อาหารไทยเป็นหนึ่งใน 3 อันดับแรกของอาหารต่างชาติที่ได้รับความนิยมจากชาวไต้หวัน ประกอบกับประเทศไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยวที่ชาวไต้หวันนิยมเดินทางไปเยือนในลำดับแรกๆ เช่นกัน ทำให้เหล่าช่องทาง Modern Trade ชั้นนำของไต้หวันหันมาจัดเทศกาลอาหารไทยเพื่อดึงดูดลูกค้า จากเดิมที่นิยมจัดเฉพาะเทศกาลญี่ปุ่นและเทศกาลเกาหลีใต้ ล่าสุด ห้างคาร์ฟู ซึ่งเป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตที่มีสาขามากที่สุดในไต้หวัน ได้ร่วมกับ สคต. ณ กรุงมะนิลา (ส่วนที่ 2) หน่วยงานในสังกัดกรมส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (DITP) ในการจัดเทศกาล Thai Fruit & Food Golden Month in Taiwan ตลอดเดือนมิถุนายนนี้ ในห้างคาร์ฟูที่มีมากกว่า 60 สาขาทั่วไต้หวัน
โดยในพิธีเปิดเทศกาลซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา มีนายทวีเกียรติ เจนประจักษ์ ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย และนส. กัลยา ลีวงศ์เจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา (ส่วนที่ 2) ร่วมกล่าวเปิดงาน ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและ KOL ในไต้หวันที่มาเข้าร่วมงานเป็นจำนวนไม่น้อย สำหรับสินค้าที่ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของกิจกรรมในครั้งนี้ ได้แก่มังคุดและทุเรียนหลากสายพันธุ์จากไทยที่นำมาเสนอในงานนอกเหนือจากหมอนทองที่มีขายทั่วไป ได้แก่ ก้านยาว ชะนี และมูซันคิง จากประเทศไทย ซึ่งไทยมีความได้เปรียบมาเลเซียจากการที่ไทยสามารถส่งผลสดมายังไต้หวันได้ ในขณะที่ทุเรียนมาเลเซียสามารถส่งออกไปยังไต้หวันได้เฉพาะทุเรียนแช่เย็นแช่แข็ง จึงเป็นโอกาสดีที่ผู้บริโภคไต้หวันได้ลองชิมทุเรียนที่สดอร่อย และมีเนื้อหอมนุ่มละเอียด ถือว่าเป็นพันธุ์หายากของไทยด้วย ซึ่งต่างก็ได้รับความนิยมจากชาวไต้หวันเป็นอย่างมาก ทำให้ทุเรียนไทยล็อตแรกที่นำเข้ามาเพื่อจำหน่ายในคาร์ฟูขายหมดภายในเวลา 3 วัน นอกจากนี้ ยังมีผลไม้ไทยอื่นๆ เช่น มังคุด และมะพร้าวน้ำหอม มาวางจำหน่ายในช่วงเทศกาลด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งนางหวงชุ่ยหัว ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าของห้างคาร์ฟูชี้ว่า ชาวไต้หวันมีความคุ้นเคยกับอาหารไทยเป็นอย่างดี ผู้บริโภคที่เป็นนักชิมบางรายถึงกับมี Pocket List เป็นของตัวเอง ดังนั้น หากจำหน่ายแต่เพียงสินค้าไทยแบบเดิมๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว ก็จะไม่มีแรงดึงดูดที่เพียงพอ ยิ่งในช่วงนี้ที่ชาวไต้หวันมีโอกาสได้เดินทางไปประเทศไทยกันมากขึ้น ก็จะมีโอกาสได้สัมผัสกับสินค้าไทยใหม่ๆ มากขึ้น หากจะดึงดูดให้ลูกค้าสนใจเข้ามาจับจ่ายซื้อของ ก็ต้องยกระดับสินค้าให้สูงขึ้นตามไปด้วย โดยการจัดงานในครั้งนี้ ได้รับความสนับสนุนจากสคต. ณ กรุงมะนิลา (ส่วนที่ 2) เป็นอย่างมาก ในการนำทุเรียนระดับ
พรีเมี่ยมที่เป็นพันธุ์หายากจากไทยเข้ามาวางจำหน่าย ซึ่งสามารถสร้างความแตกต่างจากทุเรียนในตลาดได้เป็นอย่างดี โดยอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของเทศกาลในครั้งนี้ คือ ข้าวหอมมะลิไทย ที่ถือเป็นจิตวิญญาณของอาหารไทย อันถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะอาหารสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารไทยด้วย
ทั้งนี้ ความนิยมในผลไม้ไทย ยังทำให้ไฮเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังอีกแห่งหนึ่งในไต้หวัน คือ ห้าง Costco ก็นำสินค้ามังคุดมาวางขายในช่วงนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าของห้างเป็นจำนวนไม่น้อย แม้จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับราคาที่จำหน่ายในประเทศไทย แต่ก็ยังมีผู้ที่ชื่นชอบจำนวนไม่น้อย ที่พร้อมจะซื้อหามารับประทาน
ที่มา: Economic Daily News / Super Taste / TVBS (June 6, 2023)
ข้อเสนอแนะ/ความคิดเห็นของ สคต.
ความต้องการทุเรียนเป็นจำนวนมากในจีน และการกว้านซื้อทุเรียนของล้ง ทำให้ทุเรียนไทยที่เข้ามาขายในไต้หวันขาดความมั่นคงในด้านปริมาณ แม้ไต้หวันจะเป็นตลาดส่งออกทุเรียนที่สำคัญเป็นลำดับที่ 3 ของไทย รองจากจีนและฮ่องกง แต่ปริมาณการส่งออกทุเรียนไทยไปไต้หวันยังน้อยกว่าจีนมาก ผู้ประกอบการไทยควรกระจายความเสี่ยงในการส่งออก ไม่พึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่งจนเกินไป และเพื่อรักษาตลาดในการส่งออกทุเรียนของไทยไปตลาดอื่นๆ นอกเหนือจากจีน