ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “ผลิตภัณฑ์นมที่ไม่ใช่นมจากวัว” กลายเป็นที่นิยมในตลาดจีน โดยเริ่มจากผลิตภัณฑ์นมซึ่งผลิตในเขตปกครองตนเองซินเจียง  จากนั้นนมแพะ นมอูฐ นมควาย และผลิตภัณฑ์นมชนิดอื่นๆ เฉพาะกลุ่ม (Niche Milk) ต่างก็เริ่มเกิดเป็นเทรนด์ร้อนแรงบนแพลตฟอร์มโซเชียลต่างๆของจีน โดยหากค้นหา Key word ที่เกี่ยวข้องในสื่อโซเชียล อย่างเช่น #สินค้า Niche Milk  #สินค้านมล้ำค่า จะปรากฏข้อมูลเกี่ยวกับสินค้านมที่ผลิตจากพื้นที่หลายแห่งทั่วประเทศจีน ปัจจุบันตลาด Niche Milk ของจีนจะแบ่งตามพื้นที่เป็นหลัก ผู้ผลิตสินค้าดังกล่าวมีค่อนข้างหลากหลาย และขณะนี้ยังไม่มีแบรนด์ชั้นนำรายใดที่โดดเด่นเป็นพิเศษในท้องตลาด

ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ Niche Milk ที่สำคัญ

“นมแพะ” – จากการวิเคราะห์สถานะการพัฒนาอุตสาหกรรมนมแพะของจีนและรายงานการคาดการณ์การลงทุน (ค.ศ. 2022 – 2029) ที่เผยแพร่โดย Guanyan Report ระบุว่า มูลค่าขนาดตลาดนมแพะผงของจีน จากเดิม 5,980 ล้านหยวนในพ.ศ. 2558 เพิ่มขึ้นเป็น 10,400 ล้านหยวนในพ.ศ. 2563

มณฑลส่านซีในฐานะที่เป็น “บ้านเกิดของแพะนมในประเทศจีน” ทำให้ผลิตภัณฑ์นมแพะแปรรูปของจีนกระจุกตัวอยู่ในมณฑลส่านซีเป็นหลัก โดยมณฑลส่านซีมีจำนวนแพะนมประมาณ 1.7 ล้านตัว มีปริมาณการผลิตนมแพะ 500,000 ตันต่อปี และผลผลิตนมแพะผง 14,000 ตันต่อปี ซึ่งจัดเป็นแหล่งผลิตอันดับแรกของประเทศจีน  ขณะที่การแปรรูปนมแพะของมณฑลอื่นๆ อย่างเช่น มณฑลซานตงจะผลิต/จำหน่ายนมแพะอยู่เฉพาะภายในพื้นที่ของตนเอง  และมณฑลยูนนานจะนำนมแพะไปแปรรูปเป็นเค้กนมเป็นหลัก

ในตลาดนมแพะผงของจีน แบรนด์ Kabrita จากเนเธอร์แลนด์ ซึ่งอยู่ภายใต้แบรนด์ Ausnutria ครองส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 33  รองลงมา คือ แบรนด์ MeiLing ของจีน และแบรนด์ Blue River จากนิวซีแลนด์ นอกจากนี้ บริษัทนมชั้นนำของจีน อย่างเช่น Feihe, Yili และ Junlebao ต่างก็เริ่มกระโดดลงสนามแข่งขันในตลาดนมแพะผงด้วยเช่นกัน  ปัจจุบันจีนอนุญาตให้นำเข้าผลิตภัณฑ์นมแพะผงจากหลายประเทศ เช่น นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร เดนมาร์ก รัสเซีย เกาหลีใต้ เป็นต้น  แต่เดิมปริมาณการนำเข้านมแพะผงของจีนค่อนข้างน้อย แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พบว่าปริมาณการนำเข้านมแพะผง มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในปี พ.ศ. 2557 จีนนำเข้านมแพะผง รวมทั้งสิ้น 389 ตัน และต่อมาในปี พ.ศ. 2561 จีนได้นำเข้านมแพะผงเพิ่มขึ้นเป็น 14,800 ตัน

“นมควาย” – เนื่องจากสภาพอากาศทางตอนใต้ของจีนเหมาะสมกับการเพาะเลี้ยงควาย ดังนั้น ปริมาณการเลี้ยงควายในประเทศจีนส่วนมากกระจายอยู่ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง และมณฑลกวางตุ้งเป็นหลัก

ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์นมควายกำลังได้รับความนิยมในตลาดจีน โดยในพ.ศ. 2564 ปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมควายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Tmall เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และในช่วงเทศกาลส่งเสริมการขาย “618” ในปีพ.ศ. 2565 พบว่า ยอดขายนมควายบนแพลตฟอร์ม Tmall (อย่างเช่น แบรนด์ Royal Dairy และ Nanguo Dairy) เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 200 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า  ส่วนการจำหน่ายนมควายผ่านแพลตฟอร์ม JD.com พบว่า ยอดขายนมควายเพิ่มขึ้นร้อยละ 74.5 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์นมควายที่จำหน่ายในท้องตลาดมีจุดขายหลักๆ เช่น เน้นด้านคุณค่าทางโภชนาการ, มีปริมาณจำกัด/ความหายาก, มุ่งเน้น/เจาะจงที่กลุ่มทารก เป็นต้น ซึ่งผลิตภัณฑ์นมควายสามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคชาวจีนได้

