งานมหกรรมส่งเสริมการค้าและการลงทุนนครหลานโจว ครั้งที่ 29 (CLZITF : The 29th China Lanzhou Investment And Trade Fair) ได้เปิดตัวเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2566 ณ ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติมณฑลกานซู่ และจัดถึงวันที่ 10 กรกฎาคม รวมเวลา 5 วัน มีพื้นที่จัดงานฯ ทั้งหมด 54,000 ตารางเมตร ซึ่งในปีนี้ได้เชิญสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุล/หอการค้าในจีนจาก 30 ประเทศ และ 19 มณฑล/ภูมิภาคภายในประเทศเข้าร่วมงานแสดงสินค้าครั้งนี้
ภาพรวมของงานแสดงสินค้า The 29th CLZITF ประกอบด้วยโซนหลักๆ ได้แก่ โซนความร่วมมือนานาชาติเส้นทางเศรษฐกิจสายไหม โซนแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในเขตพื้นที่ โซนจัดแสดงอุตสาหกรรมศักยภาพและมีเอกลักษณ์โดดเด่นของมณฑลกานซู่ โซนสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าแฟชั่น และโซนจัดแสดงสินค้าเกษตรของมณฑลกานซู่
ในปีนี้ ประเทศซาอุดิอาระเบียและประเทศไทย (โดยสถานกงสุลใหญ่ ณ นครซีอาน) ได้รับเชิญให้เป็นประเทศเกียรติยศของงานฯ โดยประเทศไทยได้รับการจัดสรรพื้นที่ 300 ตารางเมตร เพื่อจัดคูหาประเทศไทย หรือ Thailand Pavilion ภายในงานมหกรรม The 29th China Lanzhou Investment and Trade Fair สำหรับพื้นที่ภายใน Thailand Pavilion แบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ (1) โซนของสถานกงสุลใหญ่ฯ ซึ่งมีการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับประเทศไทย 5 ด้าน ได้แก่ อาหาร/Food เครื่องแต่งกาย/Fashion ภาพยนตร์/Film ศิลปะการต่อสู้มวยไทย/Fight และงานเทศกาล/Festival (2) โซนของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู ซึ่งสำนักงานฯ ได้รับจัดสรรพื้นที่ประมาณ 150 ตารางเมตร ในการจัดงาน “Top Thai Brands” ภายในคูหา Thailand Pavilion โดยมีเคาน์เตอร์ติดต่อสอบถามข้อมูล แท่นจัดแสดงสินค้าไทย (Common Display) และคูหาผู้ประกอบการสินค้าไทย จำนวน 22 ราย ประกอบด้วยกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มสินค้าของใช้/ของตกแต่งบ้าน กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางพารา และกลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม (3) โซนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครเฉิงตู ซึ่งได้ประชาสัมพันธ์ส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย พร้อมแจกโบรชัวร์และของที่ระลึก และ (4) โซนของบริษัทไทยที่เข้ามาลงทุนในมณฑลกานซู่ (บริษัท CP Group ซึ่งได้นำสินค้าอาหารและผลไม้ไทยมาจัดแสดงและจำหน่าย อาทิ ข้าวหอมมะลิ ทุเรียนสด ไอศกรีมทุเรียน เป็นต้น) นอกจากทั้ง 4 โซนที่กล่าวไปแล้ว ตลอดทั้งวันยังมีการจัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ บริเวณเวทีด้านหน้าคูหาประเทศไทยและพื้นที่ภายในคูหาประเทศไทย ทั้งการสาธิตปรุงอาหารคาวและขนมหวานของไทย (เช่น ต้มยำกุ้ง ผัดไทย แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ข้าวเหนียวทุเรียนน้ำกะทิ บัวลอยทุเรียน เป็นต้น) การแสดงนาฏศิลป์ไทย มวยไทย การสาธิตนวดไทย การแกะสลักผลไม้ การแจกชิมผลิตภัณฑ์อาหาร/เครื่องดื่มของไทย และกิจกรรมตอบคำถามเกี่ยวกับประเทศไทยและสินค้าไทยเพื่อชิงรางวัล นอกจากนี้ คูหา Thailand Pavilion ยังได้รับรางวัล Best Organization Award และ Green Exhibition Award จากผู้จัดงานมหกรรม The 29th China Lanzhou Investment And Trade Fair ด้วย
