ตลาดเครื่องประดับในสวิตเซอร์แลนด์ปี 2024 และแนวโน้มในอนาคต

 ในปี 2024 ที่ผ่านมามูลค่าขายปลีกของเครื่องประดับในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  เครื่องประดับประเภทไฟน์จิวเวลรี่ (Fine Jewellery) หรือเครื่องประดับที่ใช้อัญมณีตกแต่งมูลค่าสูงมียอดขายปลีกเพิ่มขึ้น 2 % และมียอดขายปัจจุบันอยู่ที่ 763.2 ล้านฟรังก์สวิส เมื่อเทียบกับเครื่องประดับประเภทแฟชั่น  (Costume Jewellery)  ที่มีการใช้วัสดุที่มีมูลค่าถูกลง และเน้นความสวยงามมากกว่า อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบปริมาณการขาย เครื่องประดับแฟชั่นขายได้ในปริมาณมากกว่าเครื่องประดับไฟน์จิวเวลรี่ โดยสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากราคาทองคำที่พุ่งขึ้นสูง ทำให้ราคาเครื่องประดับสูงขึ้น และจับต้องได้ยาก จึงทำให้เครื่องประดับแฟชั่นประสบความสำเร็จอย่างมากในประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ โดยมีปริมาณการขายปลีกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้รับความสนใจอย่างมากในกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นที่มองหาสินค้าราคาที่เข้าถึงได้และทันสมัย

ในด้านเครื่องประดับทองเผชิญกับความท้าทายจากราคาทองคำสูงในปี 2024 โดยทำให้ผู้ซื้อบางกลุ่มไม่สามารถเข้าถึงได้ และหันไปซื้อวัสดุที่มีราคาถูกกว่า อย่างไรก็ตามเครื่องประดับทองคำอาจมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากผู้ซื้อที่ต้องการซื้อทองมาเพื่อเก็งกำไร โดยเฉพาะเมื่อราคาเริ่มคงที่หรือมีแนวโน้มลดลง ในขณะเดียวกันวัสดุเงิน คาดว่าจะเป็นโลหะที่ได้รับความนิยุมสูงสุดจนถึงปี 2029 เนื่องจากราคาที่เข้าถึงได้ง่ายเมื่อเทียบกับทองคำ รวมกับปัจจัยความยั่งยืน ความสวยงาม และหลากหลาย สำหรับโลหะที่มีค่าอื่น ๆ เช่น ไทเทเนียม คาดว่าจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากความเสถียรและทนทานสูง รวมทั้งราคาต่อหน่วยที่ไม่แพง หากผู้ซื้อต้องการทั้งความคุ้มค่า คุณภาพ และความเป็นเอกลักษณ์ของวัสดุไทเทเนียม

ความสนใจสินค้าประเภทเพชรที่ผลิตในห้องแล็ป หรือเพชรสังเคราะห์ยังคงค่อนข้างต่ำ ส่งผลให้ราคาในตลาดลดลง บวกกับจำนวนผู้ผลิตที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อกระตุ้นยอดขาย ธุรกิจบางรายใช้กลยุธท์ที่มุ่งเน้นถึงนวตกรรมที่ทันสมัย และความยั่งยืน อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การตลาดนี้ยังไม่ประสบผลสำเร็จ และถือเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่มเท่านั้นในประเทศสวิตเซอร์แลนด์  อย่างไรก็ตามในอนาคตคาดว่าเพชรสังเคราะห์จะกลายเป็นสินค้าที่ได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากกระแสเรื่องความยั่งยืน และราคาที่จับต้องได้ นอกจากนี้ผู้บริโภคยังตระหนัก และให้ความสำคัญเกี่ยวกับกระบวนการ ที่มาของวัสดุที่มีจริยธรรม และการรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น    นวัตกรรมที่ใช้ผลิตจะต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ความยั่งยืนจึงกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการซื้อ ทำให้คาดการ์ณว่าวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ทองคำรีไซเคิล คาดว่าจะกลายเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น

พฤติกรรมผู้ซื้อสินค้าชาวสวิสส่วนใหญ่จัดว่ามีฐานะการเงินที่ดี และมีความชื่นชอบผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม ทำให้คาดว่ายอดขายเครื่องประดับประเภทไฟน์จิวเวลรี่จะเพิ่มขึ้น และจะรักษาส่วนแบ่งการตลาดที่สำคัญในแง่มูลค่าการขายโดยรวมได้ โดยในปี 2024 บริษัท Cartier International ยังคงเป็นผู้นำในการขายเครื่องประดับ โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 11 %  ด้วยภาพลักษณ์ด้านเครื่องประดับชั้นดีที่โดดเด่น และเป็นที่ต้องการ ทำให้แบรนด์ Cartier ครองตำแหน่งผู้นำในตลาดสินค้าประเภทหรูหรา ถูกจัดให้เป็นประเภทสินค้าหรูระดับเอ็กซ์คลูซีฟ และมีราคาสูง แม้สภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน แต่ชื่อเสียงของแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสัญลักษณ์ของความพิเศษ นอกจากนั้นผู้ซื้อยังมองว่าเป็นการซื้อเพื่อลงทุน และสามารถให้ผลตอบแทนได้ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่าสินค้าเครื่องประดับทุกประเภทจะมียอดขายที่ต่ำลงในอนาคตเนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ผู้บริโภคจำนวนมากอาจมองหาเครื่องประดับที่ดูดีและมีคุณภาพด้วยราคาที่ต่ำลง โดยเฉพาะเครื่องประดับประเภทแฟชั่น

ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ

ปัจจุบัน ผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญกับเอกลักษณ์และความสวยงามของเครื่องประดับมากขึ้น เครื่องประดับที่มีราคาจับต้องได้และสวยงามจึงได้รับความนิยมมากกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องประดับความหรูหราที่มีราคาสูง นอกจากนี้ตลาดสวิตเซอร์แลนด์ยังให้ความสำคัญกับเรื่องจริยธรรม สิ่งแวดล้อม และราคาที่สามารถเข้าถึงได้ ผู้ผลิตควรเน้นการผลิตเครื่องประดับที่มีความหมายและเอกลักษณ์เฉพาะตัว หรือแสดงให้เห็นถึงคุณค่า เช่น การเปิดเผยที่มาของวัสดุ เพื่อสร้างความโดดเด่นและเพิ่มมูลค่าให้กับเครื่องประดับ

 

ที่มา: Euromonitor International, มกราคม 2025

thThai