที่ 30 – 40 หยวน ผู้บริโภคร้อยละ 2 ยอมรับราคาน้อยกว่า 10 หยวน และผู้บริโภคร้อยละ 1.6 ยอมรับราคาที่ 40 – 50 หยวน
ความเห็น สคต. ณ เมืองหนานหนิง เมื่อก่อนร้านกาแฟส่วนใหญ่เน้นจำหน่ายกาแฟและเป็นพื้นที่ให้บริการพักผ่อนกับผู้บริโภคเป็นหลัก แต่ด้วยการแข่งขันในตลาดที่รุนแรงขึ้น ประกอบกับการยกระดับความต้องการผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันร้านกาแฟจำนวนมากขึ้นเริ่มขยายขอบเขตการให้บริการ โดยเพิ่มบริการอาหารเช้า อาหารกลางวัน และอาหารเย็น กลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ทำงานออฟฟิศเป็นแรงผลักดันหลักของแนวโน้มนี้ พวกเขาต้องการไลฟ์สไตล์ที่มีประสิทธิภาพและดีต่อสุขภาพ พร้อมกับมีข้อกำหนดสูงในเรื่องสภาพแวดล้อมและคุณภาพการให้บริการของร้านอาหาร ดังนั้น เมนูอาหารแบบง่ายๆ และรวดเร็วที่ร้านกาแฟไม่เพียงตอบสนองความต้องการอิ่มท้องในมื้อเร่งด่วน แต่ยังช่วยยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหารผ่านการจัดจานที่สวยงามและวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ ในอนาคตร้านกาแฟยังคงพัฒนาต่อยอดธุรกิจไปในทิศทางที่หลากหลายมากขึ้น แนวโน้มที่กลุ่มผู้บริโภครับประทานอาหารทั้งสามมื้อในหนึ่งวันที่ร้านกาแฟจะสะท้อนให้เห็นถึงการยกระดับของพฤติกรรมบริโภค และเป็นผลลัพธ์ของการพัฒนาและการสร้างสรรค์ของธุรกิจร้านกาแฟในตลาดจีน ทั้งนี้ แนวโน้มธุรกิจนี้ถือว่าเป็นแนวคิดแบบสร้างสรรค์สำหรับร้านกาแฟไทยในการพัฒนาธุรกิจ ด้วยอาจเป็นการสร้างสรรค์เมนูใหม่ที่สอดคล้องกับกระแสความต้องการของผู้บริโภค หรือสร้างเมนูใหม่ที่ผสมผสานวัฒนธรรมท้องถิ่นเพื่อดึงดูดผู้บริโภค ซึ่งประเทศไทยเมนูอาหารท้องถิ่นนั้นมีอัตลักษณ์และมีภาพลักษณ์ที่ดี และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในระดับนานาชาติ ในขณะเดียวกัน สำหรับธุรกิจร้านกาแฟไทยที่ประสงค์มาเปิดตลาดจีน แนวคิดธุรกิจที่กล่าวข้างต้นสามารถนำมาเป็นตัวอย่างในการพิจารณาต่อยอดธุรกิจได้ อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการไทยยังคงต้องศึกษาข้อมูลแนวโน้มของตลาดเพิ่มเติมเพื่อวางแผนธุรกิจให้เหมาะสมและสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน
——————————————————————————————–
แหล่งที่มา: https://www.163.com/dy/article/JPN9SS3C0514HDQI.html
https://mp.weixin.qq.com/s/zYN3enwCmR_QeU_7JWrk2A
https://mp.weixin.qq.com/s/pHThOkT-JZ0CBpn-z1V9yA
https://mp.weixin.qq.com/s/54jOOIqEm7EMfPrUYk-FYg
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองหนานหนิง
วันที่ 5 มีนาคม 2568