ที่มาภาพ: https://www.moomoo.com/hans/news/post/46655664/0-5-billion-aesthetic-culture-ignites-the-millet-economy-saving?level=1&data_ticket=1741161789517925
ความหมายของ Guzi economy
Guzi (谷子) มาจากคำทับศัพท์ของ “goods” ในภาษาอังกฤษ ซึ่งหมายถึงสินค้าที่มาจากทรัพย์สินทางปัญญา (IP) เช่น การ์ตูน แอนิเมชัน เกม หรือไอดอล เป็นต้น สินค้ามีหลากหลายชนิด เช่น ป้าย โปสเตอร์ การ์ด จี้ สแตนดี้ ฟิกเกอร์ และตุ๊กตา เป็นต้น สินค้าเหล่านี้มักเน้นจุดเด่นที่ใช้ IP กับสินค้าที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และทำจากวัสดุราคาไม่แพง
“การกิน Guzi” หมายถึงการซื้อสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ IP เช่น ป้ายและสแตนดี้ IP เป็นต้น
ร้านค้าที่ขายสินค้า IP มักจะเรียกว่า “Zidian” (ภาษาไทยอ่านว่า “จือเตี้ยน”)
Guzi สามารถแบ่งออกได้หลายรูปแบบ หากแบ่งตามประเภทและวัสดุ สามารถแบ่งได้เป็น อะคริลิก ผลิตภัณฑ์กระดาษ และตุ๊กตา เป็นต้น หากแบ่งตามลิขสิทธิ์ สามารถแบ่งได้เป็น Guzi ออฟิเชียล Guzi แฟนเมค และ Guzi self-printed เป็นต้น
บริษัทใหญ่ในอุตสาหกรรม ได้แก่ Bandai (万代) AIMON (艾漫) Kayou (卡游) และ Chaowan Planet (潮玩星球)
ที่มาภาพ: https://www.iimedia.cn/c1020/103831.html
แผนที่ห่วงโซ่อุตสาหกรรม Guzi Economy ของจีน
ที่มาภาพ: https://www.iimedia.cn/c1020/103831.html
การเติบโตของ IP แอนิเมชันช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาของ “Guzi Economy”
ในช่วงทศวรรษ 1990 การเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นหยุดชะงัก และการ์ตูน แอนิเมชัน และเกมค่อย ๆ กลายมาเป็นกระแสหลักของการบริโภคในหมู่เยาวชนญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2534 ถึงปี 2553 ผลงานแอนิเมชันคลาสสิกหลายเรื่องได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในประเทศจีน ตัวอย่างเช่น แขนกล คนแปรธาตุ (钢之炼金术师: Fullmetal Alchemist) นินจาคาถา โอ้โฮเฮะ (Naruto: 火影忍者) วันพีซ (One Piece: 海贼王) โคนัน (Detective Conan: 名侦探柯南) เป็นต้น ผู้บริโภคในประเทศเริ่มกลายเป็นแฟนอนิเมะญี่ปุ่นและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ IP ญี่ปุ่น ด้วยการเพิ่มขึ้นของ IP เกมและแอนิเมชันในประเทศของจีน ผู้บริโภคจีนจึงค่อย ๆ หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ลาย IP แอนิเมชัน ซึ่งเป็นการส่งเสริมการพัฒนา “Guzi economy” ของจีนอย่างต่อเนื่อง
ที่มาภาพ: https://www.iimedia.cn/c1020/103831.html
คนรุ่นใหม่มีความต้องการผลิตภัณฑ์ “ทรัพย์สินทางปัญญาร่วมแบรนด์ (Co-Branded IP)” มากขึ้น
จากการวิจัยของ iiMedia Research แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าในชีวิตประจำวันที่ออกแบบร่วมกับดีไซเนอร์/IP มากขึ้น การออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะและสไตล์ที่สนุกสนานน่าสนใจของผลิตภัณฑ์ร่วมแบรนด์ IP จะดึงดูดความสนใจของคนรุ่นใหม่ได้ดีกว่า นักวิเคราะห์เชื่อว่าผลิตภัณฑ์ที่อิงตาม IP อนิเมะยอดนิยมจะดึงดูดใจกลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่ได้ดีกว่า
ที่มาภาพ: https://www.iimedia.cn/c1020/103831.html
