ประเทศไทยรีเทิร์นงาน Salón Gourmets 2025 ณ กรุงมาดริด ปังเกินคาด

วันที่ 7–10 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ประเทศไทยกลับมาอย่างกึกก้องอีกครั้งในงาน Salón Gourmets 2025 ณ ศูนย์แสดงสินค้า IFEMA Madrid ประเทศสเปน ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับพรีเมียมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยคูหาไทยได้รับการกล่าวถึงอย่างกว้างขวางว่านำเสนอแนวคิด (concept) โดดเด่น ผลิตภัณฑ์น่าสนใจ บรรยากาศคึกคัก สามารถดึงดูดผู้ประกอบการจากทั่วโลก เชฟระดับประเทศ สื่อมวลชน Influencer และผู้สนใจทั่วไป มีผู้เข้าเยี่ยมคูหากว่า 12,000 ราย สามารถสร้างมูลค่าทางธุรกิจและยึดพื้นที่สื่อในวงการอาหารสเปนอีกครั้งหลังเข้าร่วมครั้งล่าสุดเมื่อปี 2562 โดยปีนี้คูหาไทยอยู่ในเส้นทาง VIP สำหรับแขกในพิธีเปิดด้วย โดยผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมาดริด นางสาวพัชรมณฑน์ ตระกูลทิวากร ได้ให้การต้อนรับผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและคณะในโอกาสเยี่ยมชมคูหา

ครั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงมาดริด ร่วมกับสำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นำสินค้าจากผู้ส่งออกไทยเจ้าของรางวัล Prime Minister´s Export Award 38 รายในกลุ่มอาหารและสินค้าไลฟ์สไตล์อวดสายตาประชาชน ด้วยแนวคิด SABORES DE TAILANDIA หรือ Discover the Flavors of Thailand พร้อมเสิร์ฟกิจกรรมสุดฮอตทั้งสาธิตปรุง ทอล์คโชว์ ให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง กระตุ้นการบริโภคในตลาด เชื่อมโยงโอกาสทางการค้า สร้างการรับรู้ เพิ่มความมั่นใจต่อสินค้าและบริการไทย ตลอดจนส่งเสริมภาพลักษณ์ทางการค้าอันดีของประเทศ

การสาธิตปรุงอาหารและแจกชิม (Thai Show Cooking & Tasting)

การสาธิตทำอาหารด้วยผลิตภัณฑ์ PM Award โดยเชฟจากร้านอาหาร Thai SELECT ในสเปน และเชฟรับเชิญชื่อดังตลอด 4 วัน ช่วยให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกระบวนการปรุงอาหารไทยแท้ เรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องปรุง และได้ชิมเมนูรวมถึงเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่คัดสรรมาอย่างดี ถูกปากผู้บริโภคในตลาด ขณะเดียวกันนำเสนออัตลักษณ์ไทย สร้างความประทับใจเป็นอย่างยิ่ง อาทิ ผัดไทย ยำส้มโอ ข้าวตังหน้าตั้ง ไข่ดาว ผัดกะเพรา เมี่ยงลาบปลา ยำไข่ดาว มัสมั่น ทับทิมกรอบ น้ำแดงมะนาวโซดา กาแฟจากเชียงใหม่ เป็นต้น กิจกรรมนี้ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม มีผู้เข้าร่วมต่อแถวชิมอาหารตลอดทั้งวัน สร้างบรรยากาศคึกคักเป็นพิเศษในช่วงโชว์แต่ละรอบ โดยเชฟและร้านอาหารที่เข้าร่วม ได้แก่ Chef Noo de Phuket ร้าน Thai Garden ร้าน Kai Thai ร้าน The Oriental – Tenerife ร้าน Thai Salou ร้าน Thaidy รวมถึงร้าน Kitchen154

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับคุณลักษณะของครัวไทย สินค้าเครื่องปรุงหลัก อัตลักษณ์อาหารไทย ยังมีการจัดเสวนาให้ความรู้โดยผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่านในตลาดสเปน ได้แก่ คุณปิยพันธ์ วัฒนศิริ คุณอัญขณา สุพลชัย และคุณพิเชษฐ อุปจันทร์ สร้างการรับรู้เกี่ยวกับ ข้าว เครื่องแกง ซอสซีอิ๊ว น้ำปลา กะทิ ของหวานไทย น้ำตาล ศรีราชา เป็นต้น ได้รับความสนใจจากผู้เยี่ยมชม นำไปสู่การสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ เกิดโอกาสทางธุรกิจและการสั่งซื้อในตลาดมากขึ้น

ส่วนจัดแสดงสินค้า (PM Award Showcase)

ภายในงานมีการจัดแสดงและให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ส่งออกของไทย ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล Prime Minister’s Export Award (PM Award) 38 ราย การันตีคุณภาพ นวัตกรรม ธรรมาภิบาล และความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก สินค้าที่นำมาจัดแสดงมีทั้งซอส เครื่องปรุงรส อาหารแปรรูป ขนม ของหวาน และเครื่องดื่มต่าง ๆ ตลอดจนผลงานออกแบบ สินค้าเฟอร์นิเจอร์ ไลฟ์สไตล์ โดยมี QR code สำหรับดาวน์โหลด แจก bookletข้อมูลผลิตภัณฑ์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้สนใจและสูตรอาหารไทยเป็นภาษาสเปน โดยแบรนด์ที่เข้าร่วม กลุ่มอาหาร ได้แก่ 3 PENGUINS BRAND AROY D BEEFRUITS BLUE ELEPHANT BLUERIVER CHAOKOH CHIWADI DOUBLEDRAGON EXOTICFOOD FLOWERFOOD HEALTHY BOY BRAND HILLKOFF KRS K-FRESH LOBO MAE PRANOM MAMA MANORA MITR PHOL PANTAINORASIGNHA RANONG TEA ROYAL UMBRELLA SAPPE SINGHA SKYSWAN (Universal Rice Thailand) SQUID SUREE THAWEEPHAN

กลุ่มผลงานออกแบบตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ ไลฟสไตล์ ได้แก่ DEESAWAT KORAKOT LABRADOR LAMUNLAMAI MOBELLA MOONLER QUALITIER QUALY SONITE YINDEE DESIGN สามารถดึงดูดความสนใจผู้เยี่ยมชมได้ดี

การเข้าร่วมงานถือเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจสำหรับประเทศไทย โดยคูหาไทยมีความโดดเด่นจากการตกแต่งด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าออกแบบ สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานได้ดี ทั้งผู้นำเข้าสินค้า ผู้จัดจำหน่าย ผู้กระจายสินค้าช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ร้านอาหารระดับพรีเมียม เจ้าของธุรกิจค้าปลีก เชฟอาชีพ สื่อมวลชน KOL ผู้จัดการโรงแรม catering สายการบิน ไปจนถึงสื่อระดับประเทศและอินฟลูเอนเซอร์สายอาหาร รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มจากทั่วโลก การจัดแสดงของไทยไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจด้วยรสชาติและวัตถุดิบคุณภาพ แต่ยังได้รับคำชื่นชมจากทุกภาคส่วนในด้านการจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ การออกแบบบูธ และการนำเสนอภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระดับสากล

Immersive Dining Experience

อีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลต์ คือ Immersive Dining โดย Silpin ผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมการปรุงกลิ่นและรสเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร ร่วมกับร้านอาหาร Thai Garden ออกแบบเมนูอาหารจัดโชว์ยกระดับประสบการณ์การบริโภคอาหารและเครื่องดื่มไทย นำเสนอผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 แขกผู้เข้าร่วมได้สัมผัสกับอาหารไทยในบรรยากาศพิเศษ ตั้งแต่รูป รส กลิ่น เสียง ภาพ การเล่าเรื่อง และการจัดจานแบบประณีต  

กระตุ้นความต้องการบริโภคและกระแสความนิยมไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์เชิงพาณิชย์เริ่มปรากฏให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ ผู้ผลิตไทยที่ร่วมเดินทางมีโอกาสเจรจาการค้าและได้ลูกค้าใหม่ในตลาดยุโรป ขณะที่ผู้นำเข้าพันธมิตรของกรมฯ มียอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นตามกระแสตอบรับที่ล้นหลาม งานนี้จึงถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการใช้ “อาหารไทย” เป็นพลังแห่งวัฒนธรรมและการค้า (Gastro-Diplomacy) ที่สร้างทั้งโอกาสทางเศรษฐกิจและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับตลาดยุโรปในระยะยาว บรรลุวัตถุประสงค์ในการให้ความรู้ตลาด (Educate)  และกระตุ้นความต้องการในตลาด (Drive Demand) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากตลาดสเปนยังถือว่ามีการรับรู้เกี่ยวกับเครื่องปรุงไทยในระดับกลางถึงต่ำ โดยคุณ Diego Macías รองผู้อำนวยการโรงแรมและผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่มจากร้าน The Oriental – Tenerife หนึ่งในร้านอาหารที่เข้าร่วมกิจกรรมสาธิตการปรุงอาหาร ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงแรมระดับห้าดาว Hotel Botanico & The Oriental Spa Garden บนเกาะ Tenerife หมู่เกาะ Canary ประเทศสเปน ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตนรู้สึกดีใจและภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมภายในคูหานี้ นับเป็นเวทีที่งดงามเหมาะสำหรับการนำเสนออาหารและประสบการณ์ไทยให้แก่ทุกคน โดยเห็นว่างานนี้เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้รู้จักอาหารไทยอย่างลึกซึ้ง ทั้งรสชาติ วัตถุดิบ และวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังเสริมว่าการมาร่วมงานนี้ช่วยสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับร้านอาหารของตนบนหมู่เกาะคานารีได้ดี สะท้อนให้เห็นว่าการเข้าร่วมครั้งนี้ช่วยประชาสัมพันธ์ทั้งประเทศไทยและท้องถิ่นของสเปนได้อย่างไร้รอยต่อ

อีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญคือการขยายการรับรู้ให้กับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ที่รับรองคุณภาพของร้านอาหารและผลิตภัณฑ์ส่งออกจากประเทศไทย โดยสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงานทั้งในด้านรสชาติ ความพิถีพิถันในการจัดแสดง และภาพลักษณ์ระดับพรีเมียมของสินค้าไทย เสียงชื่นชมที่ได้รับจากผู้เข้าร่วมงานหลากหลายกลุ่ม ทั้งเชฟชื่อดัง นักชิมมืออาชีพ และสื่อมวลชน ล้วนตอกย้ำถึงศักยภาพของอาหารไทยในการแข่งขันในตลาดโลก และความสำเร็จของการนำเสนอวัฒนธรรมไทยผ่านประสบการณ์ทางอาหารที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และความเป็นต้นตำรับ

อนึ่ง งาน Salón Gourmets 2025 ในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 38 มีผู้แสดงสินค้า 2,097 รายจากหลายประเทศ อาทิ สเปน โปรตุเกส สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ เม็กซิโก และประเทศไทย ผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเป็น 117,969 ราย มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์กว่า 55,000 รายการ สินค้านวัตกรรม 2,000 รายการ กิจกรรม 1,000 กิจกรรม สร้างมูลค่าธุรกิจกว่า 250 ล้านยูโร (ทั้งทางตรงและทางอ้อม) โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ประมง และอาหาร นายลุยส์ ปลานาส ปูชาเดส เป็นประธานเปิดงาน งานจัดขึ้นใน Hall 3, 4, 5, 6, 7 และ 8 รวมพื้นที่จัดแสดง 72,000 ตร.ม. มีวัตถุประสงค์ในการนำเสนอทั้งนวัตกรรมและอาหารดั้งเดิมระดับสูง พร้อมเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง สินค้าออร์แกนิก และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สะท้อนแนวโน้มใหม่ในตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดโปรแกรม Hosted Buyers Program (HBP) ซึ่งเชิญผู้ซื้อจากนานาชาติจำนวน 252 ราย และจัดประชุมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) มากกว่า 5,000 ครั้ง เพื่อส่งเสริมการสร้างเครือข่ายธุรกิจและการส่งออกระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

การจัดคูหาไทยครั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงมาดริด ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย โดยเป็นการบูรณาการร่วมกับทีมประเทศไทย สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด นำโดยเอกอัคราชทูต โวสิต วรทรัพย์ สำนักงานผู้ช่วยทูตทหาร ณ กรุงมาดริด นำโดยน.อ.ยุทธนาวี มุ่งธัญญา ผู้นำเข้าผู้ประกอบการต่างชาติ อาทิ Eco Andes PAULSEN CP อาทิ Colomer Casas Iberochina EMB Luchen Thai Market ผู้ประกอบการร้านอาหาร Thai SELECT ผู้ส่งออกไทย และชุมชนไทยในมาดริด หรือ TRAM นับเป็นโครงการที่สร้างประโยชน์ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหลายฝ่ายได้อย่างกว้างขวางและยั่งยืน ดังนั้น งาน Salón Gourmets 2025 จึงไม่เพียงเป็นเวทีแสดงสินค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นช่องทางสำคัญในการส่งเสริมการค้า วัฒนธรรม การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี การสร้างภาพลักษณ์ประเทศทางการค้า อันจะนำไปสู่โอกาสใหม่ ๆ สำหรับประเทศไทยในอนาคต นับเป็นเวทีเจาะตลาดที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ประกอบการไทยที่สนใจตลาดสเปนและตลาดใกล้เคียง ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารได้ทาง Facebook : ThaiTradeSpain

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมาดริด

เมษายน 2568