ผู้นำสูงสุดอิหร่านประกาศให้ปีเปอร์เซีย 1404 เป็นปีแห่ง “การลงทุนเพื่อการผลิต”

เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ของอิหร่าน เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อะยาตุเลาะห์อาลี คามาเนอี ได้ออกมาให้โอวาทพร้อมมอบนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศปี 1404 ของปฏิทินอิหร่าน (21 มีนาคม 2568 – 20 มีนาคม 2569) โดยให้สโลแกนว่าเป็นปีแห่ง“การลงทุนเพื่อการผลิต”

สโลแกนดังกล่าวเป็นคำขวัญที่แสดงถึงความสำคัญพิเศษของการส่งเสริมภาคการผลิตให้ขับเคลื่อนก้าวไปข้างหน้าและส่งเสริมบทบาทการลงทุนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแผนพัฒนาประเทศ ที่เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้ประโยชน์จากกำลังการผลิตภายในประเทศเพื่อดึงดูดการลงทุน โดยผู้นำสูงสุดได้ให้ทั้งภาครัฐบาลและประชาชนร่วมมือกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้

ผู้นำสูงสุดได้วางแนวทางการดำเนินงานโดยมอบหมายภารกิจที่สำคัญให้แก่ 3 หน่วยงานหลักของอิหร่านในการที่จะทำให้สโลแกนดังกล่าวเกิดเป็นรูปธรรม ได้แก่ (1) มอบหมายให้หน่วยงานรัฐบาล เตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ พร้อมขจัดอุปสรรคด้านการผลิตเพื่อการเข้ามามีส่วนร่วมและการลงทุนของประชาชนและภาคเอกชนให้มากที่สุด (2) มอบหมายให้รัฐสภาสร้างกรอบทางกฎหมายและกฎระเบียบที่เหมาะสม พัฒนาและแก้ไขกฎหมายคุ้มครองการลงทุน รักษาเสถียรภาพของกฎหมายการลงทุนและเศรษฐกิจ พร้อมป้องกันไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงระเบียบและกฎหมายที่บ่อยครั้ง (3) มอบหมายให้อำนาจตุลาการ ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่สร้างความเสียหายและผู้ละเมิดกฎระเบียบ และผู้ทุจริตทางเศรษฐกิจ สร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ทั้งนี้ นโยบายโดยรวมในการอำนวยความสะดวกและส่งเสริมการลงทุนเพื่อการผลิต ได้แก่ (1) การสร้างความมั่นคงในการลงทุน นักลงทุนในประเทศและแม้แต่นักลงทุนต่างชาติที่ต้องการลงทุนในประเทศจะต้องมั่นใจในเสถียรภาพและความมั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจของอิหร่าน (2) การอำนวยความสะดวกของภาครัฐบาลและการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น รัฐบาลควรสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนและการผลิต พยายามรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนต่างประเทศ แก้ไขปัญหาการจัดสรรเงินตราต่างประเทศ ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากและอำนวยความสะดวกในกระบวนการออกใบอนุญาตในภาคส่วนต่างๆ ของการผลิต นำเข้าเครื่องจักรและเทคโนโลยี ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและพลังงาน พร้อมให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการจัดหาพลังงานด้านไฟฟ้าและแก๊สที่หน่วยการผลิตต้องการ การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น (3) การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางอุตสาหกรรม และใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัย (4) การสนับสนุนให้มีการลงทุนภายในประเทศ นอกจากการวางแผนเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติแล้ว จะต้องสร้างเงื่อนไขเพื่อนำทุนที่มีอยู่ในประเทศไปใช้ในการผลิต แทนที่จะเป็นการลงทุนในภาคที่ไม่ใช่การผลิตและตลาดเก็งกำไร เช่น การสะสมทองคำ และอัตราแลกเปลี่ยนต่างประเทศ ไปสู่ภาคการผลิตที่อาจเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศ (5) การปฏิรูประบบธนาคาร ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันที่สำคัญที่สุดในการจัดหาเงินทุนสำหรับการผลิต และให้สินเชื่อกับภาคการผลิตเป็นลำดับความสำคัญ

ปัจจุบันอิหร่านกำลังเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจ อาทิเช่น การคว่ำบาตร อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น การว่างงาน ความไม่สมดุลของพลังงาน และผลผลิตทางอุตสาหกรรมที่ลดลง ซึ่งการให้ความสำคัญกับการลงทุนในภาคการผลิตสามารถถือเป็นแนวทางแก้ไขเชิงกลยุทธ์สำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาที่ยั่งยืนได้

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาผู้นำสูงสุดของอิหร่านได้เน้นนโยบายเศรษฐกิจด้านการผลิตมาโดยตลอด ภาคการผลิตเป็นเหมือนเครื่องจักรขับเคลื่อนให้ภาคเศรษฐกิจอื่นๆ ก้าวไปข้างหน้า ภาคการผลิตสามารถเปลี่ยนแปลงสถิติและตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจต่างๆ ให้ดีขึ้น ยิ่งประเทศมีศักยภาพในด้านการผลิตภายในประเทศมากเท่าใดก็จะสามารถแก้ปัญหาและยืนหยัดต่อปัญหาอุปสรรคทางเศรษฐกิจได้มากเท่านั้น