“นมอูฐ” – อูฐส่วนใหญ่เติบโตในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงและแห้งแล้ง โดยแหล่งผลิตนมอูฐที่สำคัญของจีนกระจายตัวอยู่ในเขตปกครองตนเองซินเจียงและเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน

ตลาดนมอูฐของจีนกำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา  ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมอูฐผงส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง  ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคชาวจีนรู้จักและชื่นชอบผลิตภัณฑ์ Niche Milk เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น บริษัทนมที่มีชื่อเสียงหลายแห่งจึงเริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์นมอูฐผงเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น Yili และ Mengniu  โดยผลิตภัณฑ์นมอูฐในตลาดจีนเน้น “นมอูฐผงสำหรับผู้บริโภควัยผู้ใหญ่” เป็นหลัก

เมื่อเปรียบเทียบ “นมอูฐ” กับ “นมแพะและนมควาย” พบว่า นมแพะและนมควายได้เติบโตในระดับหนึ่งแล้ว ขณะที่นมอูฐในตลาดจีนยังอยู่ในระยะเริ่มต้นและเน้นจุดขายสินค้าได้เพียงแค่เป็นผลิตภัณฑ์จากเขตปกครองตนเองซินเจียงและมีคุณค่าทางโภชนาการเท่านั้น ซึ่งก็คล้ายกับผลิตภัณฑ์นมอื่นๆ  ดังนั้น นมอูฐจึงประสบกับปัญหาอุปสรรคในด้านการสร้างจุดแข็งที่โดดเด่น/ความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์นมอื่นๆ ขณะนี้ยังไม่มีแบรนด์ใดและผลิตภัณฑ์ใดที่โดดเด่นเป็นตัวแทนผลิตภัณฑ์นมอูฐในตลาด ปัจจุบันจีนอนุญาตให้นำเข้าผลิตภัณฑ์นมอูฐจากประเทศต่างๆ อาทิ  ออสเตรเลีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คาซัคสถาน รัสเซีย เป็นต้น

ผลิตภัณฑ์ Niche Milk ในตลาดจีน

ข้อมูลเพิ่มเติม/ผลกระทบ/ความเห็นของ สคต.

แม้ว่าผลิตภัณฑ์นมประเภท Niche Milk จะเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวจีนมากขึ้น แต่ตลาด Niche Milk ยังคงเผชิญกับความท้าทายอยู่หลายประการ เพื่อให้บรรลุการพัฒนาในระยะยาว ได้แก่

  • ไม่ว่าจะเป็นนมแพะ/นมอูฐ/นมควาย/Niche milk อื่นๆ ปัญหาที่สำคัญ คือ การขาดแคลนวัตถุดิบน้ำนม ซึ่งผู้ผลิตต้องประสบปัญหาปริมาณน้ำนมไม่เพียงพอตั้งแต่ต้นกระบวนการผลิต และส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ประเภท Niche Milk ส่วนใหญ่มีราคาค่อนข้างสูง ทำให้ผู้บริโภคเริ่มเกิดความลังเลในการลองซื้อผลิตภัณฑ์ Niche Milk มาบริโภค
  • ปัจจุบัน ระบบมาตรฐานอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์นมวัวและนมแพะของจีนได้พัฒนาไปค่อนข้างจะสมบูรณ์แล้ว แต่สำหรับหมวด Niche Milk (เช่น นมอูฐ นมควาย นมจามรี เป็นต้น) บางประเภทจะมีเพียงแค่มาตรฐานท้องถิ่นหรือมาตรฐานองค์กร ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดไม่มีมาตรฐานการยอมรับตรงกัน และไม่เอื้อต่อการประชาสัมพันธ์และการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีน
  • เมื่อเปรียบเทียบ Niche Milk กับนมวัว จะเห็นว่านมวัวสามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆ ได้หลากหลาย อย่างเช่น โยเกิร์ตและชีส ส่วนประเภทของผลิตภัณฑ์ Niche milk ยังคงค่อนข้างจำกัด โดยส่วนใหญ่เป็นเครื่องดื่ม/น้ำนมและนมผงเป็นหลัก ซึ่งยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคได้มากนัก

อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ Niche Milk ก็มีข้อได้เปรียบในด้านรสชาติพิเศษและมีลักษณะเฉพาะของภูมิภาค/แหล่งผลิต ซึ่งสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคได้และสามารถส่งต่อประสบการณ์ด้านการบริโภคที่แปลกใหม่ให้แก่ผู้บริโภคได้ด้วย ขณะเดียวกัน Niche Milk ก็มีคุณค่าทางโภชนาการและส่วนผสมที่แตกต่างไปจากนมวัวทั่วไป ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า ในอนาคต Niche Milk ยังคงมีศักยภาพและสามารถเติบโตค่อนข้างสูงในตลาดจีน

————————————————–

แหล่งข้อมูล :

https://www.jiemian.com/article/9269348.html

http://www.agdata.cn/newsdata/getagdatanewsdetails-927.html

แปลและเรียบเรียงโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู

thThai