คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ได้ประกาศขยายระยะเวลาข้อตกลงการขนส่งทางถนนระหว่างสหภาพยุโรปกับยูเครน หรือ Transport Visa-free Regime Agreement ต่อไปจนถึงสิ้นปี 2568 นี้ ข้อตกลงดังกล่าวเริ่มใช้บังคับมาตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2565 ในช่วงที่ยูเครนเข้าสู่ภาวะสงครามอย่างเต็มรูปแบบ และทั้งสองฝ่ายได้มีการขยายเวลาบังคับใช้ล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายน 2567 โดยมีกำหนดสิ้นสุดการบังคับใช้ในวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ทั้งนี้ ข้อตกลงฉบับนี้เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ยูเครนส่งออก-นำเข้าสินค้าสำคัญกับสหภาพยุโรปได้อย่างสะดวกราบรื่นระหว่างการถูกรุกรานจากรัสเซีย

 

คณะกรรมาธิการยุโรปต่อเวลาขนส่งสินค้าทางถนนปลอดภาษีกับยูเครนข้อตกลงดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์รุกรานยูเครนโดยรัสเซีย ทำให้เส้นทางการขนส่งในพื้นที่ทางภาคตะวันออกของยูเครนไม่ปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าสำคัญระหว่างสหภาพยุโรปกับยูเครน เช่น เชื้อเพลิง ตลอดจนลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่ยูเครน ขณะเดียวกันก็ช่วยขนส่งสินค้าส่งออกของยูเครน เช่น ธัญพืช สินแร่ และเหล็ก ไปยังสหภาพยุโรปและตลาดอื่นๆ ได้ ทั้งนี้ ตั้งแต่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้จนถึงปี 2567 การขนส่งสินค้าทางถนนระหว่างสหภาพยุโรปและยูเครนมีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็น 4 แสนตันต่อเดือน โดยยูเครนส่งออกสินค้าทางถนนสู่สหภาพยุโรปมีปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 42 ขณะที่ยูเครนนำเข้าจากสหภาพยุโรปมีปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 37

 

ข้อมูลเพิ่มเติม/ข้อคิดเห็นของสคต.
1. แม้ว่า ภาพรวมการค้าระหว่างยูเครนและสหภาพยุโรปที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลดีต่อภาวะเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่าย ในทางกลับกัน ก็ส่งผลกระทบต่อประเทศสมาชิกอียู ที่มีพรมแดนติดกับยูเครน โดยเฉพาะโปแลนด์ที่มีเส้นทางขนส่งทางถนนติดต่อกับยูเครน จึงมักมีข่าวการประท้วงจากเกษตรกรโปแลนด์ที่ได้รับผลกระทบจากการนำเข้าสินค้าเกษตรจากยูเครนที่มีราคาต่ำกว่าเป็นจำนวนมาก และเป็นที่ต้องการของผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารในอียู ส่งผลต่อความต้องการสินค้าเกษตรจากโปแลนด์ลดลง ซึ่งอาจเป็นเหตุให้กลุ่มเกษตรกรในโปแลนด์รวมตัวกันออกมาประท้วงเรียกร้องอย่างเช่นในปีที่ผ่านมาอีกก็เป็นได้

2. จากสถิติของศูนย์วิจัย GMK Center พบว่ามูลค่าของอุตสาหกรรมเหมืองแร่และโลหะ ตลอดห่วงโซ่การผลิตของยูเครนมีสัดส่วนร้อยละ 7.2 ของ GDP ในปี 2567 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.7 ในปี 2566 นอกจากนี้ อุตสาหกรรมเหล็กของยูเครนมีส่วนสำคัญมากต่อภาคการผลิตของอียู โดยยูเครนส่งออกเหล็กมาอียูเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 64 ในปี 2567 ที่ผ่านมา

 

ที่มา:

1. Kyivpost.com
2. European Commission
3. GMK Center

thThai