ความหมายของอุตสาหกรรมแอนิเมชัน
อุตสาหกรรมแอนิเมชันเป็นอุตสาหกรรมที่มีส่วนร่วมโดยตรงในการพัฒนา การผลิต การเผยแพร่ การออกอากาศ การแสดงและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์แอนิเมชัน รวมถึงการผลิตและการดำเนินงานผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น เสื้อผ้า ของเล่น เกมอิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับแอนิเมชันอื่น ๆ
อุตสาหกรรมแอนิเมชันเน้นที่ “ความคิดสร้างสรรค์” และใช้แอนิเมชันและการ์ตูนเป็นรูปแบบการแสดงออก ผลิตภัณฑ์ทางธุรกิจหลัก ได้แก่ หนังสือแอนิเมชัน หนังสือพิมพ์ ภาพยนตร์ โทรทัศน์ ผลิตภัณฑ์โสตทัศน์ ละครเวที และแอนิเมชันประเภทใหม่ ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสมัยใหม่
มูลค่าผลผลิตรวมของอุตสาหกรรมแอนิเมชันของจีน
มูลค่าผลผลิตรวมของอุตสาหกรรมแอนิเมชันของจีนโดยรวมมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น ตามข้อมูลจากสมาคมแอนิเมชันแห่งประเทศจีน (中国动画协会) มูลค่าผลผลิตรวมของอุตสาหกรรมแอนิเมชันของจีนแตะระดับ 3 แสนล้านหยวน (ประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท) ในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 2564 นักวิเคราะห์เชื่อว่าอุตสาหกรรมแอนิเมชันของประเทศจีนกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และขนาดตลาดยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ที่มาภาพ: https:/ https://www.iimedia.cn/c1020/105122.html
ตลาดสินค้า IP ของจีนมีมูลค่าเกิน 1 แสนล้านหยวน
ยอดขายปลีกโดยรวมของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ IP ของจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2562 ถึงปี 2566 โดยยอดขายปลีกของผลิตภัณฑ์ที่มีใบอนุญาต IP ของจีนแตะที่ 1.4 แสนล้านหยวน (ประมาณ 7 แสนล้านหยวน) ในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.1 พันล้านหยวน (ประมาณ 5.5 พันล้านบาท) นับตั้งแต่ปี 2565 นักวิเคราะห์เชื่อว่าด้วยการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาด IP ของจีนและความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น ผู้ถือสิทธิ์ในลิขสิทธิ์จึงวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ IP อย่างต่อเนื่อง และสร้างรายได้เพิ่มเติมจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้ผ่านการมอบลิขสิทธิ์ และวิธีการอื่น ๆ
ที่มาภาพ: https:/ https://www.iimedia.cn/c1020/105122.html
เมื่อตลาดแอนิเมชันขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ความสำคัญของ IP (ทรัพย์สินทางปัญญา) ก็มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตลาดแอนิเมชันของจีนกำลังเคลื่อนตัวไปสู่ ”IPization (IP化)” มากขึ้น ซึ่งก็คือการพัฒนาและการดำเนินงานของ IP ซึ่งหัวใจสำคัญของ IP อยู่ที่นวัตกรรมและความเป็นเอกลักษณ์ของเนื้อหา ตลาดแอนิเมชันของจีนกำลังค่อย ๆ พัฒนาและมีความแตกต่างจากรูปแบบเก่าของการเลียนแบบและทำตามกระแส และหันมามุ่งเน้นไปที่การปลูกฝังและพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญาต้นฉบับแทน IP ที่ยอดเยี่ยมไม่เพียงแต่จะดึงดูดแฟน ๆ ได้เป็นจำนวนมากเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างรายได้จากการถือลิขสิทธิ์อีกด้วย ซึ่งนำมาซึ่งกำไรมหาศาลให้กับบริษัทแอนิเมชัน ในเวลาเดียวกัน IP ยังได้สร้างผลิตภัณฑ์ต่อยอดได้อีกมากมาย เช่น ป้าย ตัวเลข โปสเตอร์ เป็นต้น ผลิตภัณฑ์จาก IP เหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยตอบสนองความต้องการในการสะสมของแฟน ๆ เท่านั้น แต่ยังมอบเส้นทางในการสร้างกำไรให้แก่บริษัทแอนิเมชันอีกด้วย