ภายในบริเวณชั้น 1 ของอาคารแสดงสินค้า ยังมีต่างชาติ 30 ประเทศได้เข้าร่วมจัดคูหาและนำสินค้าที่มีเอกลักษณ์ของตนเองเข้ามาจัดแสดงและจำหน่ายในงานฯ เช่น คูหาของประเทศซาอุดิอาระเบีย ได้จัดคูหาในลักษณะการแนะนำอุตสาหกรรม/ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น และเน้นการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้เข้าไปลงทุนในประเทศซาอุดิอาระเบีย คูหาของเกาหลีใต้ได้จัดแสดงสินค้าประเภท personal care & beauty เช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ผลิตภัณฑ์ย้อมผม เป็นต้น คูหาของอินเดียได้จัดแสดงสินค้าพรมและของตกแต่งบ้าน คูหาของมาเลเซียได้จัดแสดงสินค้าอาหาร (ขนมขบเคี้ยว ผลิตภัณฑ์ทุเรียนแปรรูป) คูหาของรัสเซียได้จัดแสดงสินค้าอาหาร (ไส้กรอก น้ำผึ้ง ข้าวโอ๊ต) และของตกแต่งบ้าน คูหาของอินโดนีเซียได้จัดแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม (เช่น ชา กาแฟ เป็นต้น) นอกจากคูหาแสดงสินค้าของต่างชาติแล้ว บริเวณชั้น 1 ของอาคารแสดงสินค้ายังมีคูหาของมณฑลต่างๆ ด้วย อาทิ มณฑลเสฉวน มณฑลฝูเจี้ยน มณฑลเจียงซี มณฑลซานตง เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพของแต่ละมณฑล/พื้นที่นั้นๆ และจัดแสดงสินค้าท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะภายในงานมหกรรมฯ
ส่วนบริเวณชั้น 2 ของอาคารแสดงสินค้า จัดเป็นพื้นที่แสดงอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพมีลักษณะเฉพาะของมณฑลกานซู่ รวม 14 คูหา เช่น คูหาการเกษตรสมัยใหม่ คูหาการแปรรูปอาหาร คูหาวัสดุใหม่ คูหาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ คูหาอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ คูหายาชีวภาพ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่แสดงสินค้าที่อยู่นอกอาคารแสดงสินค้า (ลักษณะเต๊นท์กระโจมติดแอร์ขนาดใหญ่) มีพื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางเมตร จัดแสดงสินค้าได้กว่า 340 คูหา ประกอบด้วยคูหาสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าเกษตรที่โดดเด่นของมณฑลกานซู่และมณฑลต่างๆ ของจีน
ข้อมูลเพิ่มเติม/ผลกระทบ/ความเห็นของ สคต.
ภายหลังจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ของไทย ได้ลงนาม MOU ความร่วมมือด้านการค้ากับกรมพาณิชย์มณฑลกานซู่ เมื่อเดือนเมษายน 2565 กรมฯ (โดยสคต. ณ นครเฉิงตู, สำนักส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม, และสำนักพัฒนาตลาดและธุรกิจไทยในต่างประเทศ 1) ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทยร่วมกับซุปเปอร์มาร์เก็ตในนครหลานโจว มณฑลกานซู่ และการเข้าร่วมงาน Lanzhou Investment and Trade Fair ในปีที่แล้ว โดยมีผู้ประกอบการ/ตัวแทนจำหน่ายสินค้าไทย จำนวน 8 ราย เข้าร่วมจัดแสดงและเจรจาการค้า/จำหน่ายสินค้าภายใต้คูประเทศไทยของกรมฯ ส่วนในปี 2566 นี้ กรมฯ (โดย สคต.เฉิงตู/สกอ./สพต.1) ยังได้ดำเนินโครงการ/กิจกรรมอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่สอง เพื่อกระตุ้นและขยายตลาดสินค้าไทยในตลาดจีนตะวันตกเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ในงาน the 29th CLZITF ครั้งนี้ มีผู้ประกอบการสินค้าไทย/ตัวแทนจำหน่ายสินค้าไทยเข้าร่วมงานฯ รวม 22 ราย ซึ่งมีผู้เข้าชมงานจำนวนมากได้เข้ามาเยี่ยมชมคูหา Thailand Pavilion และเกิดมูลค่าเจรจาการค้า/สั่งซื้อสินค้า (ทันทีและคาดการณ์มูลค่าสั่งซื้อใน 1 ปี) รวมมากกว่า 95,000,000 หยวน (มากกว่า 475,000,000 บาท) โดยสินค้าไทยที่ได้รับความสนใจและนิยมสูง ได้แก่ น้ำมันหอมระเหย น้ำมันมะพร้าว ยาหม่องสมุนไพร หมอน/ที่นอนยางพารา และน้ำหอมปรับอากาศ
ผลจากการเข้าร่วมงานมหกรรมส่งเสริมการค้าและการลงทุนนครหลานโจว ครั้งที่ 29 แสดงให้เห็นว่า งานมหกรรมฯ นับเป็นเวทีสำคัญที่สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยและสินค้าไทยได้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในพื้นที่จีนตะวันตก และสามารถขยายตลาดสินค้าไทยในประเทศจีนอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น ประกอบกับในปัจจุบันการพัฒนาด้านระบบโลจิสติกส์, การให้บริการด้านขนส่งสินค้า และแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซของจีนได้ก้าวหน้าไปอย่างมาก จึงคาดว่าในอนาคตสินค้าไทยจะหลั่งไหลเข้าสู่มณฑลกานซู่และพื้นที่จีนตะวันตก (จีนตอนใน) ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และสินค้าไทยสามารถขยายตลาดครอบคลุมได้ทั่วทุกภูมิภาคในประเทศจีน
————————————————–
แหล่งข้อมูล :
http://gs.cnr.cn/gsxw/kx/20230706/t20230706_526317699.shtml
แปลและเรียบเรียงโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู