“กัมพูชาครองอันดับหนึ่ง อัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงานสูงสุดในอาเซียน”

รายงานล่าสุดจากสำนักงานเลขาธิการอาเซียน ระบุว่า กัมพูชามีอัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงาน (Labour Force Participation Rate: LFPR) สูงที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน
LFPR เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ใช้ติดตามภาคแรงงานของประเทศต่างๆ โดยคำนวณจากสัดส่วนของประชากรวัยทำงานที่เข้าร่วมในตลาดแรงงาน ทั้งในฐานะผู้มีงานทำหรือผู้หางาน อัตรานี้สะท้อนถึงขนาดของอุปทานแรงงานที่พร้อมสำหรับการผลิตสินค้าและบริการ เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรวัยทำงานทั้งหมด
กัมพูชามีอัตราการมีส่วนร่วมสูงสุด โดยอยู่ที่ 82.6% ในปี 2014 และเพิ่มขึ้นเป็น 83.7% ในปี 2023 ขณะที่ไทยและเวียดนามมีอัตราการมีส่วนร่วมสูงในปี 2014 ที่ 70.3% และ 77.5% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเทศเผชิญกับการลดลงอย่างมีนัยสำคัญในปี 2023 โดยไทยลดลงเหลือ 68.6% และเวียดนาม 68.9%
รายงานยังระบุว่า อัตราการมีส่วนร่วมของแรงงานหญิงในกัมพูชาอยู่ในระดับสูงถึง 78.9% เทียบกับเวียดนามที่ 62.9% และไทยที่ 60.9% ขณะที่อัตราการมีส่วนร่วมของแรงงานทั้งชายและหญิงต่ำที่สุดพบในลาว โดยอยู่ที่ 52.6% และ 41.9% ตามลำดับ
ธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) เผยแพร่รายงาน Country Diagnostic Study (CDS) โดยระบุว่า กัมพูชามุ่งมั่นสู่เป้าหมายการเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับสูงภายในปี 2030 จึงให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนทุนมนุษย์ในระบบเศรษฐกิจ แม้ว่ากัมพูชาจะมีความก้าวหน้าในการพัฒนาแรงงานโดยรวม แต่ประสิทธิภาพการทำงานของแรงงานยังคงต่ำเมื่อเทียบกับศูนย์กลางการผลิตอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ความเห็นของสำนักงานฯ

กัมพูชามีอุปทานแรงงานพร้อมรองรับการผลิตสินค้าและบริการ โดย ปัจจุบันมีค่าแรงขั้นต่ำ 208 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน ซึ่งเป็นจุดแข็งในการดึงดูดการลงทุน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นและต้องการต้นทุนต่ำ ส่งผลให้กัมพูชาเป็นฐานการผลิตสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของโลก
เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติและสร้างงานให้คนในท้องถิ่น รัฐบาลกัมพูชา จึงออกกฎหมายการลงทุน พร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษี และส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษครบวงจร ให้กับนักลงทุน โดยปี 2024 รัฐบาลอนุมัติโครงการลงทุน 414 โครงการ รวมมูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเกือบ 40% จากปี 2023 ส่งผลให้เศรษฐกิจกัมพูชาขยายตัว และรัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น โอกาสนี้ จึงส่งผลดีต่อผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายตลาดไปยังกัมพูชา โดยชาวกัมพูชานิยมสินค้าไทย ถือว่าสินค้าไทยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ และราคาเข้าถึงได้

———————————————-

ที่มา: Khmer Times

มีนาคม 2568