ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เกิดประเด็นความสัมพันธ์ทางการทูตจีน–แคนาดาที่เกิดความไม่ลงรอยกันอีกครั้ง หลังจากเมื่อจันทร์ที่ 9 พ.ค.66 ทางการแคนาดาได้ออกแถลงการณ์ให้นาย Zhao Wei เจ้าหน้าที่ทางการทูตจีนในแคนาดามีสถานะเป็นบุคคลไม่ปรารถนาหรือ “persona non grata” และต้องเดินทางออกนอกประเทศ จากข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับการแทรกแซงจากต่างประเทศ และวันถัดมาจีนจึงตอบโต้ด้วยการให้คุณ Jennifer Lynn Lalonde นักการทูตแคนาดาประจำนครเซี่ยงไฮ้ เดินทางออกจากจีนภายในวันที่ 13 พ.ค.นี้ โดยระบุว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควรจากรัฐบาลแคนาดา และรัฐบาลปักกิ่งมีความชอบธรรมที่จะดำเนินการเพิ่มเติม
จากปมขัดแย้งครั้งล่าสุดนี้ ผู้เชี่ยวชาญการค้าระหว่างประเทศออกมาประเมินว่า อาจจะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนที่ตามมาได้ เพราะจีนถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของแคนาดารองจากสหรัฐฯ ซึ่งหากพิจารณาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งจีนและแคนาดาที่ผ่านมา เมื่อทางการจีนสั่งห้ามนำเข้าคาโนลาซึ่งเป็นพืชผลการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดจากแคนาดาเป็นเวลา 3 ปี (ปี 2562-2565) และตามมาด้วยการห้ามนำเข้าเนื้อหมูได้สร้างความเสียหายต่อภาคเกษตรกรรมแคนาดาอย่างมหาศาล
ในการนี้ นาย Guy Saint-Jacques อดีตเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำจีน ให้ความเห็นว่า จีนอาจจะตอบโต้ด้วยการขับไล่นักการทูตออกไป แต่ไม่คิดว่าจะมีการคว่ำบาตรทางการค้าตามมาเช่นในอดีต เนื่องจากทางการจีนเองต้องการที่จะสร้างความมั่นใจให้กับบริษัทต่างชาติรายอื่นๆ เข้ามาทำงานร่วมกับจีนได้อย่างมั่นคงตามปกติ อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการธุรกิจแคนาดาในจีนและเกษตรกรชาวแคนาดาก็ยังคงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อธุรกิจที่มีสาเหตุจากความขัดแย้งการทูตล่าสุด
โดยกลุ่มบริษัทและร้านค้าปลีกสัญชาติแคนาดา อาทิ Canada Goose, Lululemon, Tim Hortons ที่เพิ่งเข้าไปบุกกิจการในจีนไม่กี่ปีมานี้ เนื่องจากเห็นศักยภาพการเติบโตของธุรกิจในจีนอย่างมากมาย ในการนี้ นาย Bruce Winder นักวิเคราะห์การตลาดค้าปลีก กล่าวว่า ความขัดแย้งทางการทูตที่กำลังเกิดขึ้น แม้ว่าทางการทั้งสองฝ่ายจะไม่มีการสั่งห้ามทำการค้าโดยตรง แต่อาจเป็นผลให้ผู้บริโภคชาวจีนเกิดการบอยคอตสินค้าแบรนด์แคนาดาได้เช่นกัน ซึ่งถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการขยายกิจการหลายๆ รายอย่างชัดเจน
นาย Peter Yu ประธานบริษัท Tim Hortons China จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทได้เปิดให้บริการร้านกาแฟและโดนัทสัญชาติแคนาดาในจีนกว่า 600 สาขาและมีแผนที่จะขยายถึง 1,000 สาขาภายในสิ้นปี 2566 นี้ ขณะที่ร้านจำหน่ายเสื้อผ้าแบรนด์ Lululemon ผู้จำหน่ายเสื้อผ้าและอุปกรณ์โยคะอันดับต้นๆของโลก มีสาขาร้านค้าถึง 117 สาขาในจีน หรือแบรนด์ Roots ร้านจำหน่ายเสื้อผ้า กระเป๋าแบรนด์ดังของแคนาดาที่มีสาขามากกว่า 100 แห่งทั่วเอเชีย รวมไปถึงแบรนด์เสื้อกันหนาวระดับไฮเอนด์ Canada Goose ที่เพิ่งบุกตลาดจีนเมื่อปลายปีก่อนหน้า ก็อาจได้รับผลกระทบจากความไม่มั่นคงความขัดแย้งได้เช่นกัน
ในส่วนด้านการค้าระหว่างแคนาดา-จีน ได้รายงานมูลค่าการค้าปี 2565 แคนาดาสามารถส่งออกสินค้าไปจีนคิดเป็นมูลค่า 28,700 ล้านเหรียญแคนาดา (ราว 21,279 ล้านเหรียญสหรัฐ) ถือเป็นตัวเลขสูงสุดหลังจากที่จีนยกเลิกการระงับนำเข้าคาโนลาจากแคนาดาในช่วง 3 ปีก่อนหน้า นอกจากนี้ จีนยังเป็นผู้นำเข้าแร่โปแตสและข้าวสาลีรายใหญ่อีกเช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่า ชาวเกษตรกรแคนาดาหวังที่จะไม่ให้ความขัดแย้งทางการทูตครั้งนี้ จะเป็นปัญหาต่อการส่งออกสินค้าแคนาดาไปจีน หรือเกิดการคว่ำบาตรทางการค้าแคนาดาต่อไป
ข้อคิดเห็นจากสำนักงานฯ ตลอดหลายปีมานี้ ทั้งสองประเทศได้มีเรื่องราวบาดหมางกันเรื่อยมา ซึ่งย้อนกลับไปตั้งแต่เหตุการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเดือนธันวาคม 2561 ตำรวจแคนาดาเข้าจับกุมนางสาว Meng Wanzhou ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน (ซีเอฟโอ) บริษัทหัวเว่ย จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนที่สนามบินนครแวนคูเวอร์ แคนาดา ตามคำขอของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อมาในเดือนเดียวกันชาวแคนาดา 2 รายได้ถูกเจ้าหน้าที่จีนคุมขังในข้อหาสอดแนม ก่อนทั้งสามคนจะถูกปล่อยตัวในปี 2564 และการค้าทั้งสองฝ่ายสามารถกลับมาดำเนินได้ตามปกติ ฉะนั้นแล้ว ท่ามกลางความไม่แน่นอนของผลกระทบจากการเมืองครั้งนี้ย่อมสร้างความกังวลต่อภาคเกษตรและการค้าในประเทศ ซึ่งยังเป็นปัจจัยและเงื่อนไขที่ทุกฝ่ายต้องจับตาอย่างใกล้ชิด และหาช่องทางกระจายความเสี่ยงทางการค้ากันต่อไป
ที่มาของบทความ https://www.ctvnews.ca/business/canada-china-spat-could-sour-business-relations-experts-say-1.6391019
โดย… สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ฯ นครแวนคูเวอร์