กาแฟเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมอันดับต้นในญี่ปุ่น โดยคาดการณ์ปริมาณการบริโภครวม (ภายในครัวเรือน และภาคธุรกิจบริการ) ในปี 2568 ที่ 223.7 ล้านตัน มูลค่า 34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2573 คาดว่ามูลค่าจะสูงถึง 45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ อัตราขยายตัวเฉลี่ยในช่วงปี 2567-2573 อยู่ที่ร้อยละ 4.2

แม้ว่าในช่วงปีที่ผ่านมา ตลาดกาแฟญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัวลดลงตามการหดตัวของการบริโภคกาแฟผงสำเร็จรูป (Instant coffee) และกาแฟกระป๋อง ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดกาแฟเป็นสำคัญ หากแต่ปัจจัยเอื้อในการขยายตัว คือ ความนิยมกาแฟคั่วบด และเมล็ดกาแฟ ที่เพิ่มขึ้นตามเทรนด์ชงดื่มเองที่บ้าน (Home-brewed) ตามการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหลังวิกฤติ Covid-19 จากการดื่มที่ร้าน เป็นนำกลับ หรือชงดื่มเอง และตามกระแสบริโภคกาแฟพรีเมียมที่มีคุณภาพสูง โดยในปี 2566 มูลค่าการค้ากาแฟคั่วบด และเมล็ดกาแฟอยู่ที่ 412 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 26 เทียบกับปี 2560

ในการนี้ ผู้ผลิตกาแฟ โดยเฉพาะรายใหญ่อย่าง Nestlé Japan จึงเร่งกระตุ้นตลาดกาแฟผงสำเร็จรูป โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางเลือกใหม่ๆ เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ตามกระแสรักสุขภาพ “Caffeine Half” ที่มีปริมาณคาเฟอีนครึ่งหนึ่งของกาแฟปกติขณะที่คงรสชาติเข้มข้น เพิ่มจากกาแฟไม่มีคาเฟอีน (Decaf) ที่เข้าสู่ตลาดก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งนี้ ร้อยละ 30 ของผู้บริโภคในญี่ปุ่น โดยเฉพาะช่วงอายุ 20-39 ปี เลี่ยงการดื่มกาแฟเนื่องจากผลข้างเคียงของคาเฟอีน

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา กาแฟไม่มีคาเฟอีน/ลดปริมาณคาเฟอีนครองสัดส่วนตลาดเพียงร้อยละ 4 หากแต่มีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดว่าภายในปี 2573 จะขยายตัวถึงร้อยละ 20 ทั้งนี้ กาแฟ Caffeine Half ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการคุมปริมาณคาเฟอีนได้รับการตอบรับที่ดีจากการจำหน่ายในแพลตฟอร์มออฟไลน์ (ร้านค้าปลีก/ร้านขายยา Sugi และ Welcia) และออนไลน์ (Amazon)

———————————————————————————-

ที่มาของข่าว:

https://www.nikkei.com

https://mainichi.jp

thThai