นอกจากนี้ เทรนด์ดิจิทัลยังมอบความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นในการเผยแพร่และสร้างรายได้จาก IP แอนิเมชัน ผ่านแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ต IP แอนิเมชันสามารถเข้าถึงผู้ชมทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วและเผยแพร่ข้ามภูมิภาคและข้ามวัฒนธรรมได้ ในเวลาเดียวกัน ระบบดิจิทัลยังเพิ่มความเป็นไปได้มากขึ้นสำหรับการนำทรัพย์สินทางปัญญาแอนิเมชันไปใช้ในเชิงพาณิชย์ เช่น การรับชมแบบชำระเงินออนไลน์ ระบบสมาชิก การลงโฆษณา การถ่ายทอดสด เป็นต้น โมเดลดิจิทัลเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนการโปรโมต IP ของแอนิเมชันเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้อีกด้วย
แนวโน้ม “IPization” ของตลาดแอนิเมชันของจีนจะชัดเจนมากขึ้นในอนาคต ซึ่งไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นในการเพิ่มปริมาณและพัฒนาคุณภาพของผลงานแอนิเมชันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสำรวจเชิงลึกและการรับรู้มูลค่า IP ที่หลากหลายอีกด้วย ด้วยการพัฒนาและกระจายความหลากหลายของ IP แอนิเมชันอย่างต่อเนื่อง ตลาดแอนิเมชันของจีนจะนำไปสู่โอกาสการพัฒนาที่กว้างขึ้นและความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัด
ข้อคิดเห็นของสคต.เซี่ยงไฮ้
IP แอนิเมชัน มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ใน ตลาดจีน และกลุ่มเป้าหมายจะขยายออกไปหลากหลายช่วงวัยมากขึ้น IP ที่ได้รับความนิยมสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ต่อยอดได้อีกมากมายและสามารถสร้างรายได้จากการถือลิขสิทธิ์ ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้ามาตีตลาดในประเทศจีนผ่านตลาดแอนิเมชันได้ สามารถซื้อลิขสิทธิ์ IP ต่าง ๆ ที่กำลังได้รับความนิยมและสร้างผลิตภัณฑ์ของตนเองต่อยอดจาก IP นั้น ๆ เพื่อสร้างการรับรู้ของผู้บริโภคชาวจีนโดยอาศัยชื่อเสียงของ IP ให้ผู้บริโภคมีความสนใจ และเปิดใจยอมรับสินค้า เช่น การนำ IP มาสร้างโฆษณาผลิตภัณฑ์ การนำ IP มาขึ้นแบนเนอร์โฆษณาสินค้า หรือการนำ IP มาสร้างฉลากผลิตภัณฑ์ลายพิเศษ เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้ประกอบการไทยที่ถือลิขสิทธิ์ IP ของตนเองและพอเป็นที่รู้จักในกลุ่มชาวจีนสามารถเข้ามาตีตลาดในจีนได้โดยนำผลิตภัณฑ์จาก IP ของตนเองมาจำหน่าย หรือขายลิขสิทธิ์ IP ให้แก่บริษัทจีนที่ให้ความสนใจนำ IP ไปต่อยอดและสร้างกำไรร่วมกัน
________________________________________________________________________________
จัดทำโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้
วันที่ 14 มีนาคม 2568
แหล่งที่มา
https://www.iimedia.cn/c1020/103831.html
https://www.iimedia.cn/c1020/105122.html